รัฐบาลท่านบอกออกอากาศ เป็นวาระแห่งชาติประกาศก้อง ประชาชนแดนดินถิ่นขวานทอง ทุกคนต้องสิ้นลำบากเลิกยากจน นโยบายขายฝันอันเริ่ดหรู ทั้งโอนครูปรับย้ายหลายเหตุผล สามสิบบาทรักษาโรคาคน หนึ่งตำบลช่วยคิดผลิตภัณฑ์ การไฟฟ้าขายขาดตลาดหุ้น ว่าเพิ่มทุนเพิ่มราคาช่างน่าขัน การสื่อสารเอาด้วยบอกช่วยกัน มาช่วยปั่นช่วยชาติตลาดทุน ทุกครอบครัวต้องมีที่อาศัย และคนไทยเพลิดเพลินด้วยเงินหมุน ธนาคารปล่อยเงินเกินงบดุล ระดมทุนทุ่มแหลกแจกสตังค์ สารพัดสินเชื่อเอื้ออาทร ให้เอาไปใช้ก่อนผ่อนทีหลัง ชาวประชาจ่ายเพลินเกินกำลัง ต้องมานั่งคิ้วขมวดปวดกะบาล นโยบายสร้างภาพปราบยาบ้า ผู้ใดค้ากำหนดโทษประหาร จับเป็นข่าวใหญ่โตมโหฬาร ไม่เห็นท่านจับได้ใครผลิต ประชาชนอ่อนเปลี้ยเสียภาษี ทุกทุกปีประจำไม่ทำผิด ไม่หลบหลีกเลี่ยงกฎหรือคดคิด แกล้งปกปิดโยกย้ายให้เครือญาติ พอได้ฟังนโยบายเหมือนขายฝัน แล้วนึกหวั่นถึงความจริงยิ่งอนาถ จะพาให้ประชาชนคนทั้งชาติ พร้อมประกาศพาข้ามความยากจน ตั้งตัวเป็นเจ้ามือรับซื้อหวย ให้ร่ำรวยทางลัดเลิกขัดสน อบายมุกมอมเมาประชาชน บอกเหตุผลน่าตลกให้โชคดี คนยากจนสูญพันธุ์กันแน่แน่ คงเหลือแต่รัฐบาลท่านเศรษฐี แต่จนลงคือไพร่ฟ้าประชาชี ต้องแบกหนี้แบกสินจนสิ้นใจ
19 มกราคม 2549 16:05 น. - comment id 554211
มนต์การเมือง หรือจะสู้มนต์การเมา ดื่มเหล้า แล้วคุยการเมือง
19 มกราคม 2549 16:28 น. - comment id 554221
ชอบความเห็นต่อรัฐบาลสวยมากครับ ๏รัฐบวมไหนก็ล้วน ปลดปลง เถิดพ่อ ถอนแต่ทุนที่ลง เลือกตั้ง สองสมัยแล้วคง รวยมาก มายแฮ หวังว่าเมื่อตายยั้ง เยี่ยงผู้มีบุญฯ
19 มกราคม 2549 16:48 น. - comment id 554227
สวัสดีค่ะ มาส่ง ข้าวพัดกระเพราไข่ไม่ค่อยสุก (หวัดนกมั้ย?น้อ) และโค๊ก (เออแน่ะ ทำไมไม่ส่งโอเลี้ยง)... เตรียมประกัน เค้าบอกไม่ให้ประกันตัว.... อิอิ
19 มกราคม 2549 17:07 น. - comment id 554230
เซ็งกับการเมืองประเทศไทย เมื่อไหร่จะใหญ่โตเหมือน U.S.A :ซะทีอ่ะเนี่ย ได้แต่พูด ทำไม่ค่อยจะได้หรอก ดีแต่ปาก ห่วย(ยกเว้นทักษิณ) ตอนที่ทำไม่ได้ก็แก้ตัวอย่างนู้นบ้าง อย่างนี้บ้าง
19 มกราคม 2549 18:17 น. - comment id 554246
การเมืองเรื่องใกล้ชิด ใกล้ตัว ผลกระทบน่ากลัว ไม่น้อย ผลประโยชน์เมามัว ยื้อแย่ง ชีวิตไม่ห่างพ้น เกี่ยวข้องพัวพัน การเมืองแม้ไม่ยุ่งมุ่งข้องแวะ มันกลับเลี้ยวหาและพาพันเกี่ยว คิดนึกตรึกตรองแล้สเป็นจริงเชียว ตามเกาะติดเหนียวแน่นดุจดั่งเงา
19 มกราคม 2549 21:54 น. - comment id 554292
เล่นอย่างนี้มีหวังซังเตแน่ มาตีแผ่หมดสิ้นกินอิ่มหมี เดี๋ยวโอเลี้ยงข้าวผัดจัดทันที คงติดไม่กี่ปีหรอกพี่ชาย เนี่ยะ.. หนักกว่าอีก มือขวาสนธิแน่ ๆ
