@ กว้างใหญ่วิไลฟ้ามหานคร หอบเสื่อสาดมุ้งหมอนมาแต่ไหน? สู่กรุงมุ่งหวังความตั้งใจ คือสิ่งใดหนอเจ้าที่เข้ามา หรือบ้านเกิดยากแค้นขัดสน จึงดั้นด้นเดินทางไกลไม่ชักช้า จากบ้านเกิดถิ่นเคยอยู่อู่ข้าวปลา ทางข้างหน้าในเมืองใหญ่ใครบอกกัน หรือแสงสีเมืองหลวงทวงถามเจ้า คอยยั่วเย้านี่คือทางสร้างสวรรค์ มิเคยหลับเริงรื่นทั้งคืนวัน เจ้าเคยฝันทุกสิ่งมีที่กรุงไกร ตึกรามสูงเสียดฟ้าน่าสัมผัส เส้นทางลัดลอยฟ้าน่าชมไหม? มุดลงดินก็มีสร้างทางรถไฟ โรงงานใหญ่รอรับเจ้าเข้าทำงาน @ ตัดสินใจลาพี่น้องล่องเข้ากรุง ความฝันฟุ้งเปี่ยมหวังดังกล่าวขาน สมคำลือนึกไม่ถึงตะลึงลาน สูงตระหง่านตึกระฟ้าน่าชื่นชม คนมากมายยื้อแย่งมาแข่งขัน ทุกคืนวันเหงาหงอยพลอยขื่นขม หลับตาลงคราใดให้ตรอมตรม เอนกายล้มนอนผวาทุกคราคืน ล้วนแปลกหน้าผู้คนบนทางกว้าง เหมือนเวิ้งว้างกลางทุ่งใหญ่ไม่อาจฝืน เมืองยิ่งใหญ่ใยไม่มีที่ให้ยืน ที่หยิบยื่นคือยุ่งยากอย่างเยือกเย็น กับหมอนมุ้งที่ซุกกายใต้ตึกสูง เคยหมายมุ่งสุขสบายไร้ทุกข์เข็ญ ความเป็นจริงคือยากแค้นแสนลำเค็ญ ขอหลบเร้นอายหน้ามหานคร.
1 พฤศจิกายน 2550 13:10 น. - comment id 780917
สุดท้ายก็คืนคอน ลามหานคร ย้อนคืนเรือน
2 พฤศจิกายน 2550 16:17 น. - comment id 781550
สุดท้ายแล้วคนเราเสาะแสวงหาสิ่งใดให้ชีวิตกันน๊อ...... เคยถามตัวเองมั๊ยคะ...เราจากบ้านเกิดมาไกลแสนไกลแต่ความสุขที่แท้จริงของเราก็คือที่ๆเราจากมา...แล้วเรามาทำอะไรที่นี่กันน๊อ...โคลอนถามตัวเอง บ่อยๆค่ะ...เพื่อที่สักวันหนึ่งจะได้มีแรงขับเคลื่อนให้เรากลับบ้าน...ไม่หลงแสงสี....ในมหานครแห่งนี้