..๏ คนกลบเกลื่อน

อัลมิตรา

Leelawadee.jpg
..๏ วนเวียนเขียนเพียรพร่ำว่าช้ำชอก
คือคารมลวงหลอกขอบอกนั่น
อีกอักษรเล่ห์หวานหว่านสารพัน
เลศนัยนั้นซ่อนไว้หากไตร่ตรอง
ยกสัจจธรรม,ธรรมจริงมาอิงอ้าง
แท้อำพรางปิดบังชั่วทั้งผอง
ทำเป็นปากปราศรัยน้ำใจนอง
คิดเกี่ยวข้องเพราะเจตนามุ่งราวี
ส่งสาส์นถึงตัวตนคนกลบเกลื่อน
อยากจะเตือนให้ตระหนักถึงศักดิ์ศรี
ภาพของท่านคนไม่รู้อาจดูดี
ท่านคิดเสพย์สุขนี้สักกี่นาน ? 
หากกระทำเพื่อข่มลบปมด้อย
ด้วยต่ำต้อยกระเสือกกระสนหวังคนขาน
โปรดอย่าสร้างความริยำให้รำคาญ
เฉกเช่นท่านที่เสมือนกลบเกลื่อนตน ๚ะ๛
				
comments powered by Disqus
  • แสงไร้เงา

    24 มิถุนายน 2549 00:00 น. - comment id 585808

    สวัสดีคะ แวะมาส่งยิ้มคะ อิอิ11.gif46.gif36.gif
  • บินเดี่ยวหมื่นลี้

    24 มิถุนายน 2549 01:01 น. - comment id 585825

    ...อย่าเอาพิมเสน..ไปแลกกับขี้เกลือ...มันหาประโยชน์และคุณค่าไม่ได้แม้นเสี้ยวกระผีก
    
    .....31.gif22.gif22.gif22.gif%5C%5C
    31.gif
  • ชมพูภูคา

    24 มิถุนายน 2549 09:14 น. - comment id 585853

    คนกลบเกลื่อน  เนียนไม่นานหรอกค่ะ
    นอกจาก  จะทำจนเป็นธรรมชาติของตัวเอง
    ยากที่จะเปลี่ยนแปลง  
    หรือบางที  แม้ตัวเราเอง
    ก้ออาจเคย...เป็น...คนกลบเกลื่อนเหมือนกัน
    นะคะ...ว่ามั๊ย...
    
    
    
    38.gif38.gif38.gif38.gif38.gif38.gif38.gif
  • แดดเช้า

    24 มิถุนายน 2549 10:05 น. - comment id 585861

    น่าเห็นใจนะ ...
    บางคนเขาก็ไม่รู้ตัวว่า เขากลบเกลื่อน
    เขาก็หลงคิดว่า เขาทำดีแล้ว 
    
    คนพวกนี้ ... น่าสงสารมากกว่านะคะ
    เพราะไม่สามารถยอมรับตัวเองได้และเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ 
    
    แต่ผลที่เกิดขึ้นน่ะสิ ...
    เป็นปมปัญหาพันนุงนังเลย
    แล้วก็ไม่มีดวงตาที่จะมองปัญหาอันเป็นผลจากการกระทำของตัวเอง
    
    
    
    อืม ... พูดไปแล้วก็ต้องกลับมาดูตัวเองด้วยเนาะว่า เราเป็นอย่างนั้นหรือเปล่าน้า จะได้แก้ไข ไม่ให้ก่อปัญหาให้กับใครๆ
    
    
    
    มาทักทายค่ะ ... คุณอัลมิตรา : )
    
    
    