20 มกราคม 2549 09:11 น. - comment id 554321
ถึงอีกแล้ววันศุกร์นอนสะดุ้ง คนเมืองกรุงมุ่งไปด้วยใจมั่น ข้อกังขาชั่วช้าสารพัน อุดมการณ์ลือลั่นที่สวนลุม ศุกร์นี้เรามีนัดตอนหนึ่งทุ่ม วงชุมนุมพร้อมกันที่หมายมั่น แต่ครานี้ต้องเตรียมให้ครบครัน ฝีเท้านั้นให้ไวไว้ได้เผ่นทัน (พลพรรครักสวนลุม)
20 มกราคม 2549 09:26 น. - comment id 554323
ปล. อาจจะจบแปลกๆก็อย่าเพิ่งว่ากัน เพราะถ้าไม่แปลกก้อคงแปลกแหละ มือใหม่หัดเขียนงัย
20 มกราคม 2549 10:20 น. - comment id 554330
รับว่าความทั่วราชอาณาจักร...อิอิ...ไม่เป็นไรผมรู้จักตำหนวดเยอะ..ขอได้..ขอขังรวมอะท่าน คนเดียวมันเหงา..อิอิ..
20 มกราคม 2549 16:24 น. - comment id 554414
หนี้สินคุณมีมาตั้งแต่ชาติปางไหน มาโทษรัฐบาล.... หรือเพิ่งเป็นหนี้เป็นสินตอนที่รัฐบาลนี้ บริหารบ้านเมืองหล่ะ
20 มกราคม 2549 18:26 น. - comment id 554427
ประชาชนมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งแต่ไม่มีสิทธิ ตั้งคำถามหรือไง นักเรียนทำข้อสอบไม่ได้ ก็ซ้ำชั้น รัฐบาลตอบคำถามไม่ได้ต้องซ้ำชั้น อ่ะเปล่า ซ้ำสัก 20 ปีเลยเป็นงาย ...
21 มกราคม 2549 00:11 น. - comment id 554461
ขอไม่ตอบแล้วกันน่ะครับ กลอนเรื่องนี้ ขอบคุฯทุกท่านที่แวะมา ขอบคุณครับ
29 มกราคม 2549 13:47 น. - comment id 556441
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาคงไม่มีข่าวไหนจะครึกโครมเท่าข่าวการขายหุ้นของตระกูลชินวัตรมูลค่ากว่า 75,00 0 ล้านบาทโดยที่ไม่ต้องเสียภาษีให้รัฐแม้แต่บาทเดียวและเป็นที่ถกเถียวกันอยู่ถึงวันนี้ว่าถูกต้อง ชอบธรรมอยู่หรือไม่ วันนี้ผมจะลองใช้สมองอันน้อยนิดทั้งสองซีกของผมวิเคราะห์เรื่องนี้ดู โดยจะดูแค่สองประเด็นใหญ่ๆเป็นหลักก็พอ 1. การซื้อขายหุ้นของบุคคลธรรมดาในตลาดหลักทรัพย์ฯได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี ดังนั้นการซื้อขายหุ้นทั้งหมดของตระกูลชินวัตร-ดามาพงษ์ เป็นการขายในนามของบุคคลธรรมดาจึงไม่ต้องเสียภาษี จริงหรือ? เราลองมาวิเคราะห์ดูทีว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายข้อนี้คืออะไร..เจตนารมณ์ของกฎหมายตัวนี้ก็เพื่อเป็นการชักจูงให้ผู้ลงทุนรายย่อยเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยเน้นไปที่รายย่อยเพราะกฎหมายยังกำหนดไว้ว่าถ้าซื้อขายในนามนิติบุคคลก็ยังต้องเสียภาษีอยู่เช่นเดิม แล้วการซื้อขายหุ้นทั้งหมดของตระกูลชินวัตร-ดามาพงษ์ นี่จะนับเป็นการขายหุ้นของรายย่อยหรือไม่ 1.1 มูลค่า 75,000 ล้าน เราจะยังนับเป็นรายย่อยได้อยู่อีกหรือ? 1.2 จะนับว่าเป็นการขายหุ้น หรือควรนับว่าเป็นการขายกิจการ? เพราะเป็นการขายหุ้นทั้งหมด