น้ำเน่าเคล้าควันคลุ้ง ไหลลงทุ่งใกล้โรงงาน ตาเต่ายายผึ้งอาน ร้องบอกขานไร้คนฟัง มือเท้าเปื่อยทุกปี ทิ้งทุ่งหนีก็หมดหวัง ท้อแท้ไร้กำลัง ก็คงยังเฝ้าทำนา เขาบอกสร้างโรงงาน ดินหมู่บ้านมีราคา ชาวบ้านมีหน้าตา มีเงินตราคนร่ำรวย ขนดินมาถมนา ขนเหล็กกล้าสร้างโรงงาน หนุ่มสาวจากหมู่บ้าน เดินหน้าบานไปขายแรง โรงงานสร้างเสร็จแล้ว คนเรียงแถวจากหลายแหล่ง ร้านเหล้าก็มาแรง ต่างยื้อแย่งขายยั่วยวน ตาเต่านั่งเฝ้าดู เห็นและรู้ทุกกระบวน หมดหวังจะทบทวน และเรียกร้องความเป็นธรรม ยายผึ้งนั่งไกวเปล ร้องเพลงเห่บนขนำ เด็กน้อยเป็นเด็กกรรม ถูกนำทิ้งข้างเถียงนา ไม่รู้เป็นลูกใคร แม่ตัดใจไม่นำพา ทิ้งไว้ไม่สั่งลา แต่รู้ว่าจากโรงงาน นาเน่าข้าวก็ตาย แถมยังได้เด็กอนาถา เต่าผึ้งเฒ่าชรา นั่งก้มหน้ามองนาตน ปักป้ายบอกขายที่ อยากหลบหนีไปให้พ้น ความเจริญของชุมชน ต้องทุกข์ทนจนหมดนา นี่หรือความเจริญ ที่สรรเสริญกันหนักหนา สังคมไหว้เงินตรา อย่าหวังว่าสุขแท้จริง ฝากฝัน 30 พ.ย. 5
1 ธันวาคม 2550 06:49 น. - comment id 795291
เสือหิว เสือกระหาย ตัวทำลายบ้านนาเรา โรงงานปล่อยน้ำเน่า เปิดโรงเหล้าใกล้โรงงาน ไม่รู้จักคำพอ เลยต้องก่อหนี้เสียบาน รวยนอกใจยากผลาญ เพราะแล้งไร้น้ำใจมี รักแต่ความสบาย แบกร่างขายไร้ศักดิ์ศรี ไทยเคยมีเสรี แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจ ถึงแม้ไม่ประกาศ ก็เป็นทาสเงินยิ่งใหญ่ ร้านรวงโรงงานไง ใช่ของไทยแม้ที่เดียว 555555 เศร้าจริงๆ
1 ธันวาคม 2550 10:21 น. - comment id 795347
พี่ฝากฝัน.... เห็นด้วยอย่างแรงเลยค่ะ ตราบเมื่อเรายัง ต้องกินข้าว เราก็อย่าทำลายชาวนาด้วยการ สร้างโรงงานทำลายสภาพแวดล้อม ลำพังชาวนา ก็ย่ำแย่อยู่แล้วล่ะคะ (¯`°.¸♥♥¯`° ศรรกราหน้าทะเล้น °´¯♥♥¸.°´¯)
1 ธันวาคม 2550 11:34 น. - comment id 795356
กันนาเทวี ขอบคุณนักกลอนใหญ่มากที่มาเน้นน้ำหนักของชาวนาผู้บอบบางนะ...ขอบคุณแทนลุงเต่าด้วย..ที่มีคนเข้าใจ
1 ธันวาคม 2550 11:38 น. - comment id 795357
น้องศรรกรา(ตีคลุมเรียกน้องเลย...โดยไม่ขออนุญาต) น้องขอรับ...ชาวนาเข้ากับใครอยู่ร่วมแผ่นดินกะใครก็ได้..จะสร้างโรงงาน..จะทำอะไรก็ได้..แต่โปรดให้เกียรจิซึ่งกันและกัน...ดูแลน้ำใจกัน..ให้คุณค่าของกันและกัน...เป็นสังคมสันติสุข...มิใช่กอบโกยเพียงฝ่ายเดียว
1 ธันวาคม 2550 16:10 น. - comment id 795469
......ลาทุ่ง... เข้ากรุงเมืองไกล พี่ปวดหัวใจ เพราะทรามวัยหนีหน้า อยู่บ้านอื่น/น้องก็ลืมบ้านนา ที่น้องหนีหน้า/คงพบคนที่ถูกใจ
1 ธันวาคม 2550 22:10 น. - comment id 795552
ก่องกิก ขอรับ เข้ากรุงเพราะมีรักใหม่ก็ยังดีนะครับ แต่เข้ากรุงเพราะแพ้ชีวิตนี่...อย่างตาเต่านี่ท่าจะไม่รอดครับ...