    11.gif36.gif
  • คนคอนถม

    24 มิถุนายน 2549 10:08 น. - comment id 585862

    อิ อิ สบายดีนะ
  • แมงกุ๊ดจี่

    24 มิถุนายน 2549 10:32 น. - comment id 585867

    สวัสดีค่ะ   คุณอัลฯ
    
    ไม่ปฏิเสธใด ๆ  ทั้งสิ้น  เพราะมะกรูดก็กลบเกลื่อน...
    ไม่มีความจำเป็น   ที่จะต้องบ่งบอกตัวตนให้ใครรู้...
    เพียงแต่เรารู้   ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
    ไม่ทำร้ายใคร   หรือถ้าทำร้ายโดยไม่ตั้งใจก็ต้อง  ขอโทษไว้  ณ  ที่นี่   ด้วย
    
    รักษาสุขภาพนะค่ะ  36.gif
  • สร้อยแสงแดง

    24 มิถุนายน 2549 10:56 น. - comment id 585874

    คุณอัลมิครา
    รู้ว่าเหม็นอย่าไปเค้นจมูกดม
    เห็นขี้เหร่อย่าไปชมว่าสมสวย
    ปฏิกูลเสพย์ไปก็มวดม้วย
    ของเฮงซวยไปใส่ใจไม่ดีนะ...จะบอกให้
    
    
    39.gif39.gif39.gif
  • กัญจน

    24 มิถุนายน 2549 14:12 น. - comment id 585915

    สวัสดีคะ..แวะทักทาย..
    ...กลอนกินลึกจริง...
  • ฤกษ์(ไม่ได้ล๊อกอิน)

    24 มิถุนายน 2549 17:02 น. - comment id 585953

    โบราณว่าเต่าใหญ่ไข่แล้วกลบ
    คนทำผิดต้องหลบกลัวจับได้
    เห็นเจ้าหนี้เดินมาโดดหนีไว
    รักล้นใจไม่หลบอยากพบกัน อิอิ
    
    
    
    กาลเวลาก็จะช่วยพิสูจน์ความจริง กลบเกลื่อนไม่ได้นานร๊อก อิอิ
  • อัลมิตรา

    24 มิถุนายน 2549 21:21 น. - comment id 585988

    คนกลบเกลื่อนโดยนัยมีหลายรูปแบบ
    การกระทำเพื่อสร้างสุขให้ผู้อื่น แต่ผู้สร้างมิได้สุข นั่นก็เรียกว่า กลบเกลื่อน
    การกระทำเพื่อสร้างทุกข์ให้ผู้อื่น แต่ผู้สร้างบอกว่ามิได้ทำนั่นก็เรียกว่ากลบเกลื่อน
    และอีกหลายต่อหลายอย่างในนิยาม ..กลบเกลื่อน
    
    ทำไมจึงต้องกลบเกลื่อน ?
    ปัจจัย ๔ ประการที่เคยได้ร่ำเรียนกันมา คงเป็นปัจจัยที่ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพในปัจจุบัน
    การต้องการให้สังคมยอมรับ ต้องการเสริมสร้าง,ปรุงแต่ง ให้ตนเองดูดีในสายตาคนอื่น 
    ซึ่งบางที ความเป็นจริงมันคนละเรื่องเดียวกันกับความเป็นไปในหน้าฉาก
    
    ถ้าจะกลบเกลื่อนแล้วไม่ทำความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น .. ทำไปเถอะ .. 
    เพราะทุกคนย่อมแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ตนเองพึงพอใจ
    แต่ถ้ากลบเกลื่อนแล้ว ทำให้บรรยากาศโดยรอบวุ่นวาย คนอื่นได้รับความเสียหาย  .. เว้นเสียเถอะ
    เพราะความสุขจอมปลอมที่ได้รับนั้น มันแค่ช่วงประเดี๋ยวประด๋าว
    เนื้อในหัวใจของตนเป็นอย่างไร ย่อมรู้ดี จะสุขแบบอิ่มเอิบใจ หรือสุขแบบแค่นสุขล่ะ
    
    กลอนชุดนี้เขียนมาไม่ได้วางประเด็นใดเป็นเป้าหมายหลัก
    ดังนั้น.. อย่าคาดเดาเอาว่า จะมีมูลเหตุอย่างนั้นอย่างนี้ สุ่มมาเดาหลายร้อยพันเรื่อง
    อ่านให้เป็นกลอนธรรมดา ที่อาศัยสภาพสังคมในเมืองมาเป็นแบ็คกราวน์ก็พอ
    เดี๋ยวจะเข้าค่ายว่าเป็นคนกลบเกลื่อนอย่างไม่รู้ตัว ไม่รู้ด้วยเน้อ ...
    
    มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
  • อัสสุ

    24 มิถุนายน 2549 21:45 น. - comment id 585998

    มาอ่านกลอนครับ
    
    ความกลบกลื่นนี่ช่างหลากนัย 
    
    จริงครับ
    
    200662214142157xp_glass.jpgWIDTH=
  • อัลมิตรา

    24 มิถุนายน 2549 21:59 น. - comment id 586001

    คุณแสงไร้เงา .. สวัสดีค่ะ :)
    
    คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ ..
    พูดถึงขี้เกลือ .. อัลมิตราเห็นเสื้อตัวเองมีรอยขี้เกลือเลยนะ  สงสัยเหงื่อจะออกหวานน่ะ
    
    คุณชมพูภูคา ..
    ใช่แล้วค่ะ ไม่ว่าใครก็ย่อมเคยเป็นคนกลบเกลื่อน .. อัลมิตราเองก็เป็นคนกลบเกลื่อนในบางครั้ง 
    กลบเกลื่อนอาจมีสาเหตุที่มาที่ไปหลากหลาย เป็นเรื่องไม่แปลก
    การเขียนกลอนในอารมณ์อีกอย่างทั้งที่ตัวเองกำลังอยู่ในสภาพอีกอย่าง ก็เรียกว่ากลบเกลื่อน
    หิวมั๊ย.. ไม่หิว.. ทั้งที่ท้องร้องจ๊อก .. นั่นก็กลบเกลื่อน
    
    แต่สำหรับการกลบเกลื่อนที่เหมือนกับพยายามปิดบังการกระทำของตนเอง
    โดยโยนบาปหรือความผิดให้ผู้อื่น (สมมุติตัวอย่างนะ) 
    เพื่อแลกกับความสะใจ สุขใจ ..เพียงชั่วเวลาอันน้อยนิด ทำให้คนอื่นเดือดร้อน
    มันเป็นการกลบเกลื่อนที่ไม่ดีเลย และในที่สุดเมื่อความจริงเผย 
    ความรู้สึกดีต่าง ๆ ที่เคยมีให้กัน อาจกู้กลับคืนมาไม่ได้ค่ะ
    
    คุณแดดเช้า ..
    เป็นเช่นนั้นค่ะ น่าเห็นใจ สำหรับผู้ที่กระทำไปโดยไม่รู้ตัว
    แต่สำหรับผู้ที่ตั้งใจกลบเกลื่อนแล้วก่อความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ..
    บอกไม่ถูกเหมือนกันว่า จะให้ความรู้สึกอย่างไรดี .. 
    อัลมิตราคิดแต่ว่า .. ควรห่างเสียดีกว่า 
    
    สำหรับประโยคที่ว่า 
    แต่ผลที่เกิดขึ้นน่ะสิ ...
    เป็นปมปัญหาพันนุงนังเลย
    แล้วก็ไม่มีดวงตาที่จะมองปัญหาอันเป็นผลจากการกระทำของตัวเอง
    อัลมิตราไม่แน่ใจว่า ถึงแม้ว่าเขาเห็นผลของการกระทำที่ไม่ดีนั้น เขาจะแก้ไขหรือเปล่า
    ลองดูตัวอย่างที่สมมุตินะคะ .. แล้วช่วยกันพิจารณา
    
    ใครสักคนหนึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวเรานัก เที่ยวชี้นำใครต่อใครให้คิดว่า 
    เหตุการณ์ที่เกิดต่อหน้านี้ เป็นฝีมือของอีกคนหนึ่ง (ซึ่งคนนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ )
    เพื่อที่ว่า การเดาส่งเดชนั้น จะส่งผลร้ายให้กับคนผู้นั้น และเพื่อยกระดับความศรัทธาตนเองให้สูงขึ้น
    .. แบบนี้เรียกว่ากลบเกลื่อนหรือเปล่า ?..
    ยังไม่จบนะคะ ในหัวข้อเรื่องเดียวกัน
    ในขณะเดียวกัน ผู้ที่ได้กระทำการจริง มองเห็นรูปการณ์โดยตลอดว่า มีแพะรับบาปเกิดขึ้น
    แต่ด้วยความคิดที่ว่า .. ธุระไม่ใช่ , ช่างมัน ไม่ใช่กงการอะไร ที่จะไปชี้แจง , ก็ดีเหมือนกันที่มีคนรับเคราะห์ไป,
    หรือไม่ก็ .. 
    แย่ละสิ มาถึงขั้นนี้แล้ว จะให้ใครรู้ไม่ได้ว่าตนเองเป็นผู้เดินเรื่องทั้งหมด แต่ไหน ๆ ก็มีคนเป็นแพะแล้วนี่
    ดังนั้น ผู้ที่ได้กระทำการจริง ก็ทำนิ่ง ๆ เสีย ดีไม่ดีอาจไปผสมโรงร่วมแสดงความคิดเห็นยืนยันโยนให้แพะ
    .. แบบนี้เรียกว่ากลบเกลื่อนหรือเปล่า ?..
    ยังจบไม่ได้ง่าย ๆ เรื่องนี้วกวนสักนิด
    ย้อนกล่าวมาถึงคนที่กลายเป็นแพะ  (ซึ่งคนนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ) 
    รู้ทั้งรู้ว่าเรื่องราวที่แท้ใครเป็นคนทำ แต่ก็นิ่ง ไม่แก้ตัว
    เหมือนวัดใจว่า ทำไมจะต้องมาคิดร้ายด้วย และทำไมคนที่ทำจริง ๆ จึงปล่อยให้เกิดเรื่องที่เข้าใจผิดกันต่อไป
    .. แบบนี้เรียกว่ากลบเกลื่อนหรือเปล่า ?..
    
    อย่างที่หลาย ๆ คนในความเห็นเห็นบอกมา .. กาลเวลาจะช่วยพิสูจน์ความจริง
    ตกลงว่ากลบกันหมด กลบกันเกลื่อน...แล้วแบบนี้ความจริงจะถูกกลบเกลื่อนหรือเปล่า ?
    
    คุณพ่อเทพ .. 
    คิดถึงจังค่ะ แหะ แหะ  อย่าถามเชียวนะคะว่าคิดอะไรอยู่จึงเขียนกลอนแบบนี้
    ในความคิดน่ะมี ค่ะ แต่ต้องกลบเกลื่อนสุดฤทธิ์เหมือนกัน
    
    คุณแมงกุ๊ดจี่ .. ขอบคุณค่ะ ที่ห่วงใยเสมอมา
    กลอนคนกลบเกลื่อนนั้น ไม่ได้กล่าวเปรียบเทียบยกอ้างกระทบผู้ใดผู้หนึ่งหรอกค่ะ
    หากแต่เป็นการสั่งสมความรู้สึก และเป็นการประมวลสิ่งที่ได้รับรู้มาบ้าง
    ว่าไปแล้ว ก็คงเหมือนกับการเขียนกลอนเสียดสี สะท้อนสังคม 
    เพียงแต่ว่า สังคมที่อัลมิตรากล่าวถึง อาจเป็นสังคมที่เป็นรูปแบบจำลอง
    ซึ่งอัลมิตราเอง ก็อยู่ในสถานะผู้กลบเกลื่อนเหมือนกันค่ะ
    
