ศูนย์คะแนนแม่นหรือว่าคือไร้ ไร้แสงไขสรรพศาสตร์ในสมอง ประสบการณ์พาลสิ้นไร้ในครรลอง ต้องบกพร่องพื้นฐานการเป็นคน ดูแต่ศูนย์เซลเซียสสิดูก่อน หมดความร้อนแม่นหรือจึงถือผล เที่ยวตื่นตูมเป็นกระต่ายผู้ตีตน มิอดรนทนหนาวสักคราวครา ยังอีกศูนย์กิโลกรัมไร้น้ำหนัก ทำทึกทักจักต้องตายให้ได้หนา ว่าค่าไร้มวลลดหมดราคา แน่หรือว่าที่โวยวายไม่หายใจ โอ้บทกลอนอาดูรศูนย์ความเห็น ความโดดเด่นอันเหม็นเน่าไม่เอาไหน ถามหน่อยเถิดเปิดหรือยังเล่าข้างใน อ่านเข้าใจถ่องแท้แน่หรือยัง ศูนย์สิ้นไร้ชัยชนะ ณ วันนี้ ดูให้ดีนี่แน่หรือคือสิ้นหวัง ศูนย์ยังเห็นเป็นศูนย์ศูนย์จงฟัง คนจะดังเริ่มจากไหนให้ถามตน
24 เมษายน 2550 12:52 น. - comment id 686959
สนอะไรกับเรตติ้ง มีบางสิ่งน่าสนใจกว่า คือความสุขใจในอุรา เขียนภาษาตามใจตน
24 เมษายน 2550 17:08 น. - comment id 687087
แวะมาอ่าน ทักทายด้วยคนนะคะ
24 เมษายน 2550 20:26 น. - comment id 687174
มาสวัสดีและแสดงความเห็นที่ตรงกันคร้าบ
24 เมษายน 2550 23:26 น. - comment id 687307
ร่ายบทกลอนเพื่อผ่อนอารมณ์เศร้า บ้างเขียนเค้าโครงก่อที่ท้อเหลือ บ้างเพื่อหวังให้คนสนใจเจือ มาเอื้อเฟื้อเผื่อรักจักเบาคลาย อันบทกลอนสั่นคลอนทั้งดวงจิต ได้ขบคิดได้สอนย้อนความหมาย แม้นได้ศูนย์ใช่คุณต้องอับอาย คุณค่าที่คุณร่ายคนคมคายย่อมรู้อยู่แก่ใจ คือแพรวเขียนไม่เก่ง แต่ความหมายจริงๆที่อยากจะบอกคือ อย่าไปสนใจกับคนรอบข้างบทกวีที่ดี เพียงแค่อ่านก็ทำให้เราทึ่ง ทำให้ได้ขบคิด แม้ไม่ได้เอ่ยปากชม แต่ในใจก็ยังคงชื่นชมไม่ใช่น้อย ยังไงก็ช่วยสอนด้วยนะคะ
24 เมษายน 2550 23:33 น. - comment id 687308
ภาษางาม งามอะไร ใจเรารู้ อย่าไปดู เช็คเรตติ้ง วิ่งไหวไหว ไม่ได้ช่วย ให้เราดัง หรือกว้างไกล ถ้าตราบใด จิตเรานั้น ถูกบั่นทอน เป็นกำลังใจให้นะคะ เริ่มต้นด้วยความรัก..... ลงท้ายด้วยความเข้าใจ ภาษาใดๆก็ย่อมงามค่ะ
24 เมษายน 2550 23:56 น. - comment id 687318
.....ใช่ครับผมคงคิดเหมือนกับท่านนักกลอนด้านบน นั้นละครับผมเองก็เพิ่งหัดแต่งกลอนที่บ้านกลอน ......มาเป็นความเห็นที่ไม่ใช่ศูนย์ถึงจะเป็นศูนย์ก็เป็นอย่างภาคภูมิใจในกลอนที่ตัวเองนั่งเขียนมาด้วย
25 เมษายน 2550 11:39 น. - comment id 687484
ขอบพระคุณคุณผู้อ่านทุกท่านหนา เจียดเวลามาพาทีวจีหวาน อัลมิตรากวีปกรณ์มิช้าการ ที่ช่วยอ่านขานรับมาฉับไว อีกฉางน้อยชื่อเสียงอ่อนเดียงสา เหมืองเพียงว่าชีวาหนูดูสดใส และเพียงแพรวแว่ววาจามาแต่ไกล หวานคำไทยไหวอ่อนด้วยกลอนกานท์ มัสลินพริกไทยดำก็ย้ำรับ เจ้าตอบกลับด้วยรู้แยกดูแตกฉาน จักขอบใจอย่างไรหนอพอดวงมาน เพราะคำหวานมักมิซึ้งทั่วถึงใจ ทว่ากลอนข้าเครียดดูเคียดแค้น เพียงแต่แก่นจงดูก่อนคงคลอนไหว ขอโทษเจ้าที่ประเด็นเป็นผิดไป ขออภัยที่ความคิดดูบิดเบือน ข้าเสนอถึงศูนย์ไม่สูญสิ้น หากถวิลถึงฝันอันหมายเหมือน เพราะจากศูนย์จักเป็นหนึ่งจึงยิ้มเยือน เพื่อย้ำเตือนว่าต้องสู้ในลู่ทาง ปฏิเสธมิได้เลยเมื่อเอ่ยศูนย์ หลายอาดูรสูญสิ้นจนหมิ่นหมาง อาจทำใครไขว้เขวด้วยครวญคราง พลังพลางจักสิ้นไร้ในบัดดล กลอนจึงบอกตอกย้ำร่ำเอาไว้ อย่าเอาใจสักใจไปใส่สน คนจะดังเริ่มจากไหนให้ถามตน เริ่มจากจนมีเป็นศูนย์แล้วพูนไง
26 เมษายน 2550 18:59 น. - comment id 688098
ก่อนนับหนึ่งนับสองต้องเริ่มศูนย์ ทวีคูณเป็นสองสามสีห้า ประสบการณ์สร้างเสริมเติมปรีชา ประเมินค่าวัดได้ด้วยใจตน