1 ธันวาคม 2550 22:17 น. - comment id 795554
สงสารหลายแท้หนอ น้ำตาคลอรอข่าวดี จำไกลน้องและพี่ หนีมากรุงมุ่งหางาน นาล่มจมน้ำเน่า เป็นเรื่องเศร้าเกินจะสาน โรงงานทำน้ำตาล ปล่อยน้ำเน่าเผาชีวี น้ำเลยเลยเน่าแล้ว เคยผ่องแผ้วกลับหมองนี่ ชาวนาน้ำตาปรี่ จำใจช้ำ....เลิกทำนา ที่บ้านก็มีโรงงาน..ชาวนาแย่แน่..
1 ธันวาคม 2550 22:49 น. - comment id 795557
อ่านแล้วรันทดหดหู่จังเลยครับ เสียดายมากนะ ที่พื้นที่ท้องทุ่งจะค่อยๆหายไป และเสียใจ อย่างแรงที่มีความเจริญแบบนี้ ชีวิตจิตใจชาวนาผู้พลัดถิ่น จะบาดเจ็บแค่ไหน
3 ธันวาคม 2550 06:45 น. - comment id 795899
ครูพิม..ครับ น้ำตาลคู่น้ำตาชาวไร่ บ่เคยหายจากหลุมหนี้ ชาวนาโดนอีกที น้ำเน่าซี..ทิ้งลงนา ปูปลาก็พลอยตาย เหล่าสาหร่ายก็หายสูญ รวยจนไม่เกื้อกูล จะสูญสิ้นทุกทุกคน
3 ธันวาคม 2550 06:50 น. - comment id 795901
แสงเหนือ...ครับ ข้าวสำคัญสุดกับชีวิตคนไทย แต่ชาวนากลับเป็นคนชั้นต่ำในสังคมไทย ข้าว...ทุกๆคนขาดไม่ได้ แต่..คนกลับมุ่งแสวงหาเงินโดยไม่คิดว่าเงินที่ได้มานั้นทำลายข้าวไปเท่าไหร่ เอาไงกันดีครับ
7 ธันวาคม 2550 13:27 น. - comment id 797759
น่าเห็นใจชาวนา (หนูเองค่ะ)จังเลยนะคะ แม้ว่าโลกใบนี้จะเปลี่ยนไป ความเจริญด้านวัตถุก้าวหน้าเร็วมาก แต่ก็ยังดีที่มีคนรักถิ่นฐานบ้านเกิดและรักอาชีพเกษตรกรรมอยู่ไม่น้อยเหมือนกันค่ะ มาเยี่ยมชมผลงานและให้กำลังใจคุณฝากฝันค่ะ
11 ธันวาคม 2550 00:09 น. - comment id 798573
ช่อแก้ว ขอบคุณมากๆที่นักกลอนใหญ่หลายท่านมาเยี่ยมเยือน...อย่าลืมช่วยแนะนำกันบ้างนะขอรับ