    คุณสร้อยแสงแดง ..
    ฮา .. วรรคแรกนี้เห็นภาพเลยค่ะ 
    อัลมิตราจมูกมดเสียด้วย ขนาดรถติดไฟแดงและมีรถขยะอยู่ถัดไปอีกไกล ยังได้กลิ่นเลยนะ
    ไม่ได้จะตั้งใจดม แต่ก็กลั้นหายใจไม่ได้นี่นา ..
    ปกติน่ะ อัลมิตราปากหนัก ค่อนไปทางแขวะเสียมากกว่า ชมใครไม่ค่อยเป็น
    แต่ถ้าชมใครล่ะก็ .. นั่นล่ะชมจริง ๆ .. ไม่ได้แกล้ง ๆ ชมนะ
    ขำวรรคสุดท้ายด้วย ของเฮงซวยไปใส่ใจก็ไม่ดีอย่างที่คุณบอก .. กลอนนี้เข้าท่าแฮะ เตือนได้ดีเชียวค่ะ
    
    คุณกัญจน .. 
    กลอนชุดนี้ พอลงกลอนไปได้ไม่ถึงห้านาที ต้องตอบคำถามบางคนเสียจนเหนื่อย
    หลายคนเป็นห่วงว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า .. ความจริงแล้ว ไม่มีเหตุการณ์อันใดหรอก
    เพียงแต่สิ่งที่คั่งค้างอยู่ในความคิด ทำให้เกิดการกลั่นกรองออกมาเป็นงานเขียนเท่านั้น
    ถ้าจะถามว่า ทำไมเลือกเขียน .. ความจริงคำตอบมีอยู่ว่า อะไร ๆ อัลมิตราก็เขียนได้ หากอยากเขียน
    การวางคำ การผสมคำ อาจทำให้ดูเหมือนแต่ละวรรคแรงแทงใจให้หลายคนสะดุ้ง
    แต่อัลมิตรากลับมองว่าเป็นการดีนะ ที่ร้อน ๆ หนาว ๆ กันไป 
    ในร่างแหนั้น .. อัลมิตราก็เกาะกลุ่มไปด้วยค่ะ ไม่ได้เหวี่ยงแหพ้นตัวเลยสักนิด
    
    คุณฤกษ์ ..
    ใช่แล้วค่ะ เต่าใหญ่ ไข่แล้วกลบจริง ๆ ...ฮา
    คนทำผิด บางทีจะไม่พูดถึงเรื่องผิดของตัว แต่สร้างเรื่องใหญ่กว่าโยนผิดให้คนอื่นนะ
    ส่วนเจ้าหนี้เหรอ .. อืมม บุญแท้ ๆ อัลมิตราไม่เคยเป็นหนี้ใคร ส่วนบุญคุณนั้น ใครเคยมีอัลมิตราก็ไม่ลืม
    รักล้นใจไม่หลบอยากพบกัน ... โห  .. โม้ซึ่ง ๆ หน้า
    
    คุณอัสสุ ..  เป็นเช่นนั้นค่ะ หลากหลายนัย
  • แดดเช้า

    24 มิถุนายน 2549 22:36 น. - comment id 586013

    คำถามของคุณอัลมิตรา ... กลบเกลื่อนหรือเปล่า?
    
    ตอบว่า ... เรียกว่า กลบเกลื่อนค่ะ
    
    
    แต่มูลเหตุของความกลบเกลื่อนมาจาก \"ความกลัว\"
    
    ความกลัวที่ลึกซึ้งมาก ...
    กลัว ตัวเองเสียหน้า
    กลัว ตัวเองเป็นคนผิด
    กลัว ตัวเองสูญเสียความเป็นตัวตน
    กลัว ตัวเองจะต้องรับผิดชอบ
    ฯลฯ
    
    ความกลัว อันเกิดจากสัญชาตญาณ ที่จะเอาตัวรอด ที่จะรักษาตนให้พ้นภัย
    
    แต่สัญชาตญาณนั้น ... หากขาดสติยั้งคิดแล้ว ก็ทำให้คิดไม่ได้ว่า ผลของการกระทำจะก่อให้เกิดปัญหาอย่างไรต่อไป
    
