ดูรูปนี้แล้วเศร้าน่ะ..และก็ชอบมากเลย.. แต่ช่วงนี้แต่งกลอนไม่ค่อยออก... รบกวนเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ..ช่วยกันแต่งให้หน่อยนะคะ.. ขอบคุณมากค่า...
3 กรกฎาคม 2550 13:17 น. - comment id 719178
โถคุณยาย คงจะหนาว และเหงาใจ หายไปไหน ลูกหลาน ของยายจ๋า น่าสงสาร ยายจริง เป็นหนักหนา น้ำผึ้งเดือนห้า เอายายมา ลงหน้ากลอน ............ ถ้าแต่งไม่ถูกใจ ก็อย่าว่านะ
3 กรกฎาคม 2550 13:32 น. - comment id 719190
นั่งเหม่อลอยรำพึงถึงเรื่องเก่า ผ่านความเหงามานานร้าวรานเหลือ หนาว-ร้อน-ฝน-มรสุมที่คลุมเครือ ทุกข์รานเรื้อซึมเศร้าจนเข้าใจ อิอิ แจมกะยายแบบเหงา..และเข้าใจ
3 กรกฎาคม 2550 13:50 น. - comment id 719201
ถนนสีเทาทอดยาวอยู่เบื้องหน้า สายตาเลือนพร่าความทรงจำเก่า ๆ เริ่มลดหาย มืออันสั่นเทาโอบกอดประทังความหนาวกาย โหยหาอาลัยผู้คนรอบกายที่ห่างหายไปกับคืนวัน น้ำตารินไหลอยู่ภายใต้ฟ้าสีหม่น นับเวลาให้ผ่านพ้น จะมีใครสนคนชราเช่นฉัน นี่แหละนะโลกมนุษย์ ฉันก็แค่ปุถุชนคนมีฝัน พอสังขารอ่อนแรงก็จบกัน ใกล้ถึงวันได้หลับตา.... ภาพเหงามาก ๆ คะ สะท้อนความรู้สึกได้มากมาย บรรยายภาพตามความรู้สึกเนอะ ไม่รู้ชอบหรือป่าว แวะมาร่วมแต่งกลอนจ๊ะ
3 กรกฎาคม 2550 16:05 น. - comment id 719241
อันโลกหล้า เลือนล้า แลพร่านัก เพียงแรมพัก พิงใจ ณ ปลายฝัน หลับแล้วตื่น ฟื้นแล้วไป ในนิรันดร์ รอวารวัน ร่างร่วง ดินทวงคืน ทั้งเหน็บหนาว ร้าวราน มาผลาญพร่า ดวงวิญญาณ์ ล้าเหลือ เกินเผือฝืน ร่างเทาสั่น งันงก เกินยกยืน นัยน์ตารื่น ฤาขื่นขม เพียงชมเอา แล้ววันหนึ่ง ซึ่งทางไกล ต้องไปต่อ เกินรั้งรอ พ้อสวรรค์ ในวันเหงา เพียงเดียวดาย กลายผง ลงนานเนา แล้วตัวเรา พร้อมบ้างไหม ถามใจตน สวัสดีครับคุณน้ำผึ้งเดือนห้า ช่างสะท้อนสัจจธรรมเสียจริงๆนะครับ
3 กรกฎาคม 2550 16:15 น. - comment id 719245
แพรวชอบภาพนี้จังเลย ตอนนี้คิดไม่ค่อยออกเลยค่ะ แต่ภาพบรรยายความรู้กได้เศร้ามากจริงๆค่ะ ไม่อยากให้บั้นปลายชีวิตของทุกคน้องมานั่งในมุมแบบนี้ค่ะ
3 กรกฎาคม 2550 16:37 น. - comment id 719255
นั่งเศร้าเดียวดายอยู่ปลายทาง มีใครบ้างหันมามองคนข้างหลัง นั่งคอยอยู่ ด้วยความหวัง ล้ากำลัง แม่คงยัง นั่งคอยอยู่ อย่างเดี่ยวดาย...คิดถึงแม่
3 กรกฎาคม 2550 16:42 น. - comment id 719257
แต่งไม่ออกแต่อยากบอกว่าเห็นแล้ว คิดถึงแม่จังเลยคะ อย่าปล่อยให้คนที่เรารักต้องอยู่เดียวดาย เพราะถ้าเกิดกับเราคงเศร้าเช่นกันค่ะ
3 กรกฎาคม 2550 20:55 น. - comment id 719333
สายตาทอด มองไกล ในพื้นกว้าง แสนอ้างว้าง เดียวดาย ในที่เก่า ยากจะหา สิ่งใด ให้บรรเทา ความเหงาเศร้า เกาะกิน จนสิ้นแรง
