...ที่สุดในโลก

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


เรียมเหลือทนแล้วนั่นเห็นจันทร์ฉาย
ในเงาแดดเพลางายหมายเริงฉันท์
เรียงวลีซ้อนลีลามากำนัล
เพื่อเติมวันเขลาท้อต่อเดือนดาว
หนาวลมร้อนอ่อนโยนยามราตรี
ดาริกลี้ดวงตะวันอันเหน็บหนาว
เกล็ดน้ำค้างพร่างแพรวจนแวววาว
ยลเยี่ยงดาวพรูกล่นบนเวิ้งดิน
เก็บเยื่อใจใส่ขันหมายปันแบ่ง
ใครหมดแรงเพราะถูกโกงอย่างตงฉิน
เฮ้อ.......
ผมทำไม่ได้หรอกครับ
ผมตั้งใจจะหลอกคุณ				
comments powered by Disqus
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    15 พฤษภาคม 2547 10:43 น. - comment id 268123

    นึกสนุกตอนแรก
    
    ทำไปทำมาผมอายแก่ใจ
    
    จึงเลิกไปดื้อๆแบบนี้แหละ
    
    ขอโทษด้วยครับ
    
  • ห้องฝัน

    15 พฤษภาคม 2547 11:11 น. - comment id 268134

    อ่านกลอนนี้แล้วคิดถึงลุงเวทย์กะครูไหวจังค่ะ
    
  • ห้องฝัน

    15 พฤษภาคม 2547 11:20 น. - comment id 268139

    ขอโทษค่ะ เดี๋ยวคุณก่อพงษ์จะ * งง * 
    ... ขอขยายความนะคะ.... คือ ... 
    ลุงเวทย์เคยลงกลอนที่ไพเราะคำ แต่ไม่ครบความแบบนี้แหละค่ะ พอลงปุ๊บ คุณครูไหวฯ
    มาตีความให้ทีละบรรทัดๆ เลยค่ะ ... ขำดี.....
    อ่านตามมาตอนหลังจึงรู้ว่าเป็นวิธีให้ข้อคิดว่า 
    ต้องเขียนกลอนให้ครบคำครบความอย่าเอาแต่
    ไพเราะอย่างเดียว...
    ...นี่เป็นวิธียั่วยุอีกแบบนึงของคุณก่อพงษ์รึป่าวคะ.....
  • tiki

    15 พฤษภาคม 2547 11:23 น. - comment id 268143

    แหะ มีมโนธรรมสมชื่อก็ดีแล้วค่ะ อิอิ
  • เมกกะ

    15 พฤษภาคม 2547 11:33 น. - comment id 268155

    !!!!!!!!!    เมกกลับมาแย้วนะครับ
    ดีครับคุณก่อพงษ์  อิอิ  วันนี้วันเสาร์อ่ะ นั่ง ๆ คิด  นั่ง ฝัน ทำไงดีน้อ ?  ทั้งเหงา  ทั้งว้าเหว่ ทั้งปวดรวดร้าว แต่ก็ไม่มีที่ระบาย 
    วันนี้ !!  เมกจึงกลับมา  กลับมาเป็นเมกกะคนเดิม  ที่ถึงมีแต่เพียงภาพฝัน มันก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรให้ฝัน..จริงป่ะ  คิ_คิ
    อย่าหลอกเมกนะครับ  อิ_อ....ิจะเป็นกำลังใจให้กันเสมอนะ......เมก
  • First_January

    15 พฤษภาคม 2547 14:12 น. - comment id 268265

    จะรออ่านแบบครบคำครบความนะครับ
    
    ^____^
    
    
    
  • พิกุลทอง

    15 พฤษภาคม 2547 14:42 น. - comment id 268280

    พลิ้วไหว ไปตามอารมณ์
    
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    15 พฤษภาคม 2547 15:07 น. - comment id 268297

    สวัสดีครับคุณห้องฝัน  คล้ายๆอย่างนั้นครับ
    
    คุณtikiชมผมมากไปนะครับนั่น
    
    คุณเมกกะ  เขียนตะวันเลยครับ จะได้หายเหงา
    
    ยากนะครับคุณ First_January  สงสัยคุณต้องรอนาน
    
    และคุณพิกุลทอง   ผมชอบลีลานั้นอยู่    แต่ผมเบื่อที่มันไม่ชัดเจนเลย
    ไม่รู้อะไรเป็นอะไร   กำๆกวมๆตลอดบท
    
    งานของผมหลายชิ้นก็อาจเป็นแบบนี้
    จนพลอยทำให้หลายคนคิดเลิกอ่านร้อยกรองไปเลย
    
    น่าเสียดาย
    สำหรับงานดี  ๆ  คนพิถีพิถันเขียน  เอาจริงเอาจังมากๆ
    ก็พลอยไม่มีคนอ่านไปด้วย
    
    
    ผมเองก็จะใส่ใจมากขึ้นในการเขียน
    เพื่อจะไม่เสียหายแก่วงการ
    คนเขียนร้อยกรอง
    
    
    ซึ่งถ้ามีอะไรน่าติ  น่าบอกก็บอกผมด้วย ตรงๆเลย
    ไม่ต้องกลัวผมช้ำใจ
    
    ผมก็คงเหมือนคุณ คือ
    อยากเสพงานดีๆ
    
    ใช่ไหมครับ
    
    ก.พ. ทำงานห่วยๆออกมาก็ชมได้ชมดี
    นั่นผมว่าไม่จริงใจต่อกันล่ะ
    
    
    