    และอีกประการหนึ่ง สาเหตุของการกลบเกลื่อนก็คือ ความอยากในใจ 
    
    แหม .. ความอยากนี่เนาะ ละเอียดมาก ผลักดันให้คนทำอะไรๆ หลายอย่างได้ด้วยถ้าขาดการยั้งคิด
    
    บางที ... ก็น่าสงสารนะคะ 
    กับคนที่ คิดผิด เห็นผิด หลงผิด แล้วก็ทำผิด
    สะสมบาปมากขึ้นทุกวันๆ
    
    อธิษฐานให้เขาพ้นจากความน่าสงสารตรงนี้ดีกว่าค่ะ เขาจะได้มีปัญญาไม่ทำบาปโดยเห็นว่าสิ่งที่เขาทำเป็นสิ่งถูกต้อง แต่ก่อปมปัญหามากมาย แล้วกลบเกลื่อนปัญหาหมักหมมต่อไปเรื่อยๆ แล้วปัญหาก็ไม่สิ้นสุด
    
    
    แผ่เมตตาให้เขา ... ขอให้เขาพ้นจากความมืดมนที่มองไม่เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด ขอให้เขาสว่างไสวพอที่จะพัฒนาตัวเองไปสู่ความสุขได้ โดยไม่ต้องก่อบาปสั่งสมกรรมเลวร้ายอีกต่อไป
    
    
    ขอให้เขาพบความสุข จะได้อิ่มและพอที่จะไม่ไขว่คว้าหาความสุขในทางที่ผิด
    
    เขากลบเกลื่อน ... แต่เราลบล้างกรรมที่เขาทำกับเรา โดยการไม่ก่อกรรมพัวพัน เนาะ 
    
    \"ไม่ว่าในกาลไหนไหน
    เวรย่อมไม่ระงับด้วยการจองเวร
    แต่เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร\"
    (พุทธพจน์)
    
    
    อิอิ ... แสดงความคิดเห็นซะยาวเลย : )
    
    
    
    
    
    11.gif36.gif
  • เรไร

    25 มิถุนายน 2549 12:17 น. - comment id 586094

    
    มีเรื่องราวหลายหลายได้ประสบ
    บ้างค้นพบรื่นรมย์สมประสงค์
    บ้างสะดุดความลำบากยากจะปลง
    เจตจำนงค์คือซ่อนไว้ในอุรา
    
    จึงต้องแสดงตัวตนให้คนเห็น
    สิ่งที่เป็นในใจใคร่ค้นหา
    แล้วกลบเกลื่อนสิ่งใดกันอัลมิตรา
    อยากรู้ว่าสิ่งซ่อนเร้นเป็นเช่นไร
  • อัลมิตรา

    25 มิถุนายน 2549 14:18 น. - comment id 586149

    คุณแดดเช้า ..
    กลบเกลื่อนมูลเหตุมาจากความกลัว ....อืมมม
    กลบเกลื่อนมูลเหตุมาจากความอยาก ....อืมมม
    อาจจะยังไม่เพียงพอสำหรับต้นตอที่คิดกลบเกลื่อน
    ความจริงแล้วมูลเหตุอาจมีมากกว่านั้น เท่าที่เห็นมีหลากหลายเหลือเกิน
    