ถ้าเราตีความโดยอาศัยตัวอักษรแห่งตัวบทกฎหมายก็คงต้องยอมรับแหละว่านี้เป็นการซื้อขายของรายย่อยซึ่งต้องได้รับการยกเว้นภาษีเป็นธรรมดา แต่ถ้าวิเคราะห์โดยดูเจตนารมณ์ของกฎหมายเราก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็การผิดเจตนารมณ์ของกฎหมายอย่างชัดแจ้ง 2. การซื้อขายครั้งนี้เป็นการขายกิจการโทรคมนาคมของชาติที่ได้รับการปกป้องไว้ว่าให้ต่างชาติถือครองได้ไม่เกิน 25 % และมีการแก้กฎหมายให้เป็น ถือครองได้ไม่เกิน 50 % เพียง 3 วันก่อนการซื้อขาย (กฎหมายบังคับใช้ วันที่ 20 มกราคม 2549 ซื้อขายกันวันที่ 23 มกราคม 2549) และเมื่อซื้อขายเปลี่ยนมือแล้วสัดส่วนการถือครองหลักทรัพย์ของ SHIN คือ 1. บ.ไซพลัส โฮลดิ้งส์ ถือครอง 48.99 % (ต่างชาติ) 2.บ.กุหลาบแก้ว ถือครอง 41.1 % และ (คนไทย ที่ยอมเป็นนอมินีให้ต่างชาติ) 3. ธนาคารไทยพาณิชย์ ถือครอง 9.9 % (คนไทย) -จะเห้นได้ว่าถ้ามองในแง่ นิตินัย แล้ว กิจการนี้ยังเป็นของคนไทย (41.1 + 9.9 = 51 %) -จะเห้นได้ว่าถ้ามองในแง่ พฤตินัย แล้ว กิจการนี้ตกเป็นของต่างชาติไปเรียบร้อยแล้ว (48.99 + 41.1 = 90.09 %) จะเห้นได้ว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่คนทำธุรกิจทั่วไปที่จะคอยสอดส่องมองหาช่องว่างของกฎหมายแล้วเอามาเป็นประโยชน์ของตน และเป็นหน้าที่ที่ต้องกระทำของฝ่ายรัฐที่จะต้องคอยสอดส่องหาช่องว่างทางกฎหมายเหล่านี้แล้วปิดช่องว่างเหล่านี้เสียเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ นายทักษิณ ชินวัตร ในนามของนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยที่มีหน้าที่ที่ต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศที่เห็นช่องว่างของกฎหมายนี้แล้วกลับไม่ยอมปิดช่องว่างของกฎหมายเหล่านี้จึงนับได้ว่า ละเลยการปฏิบัติหน้าที่อันพึงกระทำของตน จึงไม่มีความชอบธรรมที่จะนั่งในตำแหน่งหน้าที่นี้อีกต่อไป มิหนำซ้ำกลับนำช่องว่างที่พบนี้ไปหาประโยชน์ใส่ตนโดยไม่นำพาต่อวามเสียหายของประเทศ จึงนับได้ว่า ปฏิบัติหน้าที่โดยฉ้อฉลเพื่อผลประโยชน์แห่งตน ที่แค่พ้นตำแหน่งคงไม่เพียงพอต่อความผิดที่ได้กระทำ สมควรที่จะต้องได้รับโทษในข้อหาคอร์รัปชั่น และยิ่งไปกว่านั้นเมื่อพบว่าช่องว่างทางกฎหมายที่มีอยู่ยังเอื้ออำนวยต่อผลประโยชน์ของตนไม่เพียงพอก็อาศัยอำนาจที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนทำการแก้กฎหมายเพื่อเปิดช่องว่างให้ใหญ่ขึ้นไปอีกและยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการแก้กฎหมายเพื่อเอื้อต่อการขายสมบัติของชาติให้แก่ต่างชาติ จึงนับได้ว่าเป็นการทรยศต่อประเทศชาติ หรือขายชาติ ซึ่งผมเห็นว่านายทักษิณขาดแม้กระทั่งคุณสมบัติที่จะเป็นคนไทยด้วยซ้ำ