๏ ว่าเพราะเขลาเบาจิตพาผิดพลาด ไม่คิดคาดไขเล่ห์ความเฉฉล ลืมใคร่ครวญรวนเรคะเนกล จึงเปปนเปื้อนผิดหลงทิศไป ว่าเพราะทรัพย์อับจนเหลือทนอยู่ จึงค้นดูใดปลิดเธอคิดไข หวังอยู่ดีชีวิตชื่นจิตใจ จึงติดใยอยากทรัพย์คว้าจับเอา ว่าเพราะกลัวตัวสั่นถูกบั่นฆาต ความหวั่นหวาดวัชฌ์จับจนอับเฉา ดิ้นรนหนีตีสับระงับเบา ใจกลับเมามุ่งเบียนเข่นเฆี่ยนกัน ใช่เหตุผลค้นคิดมาปลิดล้าง ทำผิดอ้างอรรถเปลี่ยนเหตุเพี้ยนผัน ดังภาพดำนำเขียนแปรเปลี่ยนมัน เกษียนวรรณวาดขาวล้างคาวฤๅ ๚ะ๛ ๑๗ มกราคม ๒๕๔๗
18 มกราคม 2547 13:58 น. - comment id 204573
แต่งกลอน แนวนี้ได้ เก่งมากเลยค่ะ **คนเราก็ต้องมีเหตุผลเป็นของตัวเองค่ะ** *___________*
18 มกราคม 2547 14:47 น. - comment id 204588
ศัพท์แสง....เหลือกิน นับถือ นับถือ ค่ะ
18 มกราคม 2547 15:21 น. - comment id 204611
ทุกคนย่อมมีเหตุผล...ในสิ่งที่กระทำลงไป...แต่เหตุผลนั้นจะต้องอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง...และจริงใจ....ค่ะ.. เป็นบทกลอนที่ให้ข้อคิดดีมากค่ะ..มาทักทายนะคะ..สบายดีมั้ยคะ...
18 มกราคม 2547 20:19 น. - comment id 204706
:)
18 มกราคม 2547 23:35 น. - comment id 204787
ขอบคุณทุกท่านที่มาแวะอ่านครับผม แหะ ๆๆ นาน ๆ จะเขียนกลอนได้ที 100 เหตุผล..... ครับการกระทำทุกอย่างของคนมีเหตุ และ ผล เสมอ ถนนสายเก่า รองเท้าคู่เดิม อ่า ... ตอนแรกตั้งใจจะใช้ศัพท์พื้น ๆ แต่พอเขียนเป็นกลบท ... ถูกบังคับการใช้คำ ... เลยต้องใช้ศัพท์มากขึ้นครับ ราชิกา.... ขอบคุณครับที่แวะเวียนมาให้กำลังใจอย่างสม่ำเสมอ ตอนนี้ผมสบายดีครับ แต่ ... เวลาว่างน้อยเหลือเกิน :-( ผีขี้เมา............ ^______________________________^
19 มกราคม 2547 16:55 น. - comment id 204950
กลอนไพเราะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆแถมความหมายยังดีมากๆๆๆๆๆๆๆอีกด้วยค่ะ ชอบนะค่ะ แต่แจมกลอนบทนี้ไม่ถูกค่ะ อิอิ