3 กรกฎาคม 2550 22:24 น. - comment id 719362
นั่งเหม่อมองสองตาแลชะแง้หา เช้าจรดเย็นไม่เห็นมาลูกยาเอ๋ย แม่เฝ้ารอเลือนรางเหมือนอย่างเคย หมดคำเอ่ยเอื้อนออกบอกความนัย แงแง แต่งแล้วก็รู้สึกผิดยังไงไม่รุ..ปราณรวี
3 กรกฎาคม 2550 22:54 น. - comment id 719383
ณ.มุมหนึ่ง..ของโลก..ที่โศกนั้น มีสายตา..รอวัน..อันสดใส แววตาเหม่อ..แลซ้ายขวา..ทุกคราไป เหมือนรอใคร..คนหนึ่ง..ซึ่งมาเยือน ผิวย่นย่น..มือหยาบหยาบ..ทราบหรือเปล่า นั่งนอนหนาว..เจ็บป่วยไข้..ไร้แม้เพื่อน สายตาแห่ง..ความทุกข์ทน..ยังย้ำเตือน จากวันเดือน..นานหลายปี..ไม่มีใคร อาหารแต่..ละมื้อ..คือปราร้า หยิบยื่นมา..จากชาวบ้าน.."ร้านใกล้ใกล้" ข้าวเหนียวนิด..น้ำสักขัน..ปันน้ำใจ ซึ่งหลั่งไหล..มาเยือน..เป็นเพื่อนกัน ยามหนาวเหน็บ..ผิงไฟ..ให้อบอุ่น ใช้ไม้หนุน..แทนต่างหมอน..นอนเพ้อฝัน ลูกหญิงชาย..ไม่กลับมา..พบหน้ากัน นอนหนาวสั่น..ในกระท่อม..อย่างตรอมตรม ทุกข์แสนทุกข์..เพียงไร..ใครเห็นบ้าง ต้องอ้างว้าง..หวั่นไหว..ใจขื่นขม ลูกอยู่ไหน..แม่ปวดร้าว..เศร้าระทม รอชื่นชม..รับขวัญ..วันเจ้ามา ไม่เคยหวัง..สิ่งใด..ในตัวเจ้า โปรดจงเข้า..ใจแม่..ชะแง้หา รอความรัก..จากลูก..นะแก้วตา สองมือล้า..ยังรอเจ้า..มาเว้าวอน อยากกอดเจ้า..ก่อนตาย..จะได้ไหม ให้ชื่นใจ..สักครั้ง..ยามเหนื่อยอ่อน ก่อนดวงตา..จะหลับ..ใหลจำจากจร ก่อนได้นอน..ลาลับ..ไม่กลับมา..
4 กรกฎาคม 2550 08:43 น. - comment id 719498
ขอบคุณพี่ๆน้องๆทุกท่านที่ร่วมสร้างสรรค์นะคะ.......
4 กรกฎาคม 2550 10:53 น. - comment id 719574
ผ้าห่มบางผืนน้อยคอยกันหนาว ในครั้งคราวลมพัดมาพออุ่นได้ แต่หนาวนักและหนักคือหัวใจ ที่ไร้ใครมาเหลียวแลและแคร์กัน เฝ้ามองดูหนทางที่กว้างขวาง พื้นที่ว่างแต่ไม่มีที่ให้ฉัน ได้รู้สึกอุ่นใจในบางวัน ไร้สัมพันความห่วงใยในแววตา ไปไหนหนออยู่ไหนใจฝากถาม ทุกโมงยามยังห่วงใยเป็นนักหนา ลูกไม่แลหลานห่างหายไม่เคยมา มีปู่ย่าตายายเพียงลำพัง เกือบแหน่ะ เกือบจมน้ำตาย
4 กรกฎาคม 2550 11:47 น. - comment id 719613
ทุกท่านแต่งได้ไพเราะมากค่ะ...แตกต่างบางคำ..แต่ล้วนความหมายเดียวกัน...ขอบคุณมากนะคะสำหรับแรงบันดาลใจ....
4 กรกฎาคม 2550 15:35 น. - comment id 719731
ฉันนั่งมองสิ่งที่พลัดพราก กับการลาจาก..ที่ไม่เต็มใจนัก สุดท้ายแล้วฉันเองได้รู้จัก กับคำว่า รัก อย่างแท้จริง. .. ฉันรักต้นหญ้า ใบไม้. . . เพราะพบว่ามันอยู่ข้างกาย เวลาเหงา ฉันรักตัวเองที่เคยผ่านเรื่องเก่าๆ แม้ว่ามันจะเศร้า. .มันยังมีค่าในเวลาเหงา "เสมอ...มา"