แม้เหนื่อยล้า ทั้งสังขาร ที่ยานหย่อน ต้องอดนอน ทำงานหนัก และหักโหม ไม่เคยท้อ กับร่างกาย ที่ทรุดโทรม หลังงอก้ม พยุงกาย ไปหากิน หวังเพียงเศษ เงินบาท แลกสิ่งของ ไม่ร่ำร้อง ใจแกร่ง ดั่งผาหิน ได้เงินบาท แลกเศษฟืน เลี้ยงชีวิน ใครหยามหมิ่น อย่างไร ไม่นำพา ถึงหูตา ฟ่าฟาง ใจยังสู้ ไม่หยุดอยู่ ยอมให้ ใครมาว่า แปดสิบเอ็ด ขวบปี ที่ผ่านมา นั้นมีค่า เป็นแบบอย่าง สร้างแรงใจ ใครเคยท้อ ขอให้ดู ย่าทองนี่ อย่าคิดหนี เมื่อเจอ ปัญหาใหญ่ ให้อดทน เดินหน้า ฟันฝ่าไป สู่จุดหมาย วันข้างหน้า มัวช้าใย เรานั้นมี อะไร ตั้งมากกว่า เอาชีวา ตัวเอง รอดไม่ได้ คงไม่พ้น คนว่า ให้อับอาย ว่าหัวใจ ไม่แกร่งกล้า เหมือนย่าทอง ย่าทอง ขอปล้องกลาง คุณย่าวัย 81 หญิงชรา ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนโลกที่แสนกว้าง ท่ามกลางความลำบากและเดียวดายอ้างว้าง ไร้คนเหลียวแล แต่ชีวิตที่ต้องสู้แบบไม่มีทางเลือก ย่าทอง ต่อสู้บนสังขารที่ร่วงโรย ด้วยการขายเศษฟืน... ชีวิตของย่านั้น ต้องอยู่อย่างลำบากในเพิงสังกะสีเก่าๆ ไม่ต่างจากกองขยะ ที่ทั้งอุดอู้ สกปรก และไม่สามารถกันแดดฝนอะไรได้เลย คุณย่าต้องเดินเท้าหลายกิโลฯ พร้อมกับกระสอบฟืน ขวดน้ำเก่าๆ และร่มคันหนึ่งใช้พยุงตัวเองมาเรื่อยๆ ให้ถึงหน้าโรงเรียนบุญวัฒนาเพื่อขอขึ้นรถโดยสาร (ที่บางคันจอดรับและบางคันก็ไม่ให้ย่าขึ้น) ไปยังหน้าร้านทองสามแยกตลาดแม่กิมเฮง จ.นครราชสีมา ป้ายกระดาษยับๆ ที่มีข้อความ"1 บาท เศษไม้ขอแลกเศษเงิน ขอบคุณลูกหลาน... ที่ช่วยต่อชีวิตให้ยาย" ที่วางอยู่หน้ากองฟืน นั้นได้คนขับสามล้อแถวนั้นเขียนทิ้งไว้ให้เผื่อว่าคนที่ผ่านไปมา จะได้เห็นว่าที่มุมเสาไฟฟ้านั้นมีอีกชีวิตที่รอคนเมตตา ซึ่งความจริงนั้นบางวันย่าอาจ ได้ แค่คนที่หยุดมองอย่างสงสัย แต่ก็ไม่มีใครสนใจจะซื้อ เฮ้อ! เศร้าจัง. .ย่าทอง ต้องนั่งอาศัยเงาจากเสาไฟฟ้า เพื่อขายของบางอย่างที่คนสมัยนี้เค้าไม่ได้ต้องการแล้ว นั่นก็คือฟืน . . แต่สำหรับย่า "ฟืน" เปรียบเหมือนความหวังเดียวที่ย่ามี และเป็นทางออกเดียวที่ย่าเห็น จากดวงตาที่พร่ามัวเกือบบอดด้วยโรคชรา แต่ย่าทอง กลับไม่เคยร้องขอความช่วยเหลือจากใคร แล้วเราๆท่านๆทั้งหลาย จะมัวท้อแท้กันอยู่ทำไม สู้ด้วยใจที่กล้าแกร่ง เช่น ย่าทอง กันเถอะนะครับ ขอให้กำลังใจ
1 พฤศจิกายน 2550 07:28 น. - comment id 780756
สวัสดีพี่ชาย....พี่ชายที่แสนดี นี่แหละหนอชีวิตคนสุดอนาถ มิสามารถเลือกได้ดังใจหมาย จำต้องอยู่บนโลกเปลี่ยวอย่างเดี่ยวดาย ก่อนจะตายกายสิ้นแดดิ้นไป.. นี่แหละค่ะ คนเราเลือกเกิดไม่ได้ เฮ่อ...
1 พฤศจิกายน 2550 07:00 น. - comment id 780764
สวัสดีค่ะ....... แสงไฟในกองฟืน ยังสู้ฝืนแม้ล้าหลัง เกือบหมดแรงพลัง แต่ก็ยังสู้อดทน ชีวิตทีสดใส แล้วเหตุไรยังพร่ำบ่น ต่อสู้เถิดทุกคน แม้จนเงินอย่าจนใจ
1 พฤศจิกายน 2550 07:28 น. - comment id 780766
สวัสดีพี่ชาย....พี่ชายที่แสนดี นี่แหละหนอชีวิตคนสุดอนาถ มิสามารถเลือกได้ดังใจหมาย จำต้องอยู่บนโลกเปลี่ยวอย่างเดี่ยวดาย ก่อนจะตายกายสิ้นแดดิ้นไป.. นี่แหละค่ะ คนเราเลือกเกิดไม่ได้ เฮ่อ...
