๏ ลมหวนครวญคร่ำร้อง..................ฤๅไฉน เสียงสนั่นอั้นอกใจ..........................จิตร้อน ลมกระโชกโบกสะบัดไป..................ปาดป่าย ปานชกอกสะอื้นอ้อน.......................อุระร้าวรานสลาย ฯ ๏ ลมหวนครวญคร่ำร้อง...................คับขื่นข้องหมองใจหาย ปิ่มผลาญปราณปลงวาย....................ตายตนป่นบนทุกข์ตรม ๏ ลมพร่ำคำขานไข.........................ฤๅหัวใจไข้ขื่นขม ฤๅร้างหมางระทม...........................ซมซบซ่อนจรจากไกล ๏ ลมกระโชกโบกสะบัด....................สุดยืนหยัดทัดทานไหว เจ้าตรมขมขื่นใด.............................ไห้โหยหวนครวญคร่ำมา ๏ ลมร้างหมางเมินหมิ่น....................จึงถวิลผินพักตร์หา ลอยล่องท้องนภา.............................ราทุกข์ใจได้บ้างฤๅ ๚
5 ธันวาคม 2544 04:53 น. - comment id 22888
ถามลมแล้วได้คำตอบหรือยังครับ เขียนได้ดีเสมอเลยนะ ชื่นชอบ บทกลอนหมอหนุ่ย มากจ้ะ
5 ธันวาคม 2544 06:10 น. - comment id 22902
อ่านแล้วดีจังเลยจ้า... เศร้าๆ ดีไง... ก็ยังชื่อนชมอยู่เสมอจ้า
5 ธันวาคม 2544 06:21 น. - comment id 22911
ชื่นชมค่ะ......คุณหมอเขียนได้ดีทั้งภาษา แนวความคิด.....ติดตามอ่านเสมอค่ะ
5 ธันวาคม 2544 07:23 น. - comment id 22922
ถามถึง ๔ ลม คือ ลมหวน ลมพร่ำ ลมกรรโชก และลมร้าง..อยู่ไหนหนอทั้งสี่ลมมาให้คำตอบวฤกหน่อย...เขียนได้ดีครับ
5 ธันวาคม 2544 08:34 น. - comment id 22935
ก็ชอบมากๆ..ครับอาจารย์..ขอยืมไปใช้คงไม่ว่านะ...เอาไว้ศึกษานะครับ
5 ธันวาคม 2544 22:04 น. - comment id 23028
ชื่นชมค่ะ...เพราะวฤกเขียนกลอนได้เพราะมากและมีความหมายทุกครั้งเลยจ้ะ
5 ธันวาคม 2544 22:10 น. - comment id 23030
ขอบคุณทุกท่านที่มาแวะอ่านครับ กานต์ .... ยินดีครับ ผมดีใจมากที่มีคนรุ่นใหม่ สนใจศึกษาและอยากเขียนคำประพันธ์แบบเก่า ๆ ครับ
8 ธันวาคม 2544 13:01 น. - comment id 23661
ดีใจที่มีกลอนเพราะมาให้อ่านค่ะ ชอบอ่านกลอนและเขียนกลอน แต่ยังไงๆก้อไม่อาจเทียบ