หวานคำหวานหว่านล้อมกล่อมข้างหู รู้ทั้งรู้เป็นแค่เล่ห์เสน่หา แต่แรงใคร่ไฟรักคอยชักพา อนิจจาแมลงเม่าบินเข้าไฟ คือโศกนาฏกรรมที่ซ้ำซาก เปลวเพลิงจากราคะจะเผาไหม้ ป่วยการหาอุทาหรณ์ช่วยสอนใจ มิว่าใครก็ห้ามยาก.เธออยากลอง
27 เมษายน 2546 09:38 น. - comment id 131902
ตรงใจเหลือเกินค่ะลุงเวทย์ เจ็บมาไม่รู้กี่ครั้งกับเรื่องเดิมๆๆกับคนเดิมๆๆ ...ตรงใจเหลือเกินค่ะลุง........
27 เมษายน 2546 09:53 น. - comment id 131909
อันคำรักหวานล้ำแม้ซ้ำซาก แต่ว่าหากหวานหูมิรู้หาย คือโวหารแต่นานมาแม้ล้าไป ห่อนล้าในความหมายล้ำของคำโว ในแง่งามของความรักมักซากซ้ำ เหมือนดั่งน้ำไหลไปวนในโถ ให้ดื่มด่ำดำลึกผนึกโต หากหวานโดยโง่เขลาไม่เท่าทัน
27 เมษายน 2546 10:12 น. - comment id 131918
โหววววววววววสุดยอดค่ะ อ่านแล้วพูดได้คำเดียวว่าเก่งจริงๆค่ะ สะใจมากเลย
27 เมษายน 2546 10:20 น. - comment id 131920
ในเมื่อคำหวานหูมืรู้หาย ก็มิต้องเสื่อมคลายในสัมผัส แม้โสตถ้อยร้อยทวนกระบวนทัศน์ มิต้องหัดหักหานให้เหิมใฟ ปล่อยเคลิบเคล้มตามใจไปเรื่อยเรื่อย ไม่ต้องเหนื่อยต้านต่อต่อหัวใจ ให้โมหาชักนำดำลงไป จักดิ่งลึกเพียงใดไม่ต้องกลัว
27 เมษายน 2546 11:16 น. - comment id 131934
หลงลมรักแรงฤทธิ์จิตราคะ เพลิงวาทะระรุมสุมสมร สวาทหวาดหวานหวั่นอกสั่นคลอน ยิ่งถ่ายถอนยิ่งถลำเพราะคำกล สติตั้งระวังใจในระบอบ ปัญญากอบชอบชังชั่งเหตุผล รู้ค่ารักสามัคคีมีมงคล บุญบันดลพ้นภัยมั่นในธรรม
27 เมษายน 2546 11:45 น. - comment id 131938
คำหวาน ๆ ได้ฟังก็ชื่นชอบ เพียงคำปลอบ ก็ฉ่ำชื่นใจ ถ้าคำนั้นแฝงฝากความรักไป แต่เป็นไฟ เผาไหม้ถ้าใจลวง
27 เมษายน 2546 11:54 น. - comment id 131942
ใจปลายทาง, ซินดี้....ขอบใจในคำชม (เหลิงดีมั๊ยนะ) เจือจันทร์, น้ำมันพราย, ระรินทร์....ขอบคุณสำหรับกลอน Daosaddha ....ไม่ธรรมดานิ อิอิ
27 เมษายน 2546 12:44 น. - comment id 131945
ไฟโหมโลมเร้า.มัวเมา..เขลาเกิน.. ทางที่เดิน.เพลินให้..ใจต้องการ.. เปรียบแมงเม่า..บินเข้า เมาไฟฟาง.. สุขซึ้งซ่าน ..หวานให้..ใจอยากลอง.. อยากถามนัก..รักนั้น..เป็นฉันใด.. รักกับใคร่..ใช่เป็น..ท่วงทำนอง.. แค่อยากรู้..ดูใว้..ตามครรลอง.. ความถูกต้อง..ลองรัก.เป็นฉันใด.. ..เรน..แต่ง..แบบกลอนพาไป.... ..กรุณา..แนะนำ..เรนด้วย..นะคะ.. ...วันนี้. เรนม่ายซนนะ.. แบบว่า..เอาการ..เอางานด้วยดิคะ.. เนตรนารี.เรนจัง...ชูนิ้ว..ยืนยัน.. ....จริงๆ..ค่ะ.. เพล้งง!!..เฮ้อ!!... ยิ้มมมมม....
27 เมษายน 2546 18:00 น. - comment id 132041
เรน....มีแววนี่นา แต่แววอะไร ลุงยังไม่บอกนะ อิอิ
27 เมษายน 2546 19:09 น. - comment id 132070
หลงคำหวานหวามใจให้ได้คิด ใครลิขิตอยู่ที่ใจใช่เสกสรรค์ ในความหวานมีขมผสมกัน ตรองดูพลันสติมั่นมิหวั่นกลัว...ฯ หากจะรัก.ก็ต้องรักให้เป็น..ใช่มั้ยคะ..ลุงเวทย์.. แวะมาเยือนค่ะ..
27 เมษายน 2546 20:39 น. - comment id 132086
ราชิกา....ใช่เลย รักแบบมีสติน่ะ
27 เมษายน 2546 21:30 น. - comment id 132097
แมงเม่า บินเข้ากองไฟ (หลอดไฟด้วยแหละค่ะ)
27 เมษายน 2546 23:21 น. - comment id 132161
แหม่ ตรงใจจัง อิอิ ชอบอ่าคับ อิอิ
28 เมษายน 2546 01:58 น. - comment id 132197
มิว่าใครก็ห้ามยาก...เธออยากลอง มาไตร่ตรองแล้วพลันฉันสงสัย คำว่า เธอ ลำเอียงเลี่ยงเกินไป เหมือนดั่งใช้สั่งสอนวอนสตรี (ไม่ห่วงหนุ่มๆ บ้างเหรอคะ) ธรรมดาคำหวานนั้นชุ่มชื่น ระรวยรื่นลมปากยากหน่ายหนี แต่ซ้ำซากคงเบื่อเชื่อวจี ขอลาทีดีแต่ปากยากเชื่อใจ แหม! ก็ฟังเอาไว้หาประสบการณ์ไงคะอา ปล.ขนาดสองบทยังบาดลึกเลือดซิบๆ ถ้าหลายบทสงสัยต้องจองศาลาใช้ไหมคะอา ! ~^_^~
28 เมษายน 2546 08:16 น. - comment id 132249
.......ชอบและตรงใจอีกรอบค่ะลุง แบบว่าเจ็บไม่รู้จักจำ ค่ะ เบื่อตัวเองเหมือนกันค่ะ......
28 เมษายน 2546 09:25 น. - comment id 132287
หวานคำหวานหว่านล้อมคอยกล่อมหู รู้ทั้งรู้ล้นเล่ห์กระเท่ห์ผอง หักมิหักยักย้ายขวนขวายปอง ครองแล้วครองซมเศร้าคลุกเคล้าชนม์ คิดจึงคิดผิดพลาดประหลาดนัก รักเขารักแจกจ่ายมากมายหน เศษของเศษเลศสิ้นดังหมิ่นคน ทน ฤ ทนถามใจจงไตร่ตรอง.
28 เมษายน 2546 09:29 น. - comment id 132292
อ่านกลอนลุงเวทย์ ทำให้นึกถึงกลอนของท่านสุนทรภู่ ที่ขึ้นต้นว่า อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก แต่ลมปากหวานหูมิรู้หาย.....
28 เมษายน 2546 09:52 น. - comment id 132304
พิมพ์.....แซวก็เป็นเหรอ ลม....เคยเป็นแมลงเม่าหรือไง ก๊ากกกกกกกกก ส้มโอ....เคยมีใครใช้คำว่า มีราคี กับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ นายก๊อง....แบบนี้เกทับกันนี่หว่า (ผมเล่นแค่ 2 วรรค) ลำน้ำน่าน....แหะๆ อย่าเอาไปเปรียบจิ
28 เมษายน 2546 09:53 น. - comment id 132307
ใจปลายทาง....มองไปข้างหน้า แล้วดีเอง
29 เมษายน 2546 05:55 น. - comment id 132764
เปล่าเก และก็เปล่าเกย์นาลุงนา อิอิอิ แบบว่าเห็นบางตำราเค้าบอกว่าการเล่นกลบทให้เล่นนิด ๆ หน่อย ๆ แต่ผมเห็นค้านง่ะ ครือป๋มว่าอย่างน้อยต้อง ๑ บทอะครับถ้าจะเล่น ฮี่ฮี่ฮี่ สองคนยลตามช่องนาลุงนา...
29 เมษายน 2546 08:41 น. - comment id 132789
นายก๊อง...กลบท ก็เหมือนดาบสองคมน่ะ ผมว่าจะใช้มากหรือน้อยแค่ไหนน่าจะขึ้นอยู่กับว่าเรากำลังทำอะไร มีจุดหมายอะไร ถ้าต้องการให้คนเห็นรูปกลบท ก็คงเขียนวรรคเดียวไม่ได้ แต่ถ้าต้องการสื่อความ แล้วเอากลบทมาทำให้ความเสียไป ก็คงไม่เหมาะ ความลงตัว หรือความพอดี ทำได้ยากเสียด้วยสิ
3 พฤษภาคม 2546 08:32 น. - comment id 134749
สวัสดีค่ะ ลุงเวทย์ขา เนี่ย ไข่เจียวรักกลอนของลุงเวทย์ก้อตรงนี้ แหละค่ะ นอกจากไพเราะแล้ว ยังสอนอีกด้วย ... แฮ่ ๆ บางทีอ่านแล้ว เจ็บ ๆ ไงก้อไม่รู้ ..... ... ลำนำเลือด เฉพาะกลอนได้ 19 หน้าค่ะ นอกจากได้ข้อคิดแล้ว ..อิอิ..ไข่เจียวใช้แอบดู คำสัมผัสด้วยค่ะ ...ลุงเวทย์อย่าหายไปนานนะคะ ( แฮ่ .. ที่จริงอยากอ่านกลอนหวานๆ ด้วยค่ะ )
6 พฤษภาคม 2546 10:38 น. - comment id 135737
ไข่เจียว...หลอกชมแล้วแอบอ้อนด้วยนี่นา แหะๆ