1 พฤศจิกายน 2550 08:58 น. - comment id 780796
สวัสดีค่ะ ถึงเหน็ดเหนื่อยเมื่อยหล้าพาสังขาร กับวันวานที่เหนื่อยหนักพักกายหนาว เหมือนแสงไฟใกล้ดับลับอีกเคราว แต่ไม่เศร้าหัวใจแกร่งเพื่อแรงกาย สวัสดีค่ะ เยื่อมค่ะ สงสารคุณยายน้อ..เฮ้อ..ขีวิตต้องสู้อยู่อย่างพอเพียงค่ะ..
1 พฤศจิกายน 2550 09:16 น. - comment id 780804
โอ้ชีวิต คิดไป ใจหดหู่ หลายคนผู้ ยากไร้ ไม่หรรษา อาจเป็นเพราะ เคราะห์กรรม ได้นำพา ให้ชีวา ทุกข์ยาก ลำบากครัน น่าสงสารนะครับ ผมว่ายังมีหลายๆชีวิต ที่มี ความทุกข์อย่างคุณย่าทอง จริงๆแล้วหากเรา สงเคราะห์กันได้บ้าง คนละเล็กละน้อย อย่าดูดายกัน สังคมก็จะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ครับ สวัสดีครับน้องไผ่ พี่ขอมาแจมกลอนด้วยคนนะครับ
1 พฤศจิกายน 2550 09:22 น. - comment id 780808
สวัสดีค่ะ ถึงเหน็ดเหนื่อยเมื่อยหล้าพาสังขาร กับวันวานที่เหนื่อยหนักพักกายหนาว เหมือนแสงไฟใกล้ดับลับอีกคราว แต่ไม่เศร้าหัวใจแกร่งเพื่อแรงกาย สวัสดีค่ะ เยี่อม.. สงสารคุณยายน้อ เฮ้อ ..ขีวิตต้องสู้อยู่อย่างพอเพียงค่ะ
1 พฤศจิกายน 2550 09:26 น. - comment id 780811
สวัสดีค่ะขออภัยนะคะเน็ตหลุดติดๆดับๆค่ะ
1 พฤศจิกายน 2550 12:01 น. - comment id 780867
อ่านแล้วเกิดความรู้สึกหลายอย่างมากค่ะ แสงไฟในกองฟืน ที่คงไกล้จะมอดเต็มทีแล้ว แต่ยังต้องหาคนมาเติมเชื้อไฟ ด้วยวัยที่น่าจะได้พักผ่อนนอนสบาย ด้วยการเลี้ยงดูจากลูกหลาน นะค่ะ มันเศร้าจัง
1 พฤศจิกายน 2550 12:12 น. - comment id 780871
อนิจจัง สังขาร ของคนหนอ เกิดแล้วก็ มีแก่ และเจ็บไข้ ทั้งร่ำรวย จนเข็ญใจ ไพร่ผู้ดี ไม่อาจหนี ควรระวัง มิยั่งยืน อนัตตา ทุกขัง ควรท่องไว้ สิ่งใดใด เข้ามา อย่าไปฝืน ชีวิตผ่าน เลยไป ไม่กลับคืน มิยั่งยืน เหมือนความดี ที่เราทำ.
1 พฤศจิกายน 2550 13:06 น. - comment id 780910
สักวันเราคคงเป็นแบบนี้ ปลงจัง..อ่านแล้วอะปู่
1 พฤศจิกายน 2550 13:31 น. - comment id 780931
อนิจจัง สังขาร ของคนหนอ เกิดแล้วก็ มีแก่ และเจ็บไข้ ทั้งร่ำรวย ผู้ดี จนเข็ญใจ ทุกอย่างให้ จงระวัง ไม่ยั่งยืน อนัตตา ทุกขัง ตระหนักไว้ มีสิ่งใด เข้ามา อย่าไปฝืน ชีวิตผ่าน เลยไป ไม่กลับคืน มิยั่งยืน เหมือนความดี ที่เราทำ.
1 พฤศจิกายน 2550 17:57 น. - comment id 781037
เห็นแล้วไม่อยากจะแก่เลยค่ะ แต่ย่าทองแกแกร่งและเข้มแข็งกว่า คนหลายๆคนเลยนะคะ ยอมรับในการสู้ชีวิตของยายค่ะ
1 พฤศจิกายน 2550 22:18 น. - comment id 781190
นับถือคุงยายจริงๆเลย ทำให้เรารุสึกว่าเรา ไม่ได้ถึงครึ่งของคุณยายเลย
2 พฤศจิกายน 2550 11:44 น. - comment id 781362
ลูกหลานคุณยายเค้าไปไหนกันหมดหนอ ถึงไม่ดูแลกันบ้าง เห็นแล้วก็น่าเศร้าใจค่ะ
2 พฤศจิกายน 2550 15:27 น. - comment id 781517
เห็นแล้วเศร้าจัง ทำไมลูกหลานถึงแล้งน้ำใจจังเลย ไม่ยอมดูแล ......
2 พฤศจิกายน 2550 15:52 น. - comment id 781532
อ่านแล้วน้ำตาซึมเลยหาได้งัย ซึ้งมากๆๆๆ ยิ่งเป็นคนขี้สงสารด้วย ทำไมไม่พาแกไปอยู่ศูนย์ฯ พวกลูกหลานนี่ก็ช่างกะไรเฮ่อ!
2 พฤศจิกายน 2550 16:19 น. - comment id 781551
ง่า...เคยเห็นรูปคุณยาย นานแล้วค่ะ ...ดูกี่ครั้งก็ยังรู้สึกหดหู่ใจเหลือเกิน อ่านกลอนประกอบไปด้วย ก็ยิ่งทำให้อินไปตามความรู้สึก