    กลบกันจนเกลื่อน คำนี้ก็เข้าท่าเหมือนกันนะ หากจะเอามาแตกประเด็น
    เช่นว่า ..จากตัวอย่างสมมุติเดิมนะคะ
    เมื่อถึงเวลาหนึ่ง 
    ความจริงทั้งหลายก็ทำให้ผู้ที่กระทำจริง ค่อย ๆ เผยโฉมออกมาทีละนิด ๆ 
    และในเวลาเดียวกันนั้น 
    ผู้ที่ปรักปรำก็รู้แล้วว่า..
    ไอ้ที่เดาสุ่มไปน่ะ เป็นการซัดทอดโยนเผือกร้อน ๆ ให้คนที่ไม่ได้ทำ
    ส่วนคนที่ไม่ได้ทำน่ะ .. จะกี่ปีกี่ชาติ ก็คำตอบเดิม คือ ไม่ได้ทำ ..
    คนที่ไม่ได้ทำก็ ได้แต่รอเวลาว่า
     เมื่อไหร่หนอ คนที่กระทำจะเผยออกมาซะทีว่าเป็นคนทำ
    และเมื่อไหร่หนอ 
    คนที่ปรักปรำจะเผยออกมาซะทีว่าตอนนั้นชี้โบ้ชี้เบ้นั้น ชี้มั่วซั่วผิดตัว
    
    จากเรื่องสมมุตินี้ก่อให้เกิดแง่คิดมากมาย
    ซึ่งก็คงแล้วแต่ว่า 
    ใครจะมองประเด็นออกแค่ไหน และมีวิทยปัญญาเป็นทุนเดิมอย่างไร
    
    ปล่อยให้กลบกันต่อไป เนื่องจากมิประสงค์เดินตามรอยกรรมนั้น .. 
    
    คุณเรไร ..
    
    สิ่งซ่อนเร้นซ่อนนัยหากได้คิด
    ท่านมีสิทธิ์ตรองได้ในความหลัง
    เรื่องสมมุติเหตุการณ์อันน่าชัง
    ท่านอาจหยั่งจนแจ้งคนแฝงตัว
    
    ตราบเมื่อเรื่องจบไปอย่าได้แค้น
    หรือคิดแค่นบ่นพร่ำทำเวียนหัว
    ปล่อยคนที่ขี้ขลาดให้หวาดกลัว
    พูดมั่วซั่วร้อนใจอย่าไปฟัง
    
    ..สิ่งซ่อนเร้นเป็นเช่นนี้ และยังคงมากมีที่กลบเกลื่อน
  • กบนั่งฝัน

    25 มิถุนายน 2549 22:10 น. - comment id 586224

    คนกลบเกลื่อนน่าสงสารนะค่ะ เพราะเขาคงจะไร้เพื่อน ไร้คนข้างกาย เป็นแน่ 
    สวัสดีค่ะ แพรวานะค่ะ อ่านแล้วถึงใจดีค่ะ นี้คืออีกนิสัยขอมนุษย์จริง ๆ นะค่ะ ใครอ่านแล้วอย่าเป็นอย่านี้เลยนะค่ะ 12.gif
  • อัลมิตรา

    25 มิถุนายน 2549 22:52 น. - comment id 586238

    คุณแพรวา ..
    อัลมิตราเชื่อว่าทุกๆคนย่อมมีปม แต่บางคนสนใจเฉพาะปมด้อยของตนเอง
    และพยายามปกปิดไม่ให้ผู้ใดล่วงรู้โดยกลบเกลื่อน
    แต่นั่นก็ยังไม่ได้ก่อความเดือดร้อนใด ๆ ถ้าหากการกลบเกลื่อนนั้น
    ทำให้คนอื่น ผู้ซึ่งไม่ควรได้รับผลกระทบ กลับได้รับผลกระทบ
    ความจริง .. การที่ยังไม่ยอมรับสภาพของตนเอง ย่อมทำร้ายตัวเองอยู่แล้ว
    ก็ไม่น่าจะกระจายการทำร้ายนั้นไปสู่คนรอบ ๆ ข้าง
    
    มากมายมูลเหตุของการกลบเกลื่อน
    มากมายผลกระทบของมันที่ส่งผลมายังผู้อื่น
    มากมายความรู้สึกแห่งเราเมื่อสัมผัสถึง
    
    บางทีไม่อาจยับยั้งสิ่งที่ถูกกลบเกลื่อนได้
    บอกกับใจตนเองเท่านั้น ให้รู้ .. รู้ลึก คนกลบเกลื่อน

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน