เปี่ยมไปด้วยความ.....ชั่วช้า รู้คุณค่าแห่งเธอ เพราะตัวเธอ...คือกาลกิณี กิริยาโสมม บัดซบเลวสิ้นดี สิ่งเหล่านี้...ล้วนมีอยู่ในเธอ....... (เริ่มด้วยทำนองประกวดนางสาวไทย) ยามแรกรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน พอเวลาเนิ่นนานมันเริ่มขม ณ ยามนี้ยิ้มรื่นแต่อกตรม เพราะไม่สบอารมณ์เลยจริงๆ ก่อนนั้นเธอสวยปานนางสาวไทย สมกุลสตรีไทยที่เป็นหญิง เธอเด็ดขาดบาดใจฉันจริงๆ ได้มาแนบแอบอิงเป็นบุญตา อยู่ต่อไปลายชักเห็น เช้าก็หายบ่ายไม่เห็นเลยใบหน้า เดี๋ยวเข้าบ่อน เดี๋ยวชอปปิ้ง เพลินอุรา อีกบุหรี่เหล้ายาเธอก็เอา เพิ่งเห็นแท้เห็นจริงก็คราวนี้ อีตอนที่ตัวดี...แอบสวมเขา นี่หรือคนเคยสวยถูกใจเรา นี่หรือคนที่เขาเคยรักกัน รู้พิษแท้...ความสวยก็เมื่อสาย หมดแล้วความเป็นชายในตัวฉัน หมดแล้วหมดศักดิ์ศรีเคยมีกัน เธอสวยเกินกว่าฉันคาดคะเน เพื่อนชายครับ อย่าได้รับแต่ความสวย อาจแฝงความเฮงซวยในเสน่ห์ อันใจหญิงแปรปรวนและรวนเร อาจไม่ทันร้อยพันเล่ห์...หลงเทใจ สวยสะเด็ดก็ยิ่งเข็ด...เข็ดความสวย อาจจะนำความซวย...ข่มสวยได้ เพื่อนหญิงจ๋า...สวยมีค่า...สวยที่ใจ หน้าตาช่างมันปะไร....จิตใจดี
9 พฤศจิกายน 2546 03:09 น. - comment id 179776
บทนี้ก็ดีเหมือนกันนะ...เบิรสท์...แต่งได้ สะใจดี..แต่โฮ้ยอมรับว่าบางคำรุนแรงไปหน่อยนะคำพูดนะ.แต่ช่างมันเถอะ.สาวคนไหนเป็นแบบนั้นถ้าได้อ่านกลอนบทนี้รับลอง..ผวาแน่เลยอ่ะ..ไปก่อนนะ.แล้ว จะแวะเข้ามาอ่านใหม่นะ..
9 พฤศจิกายน 2546 17:15 น. - comment id 179929
ความหมายตรงๆดีคับ..^_^
9 พฤศจิกายน 2546 19:35 น. - comment id 180000
ชอบบทสุดท้ายค่ะ ชอบมากเลย คนเราต้องสวยที่ใจ จริง ๆ ค่ะ