กี่กองไฟจึ่งบ่มดาวให้วาวแสง กี่ท่อนฟืนจักแปลงเปลวไฟหวัง กี่เถ้าถ่านมอดดับอับพลัง กี่อักษรกี่หมื่นหวังจักลุกโชน.. หมื่นภูโค้งอ้อมเขาเข้าตรึงข่ม แสนห่อห่มภูหนาวพร่างพราวโพ้น เส้นทางหนาวแปลงอุ่นเป็นอ่อนโยน ความอ่อนโอนเพียงเอื้อเพื่อเส้นทาง สาดพายุดุดาษเป็นลมเดือด ไม่หมาดเหือดเม็ดฝนที่หม่นหมาง กระหน่ำหนักหลักจรอักษรจาง เลื่อนเลือนรางลมปึงขาดผึงปลิว กระแสธารแรงเชี่ยวเกินเหนี่ยวชล ทะลักล้นทุนหยอกกระฉอกฉิว เจิ่งน้ำตาบ่าท่วมทุกทุ่งทิว ระลอกริ้วอักษรที่อ่อนบาง ตะวันร้อนเร่งรุกกาลปลุกเร้า เมฆทึมเทาเกินทานทะยานขวาง ระยิบแดดกลืนกร่อนจนฝ่าฟาง เผาความคิดครุ่นค้างให้จางจินต์ ดื่มแสงจันทร์ค่ำคืนจนเดือนคล้อย หยดน้ำค้างร้างลอยมลายสิ้น เพ้ออักษรกลอนเศร้าทั้งดาว-ดิน วักดื่มกินน้ำค้างที่ร้างลอย... อิสระความคิดอิสระ ปลดพันธะเส้นทางเคยร้างถอย ปั้นดินดิบปรุงดาวประดิฐษ์ประดอย ประจงร้อยอักษรร่ำกลอนกานต์ ก่อกองไฟอุ่นดาวให้วาวเด่น สงบเย็นฝุ่นเถ้าเข้าหึกหาญ สุมไฟฟืนดื่นดึกประจักษ์จาร เปลวไฟหวังแดงฉานอักษรโชน...
29 สิงหาคม 2550 18:44 น. - comment id 746052
อืมม์หวังสิ่งใดในหล้าโลก สุขกับโศกไม่หนีหาย หวังโลกจะคืนคลาย คงฝันร้ายกะหวังดี
29 สิงหาคม 2550 20:47 น. - comment id 746094
แวะมาชื่นชมผลงานค่ะ..
30 สิงหาคม 2550 14:09 น. - comment id 746463
แวะมาอ่าน และ ค้นหาความหวังของคุณค่ะ และ ขอให้สมหวังนะค่ะ
31 สิงหาคม 2550 09:20 น. - comment id 746832
ความเป็นจริงมนุษย์เราก็มุ่งหวังไปทั่วครับขณะเมื่อยังมีความอยากอยู่ แต่ถ้าจะได้ดังหวังคงต้องลงมือทำ โดยส่วนตัวแม้แต่เรื่องเขียนกลอนบางครั้งก็ขี้เกียจ ทำให้ไม่ต่อเนื่องและไม่พัฒนา ขอบคุณทุกท่านที่มาเยือนครับ