เขียนกลอนรักเพื่อนฉันมันก็ว่า ครั้นชมนกชมปลาก็ด่าฉิว หันไปเขียนเพื่อชีวิตก็อิฐปลิว ให้เขียนคิ้วเขียนตาหรือว่าไร เขียนอะไรก็ไม่ได้ไปทั้งหมด มันเก็บกดน่าดูเพื่อนรู้ไหม นักเลงกลอนนอนกรนมากล้นไป ด้วยเมื่อไขน้ำคำถูกย่ำตี แท้โลกเราเขาสร้างหลายทางทอด จะช้าจอดหรือจ้วงแจวจนเร็วจี๋ จะยืนเดินลุกนั่งคลั่งหรือดี ไม่เผาผีด้วยกันอันตราย เราเกิดร่วมกอเดียวเหนียวหรือจ้าว มันก็ข้าวคือกันบรรณสาย ได้สร้างศิลปกรรมทำประกาย แม้ตัวตายสู้ตรากตรำกรำกวี ไม่รักกันวันนี้ผีไม่ช่วย ไม่รีบฉวยมือกันมันก็ผี มัวตีฉิ่งนิ๊งหน่องจ้องจะตี มันจะมีอันใดให้โด่งดัง ใครเขียนรักสลักใสเอาใจช่วย วาดให้สวยสวยจนเป่ามนต์ขลัง ใครเขียนป่าว่าไปเอาใจฟัง ให้ยินยังบริบทแม้มดคุย อย่าเหน็บกันเลยน่ามาเถิดเพื่อน เกลอเราเกลื่อนธรณีไม่มีถุย เราไม่ขากคารมข่มใครทุย ไม่กี่วันเราล้วนยุ่ยปุ๋ยทุกคน/.
13 กุมภาพันธ์ 2546 21:18 น. - comment id 108827
ก๊ากๆๆๆๆ แรกๆ ฮาดีค่ะ แต่หลังๆ อ่ะ ลูกเป็ดอ่านแล้วรู้สึกเจ็บไงก็ไม่รุ๊ ร้อนตัวอ่ะค่ะ
13 กุมภาพันธ์ 2546 21:53 น. - comment id 108842
หวัดดีครับคุณลูกเป็ด เรื่องไม่เป็นเรื่องของผมเองครับ ที่บังเอิญไปอ่านพบบทกวีบทหนึ่งในหน้านิตยสารฉบับหนึ่ง มีสาระในเชิงไม่เห็นด้วยที่ใครๆเขียนกลอนหวานๆ ซึ่งผมเห็นว่าใครจะเขียนอะไรก็ตามใจคนเขียนเขาซี จะไปว่าใครเขาทำไม ก็เลยออกมาเป็นปฏิกิริยาอย่างข้างบนแหละครับ แต่ประกันได้ว่า ผม บอ ริ สุด จาย เข้าใจอารมณ์คนเขียนกลอนและเป็นกลางฮับ ไม่ต้องเจ็บ ต้องร้อนตัวหรอกครับ โอ๋......
17 กุมภาพันธ์ 2546 01:51 น. - comment id 109347
ดวงใจใสพิสุทธิ์ดุจตะวันนำทาง