  • คนดึก......ผ่านมา

    16 พฤษภาคม 2547 03:05 น. - comment id 268630

    บางครั้ง หรือหลายครั้ง การเขียนคำประพันธ์ จะให้ถึงคำว่าบทกวีจริง ๆนั้นยาก  แต่ไม่ใช่เรื่องยากที่จะหัด จะทำ... ตามภูมิคิด.ภูมิเรียนรู้ ภูมิฝึกฝนของคนในถิ่น ที่อาจมีเจตนาจะสื่อหรือแสดงจุดหมายอะไรออกมา ด้วยกลวิธีแบบใดที่เห็นว่าเหมาะสม 
    คนชี้คือคนอ่าน คนเห็นว่าชอบหรือไม่อย่างไร ตามภูมิของแต่ละคนแต่ละที่แต่ละกาลเวลาอีกแหละ 
    ที่สุดแล้วบทกวีคือการสะท้อนชีวิตของคนในถิ่น ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตส่วนตัวของคนเขียนจะเป็นกวีหรือคนเพ้อฝันหรือของคนในถิ่นนั้น ๆเองหรือวิถีสังคมในถิ่นทั้งหลายทั้งปวง..
    การสะท้อนแบบ..น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา 
    แหวกว่ายปทุมาอยู่ไหวๆ...ของสุนทรภู่ ถึงต้องมีชะตากรรมแบบใด  ก็คงทราบ...
    กลวิธีของคนเขียน จะถึงขั้นเรียกเป็นกวี หรือไม่ เห็นว่าคงมีนัยการเขียน มีภูมิรู้ไม่มากก็น้อยด้วยนะ ไม่ว่าเขียนเรื่องส่วนตัวหรือส่วนใหญ่
    
    ในนี้ คงไม่คาดหวังว่าจะเป็นก วี  หรือเขียนบทกวีกันทุกคนหรอก  แต่ก็คงอยากเขียน อยากให้คนรับรู้อารมณ์ ความคิด ความรู้สึก ต่อปัญหา เรื่องราวส่วนตัว หรือที่เกิดในถิ่น กลวิธีจึงเห็นเป็นแบบที่เห็นแล้ว  คิดว่าคงไม่ถือสาเพราะว่ามิใช่สนามสอบเป็นจอหงวน และคงไม่คิดเป็นด้วยน่ะ  เชื่ออย่างนั้น...สนามนี้ก็บอกชัดแล้วว่าทุกบทมีความหมายสำหรับคนที่อยากให้มีความหมายกับใครสักคน  ก็คงพอนะ ..คงไม่หวังเลิศหรูดูงามกับแบบแผนธรรมเนียมการเป็นก  วี  หรือ บ  ท  ก วี จริง ๆจังๆ อะไรนั่น....
    
    ขออย่าจริงจังกับความรู้สึกคนอยากเขียนเลยนะครับ ....ให้เขาหายใจด้วยลมหายใจบริสุทธิ์ของเขาเถิดนะ 
    กรอบทั้งหลายทั้งปวงของกวีหรือบทกวีจะมีแบบแผนหรือไม่...สมัยหนึ่งเคยมีการเสนอให้เผาทิ้ง  เพราะเห็นว่าขัดขวางการก้าวขึ้นบันไดน่ะ
    เอาเก็บไว้ก่อน..ดีไหม 
    ให้หัวใจ วิญญาณ ลมหายใจเสรีของคนอยากเขียนได้หลุดพ้นพันธนาการทั้งปวง เป็นไปตามวิถีของเขา จะได้ไหม...ให้เขาคิด  เขากบฏ  ให้เขามีชีวิตอยู่ในโลกของเขา เถอะนะ...คนทุกคนมีสิทธิเลือกชีวิตที่เป็นของเขา..เขากบฏ  เขาจึงมีชีวิตอยู่  (ซาร์ท ) ..
    
    เขียนเล่น ๆน่ะครับ  อย่าคิดมากนะครับ  ..
    น้ำเป็นของปลา ฟ้าเป้นของนกได้ทั้งหมดเสียที่ไหน..สรรพสิ่งยังมีอีกมากมาย..จริงไหม ^_^...
  • ...

    16 พฤษภาคม 2547 03:13 น. - comment id 268631

    อ้อ ..ถ้า ก.พ ทำดีจริง จะมีมาตรการให้ข้าราชการออก 5 % ซึ่งคนด่าทั้งประเทศหรือ...
    ร้องเพลงใน--เกะดีกว่าครับ จริงใจกว่ารัฐบาลแยะเลย สาว ๆในนั้นน่ะ  ^_^..
  • ก.พ.

    16 พฤษภาคม 2547 03:48 น. - comment id 268635

    ครับผม
    ผมยิ้มชอบใจที่คุณเขียน
    จริงครับ
    ขอบคุณมากด้วย
    
  • พุด

    16 พฤษภาคม 2547 07:57 น. - comment id 268639

    ขอเข้าอนุญาติผ่านคุณก.พ นะคนดี
    ถึง
    คนดึก.ผ่านมา
    คุณถอดใจพุดพัดชามา
    บอกความในใจเลยค่ะ
    สำหรับพุดคิดว่า
    เปิดใจ..ตามใจเสรีขอ
    แค่มีดวงใจละมุนยังลมหายใจหอมกรุ่น
    รักบทกวี รักดอกไม้รักธรรมชาติ
    และที่สำคัญรู้เอื้อน้ำใจฝันแบ่งปัน
    วิญญาณอิสราเสรีในรักเพื่อนมนุษย์
    หยุดแบ่งแยก
    ก็งามพอก็งามใจแล้วค่ะ
    ด้วย..
    ใจ..ดวงดี
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    16 พฤษภาคม 2547 10:53 น. - comment id 268681

    ครับผม
  • ฝ่ามือคางคก

    19 พฤษภาคม 2547 17:22 น. - comment id 270842

    อืมช่างน่าเศร้าอะไรเยี่ยงนี้
    แวะมาทักครับ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน