๏ ตะวันรอนซบด้าว..............ดับแสง ดลสว่างภพจำแลง................แจ่มหล้า ภาพสนุกสนานแฝง..............ฝาดขื่น ฟั่นขุ่นเท็จจริงคว้า...............ขบเค้นฤๅไข ฯ ๏ ไฟสว่างทางหม่นแม้น.......หมอกมัว เหมือนติดหล่มสลัว...............สลดรู้ หญิงชายแย่งขายตัว.............ตามขอบ..........ถนนอา หิวอดฤๅอดกู้........................เกียรติกล้าแก่ตน ฯ ๏ ขวนขวายไล่ไขว่คว้า.........ความฝัน ครองสุขเขษมอัน..................อะคร้าว เงินตราค่าอนันต์..................อเนกอย่าง.........จินต์ฤๅ จึงแก่งแย่งแข่งกร้าว............แกร่งคว้ากุมผล ฯ ๏ ดนตรีตีตุ่มตุ้ม..................แต่งกลอง จังหวะเร้าคะนอง.................ขณะเต้น สุราเร่งผยอง.......................พยศกฎ พยาธิจากประมาทเว้น..........ว่างเงื้อมมือไฉน ฯ ๏ ไขอรุณอร่ามแล้ว..............อุไรฉาย เสียงเร่ร้องซื้อขาย................ขาดถ้อย เภรีพ่างจางวาย...................จังหวะ วาระทิวาคล้อย.....................ค่อยฟื้นคืนสถาน ๚ะ ๒๓ มีนาคม ๒๕๔๗
24 มีนาคม 2547 12:04 น. - comment id 236033
ราตรีใดใจเหงา เกินเอ่ย ทุกทิวายากเปรย เรียกหา ลมเอื่อยพัดอย่างเคย ไร้รัก ไร้ผู้คนทายทัก เจ้าหุ่น ไล่กา
24 มีนาคม 2547 12:36 น. - comment id 236069
ความมืดบางครั้งก็กลัว แต่บางครั้งกลับครื้นเครง
24 มีนาคม 2547 12:36 น. - comment id 236070
ความมืดบางครั้งก็กลัวกลัวความเงียบเหงา แต่ความมืดบางครั้งกลับครื้นเครง
24 มีนาคม 2547 13:02 น. - comment id 236096
เข้ามาชื่นชมค่ะ แต่ระทมทับดวงใจกับ*โลกราตรีที่(ไม่น่า)เลือก* ที่บางคนยังหลงในวังวนและจะพบกับความวังเวงเดียวดายในบั้นปลาย พุดพัดชาไม่เคยไม่ค่อย ได้สัมผัสรู้จักโลกยามราตรีเลยค่ะ.. และ ฝากคิดถึงคุณวิจิตรมานะที่นี่ด้วยนะคะ นานแล้วไม่ได้อ่านงานงามค่ะ รักและรักค่ะ
24 มีนาคม 2547 15:48 น. - comment id 236191
แต่งได้ไพเราะและสวยงามด้วยความหมายมากเลยค่ะ แวะมาชื่นชมผลงานนะค่ะ
24 มีนาคม 2547 22:44 น. - comment id 236428
...๏โคลงงามยามร่ายเพี้ยง...................เสียงไทร ไสวเฮย พรายแผ่วแนวเสียดใบ........................บ่ายย้อย ระบัดกวัดตวัดไกว................................ปลายกิ่ง อิงเอย เสียงเพราะเสนาะคล้อย........................ปล่อยให้ใจสราญ ๚ะ๛