เป็นขี้ควาย ปลายนา น่ารังเกียจ คนหยามเหยียด เย้ยเรา จนเศร้าหมอง หวังไว้เพียง พงหญ้า เหลียวมามอง ก็สมปอง ต้องใจ จึงเจียมตน กุหลาบแดง แกงเขียวหวาน ประสานมิตร เมตตาจิตร มอบให้ ไม่หวังผล ซาบซึ้งใน ไมตรี ที่เยี่ยมยล สงสารคน กรุงศรี เท่านี้พอ เพราะเตรียมตัว เตรียมใจ ไม่ผยอง มิหมายปอง ดอกฟ้า สูงกว่าหนอ กลัวใจจะ ระกำ น้ำตาคลอ คงจะขอ เพียงเศษ คนเมตตา คนใจช้ำ ทำใจ ไว้นานนัก ขาดที่พัก พิงใจ ยังใฝ่หา เพียงมิเมิน มองผ่าน ไขขานมา ซึ้งอุรา ขอตอบ ขอบพระคุณ
25 มกราคม 2555 11:32 น. - comment id 1221899
อ้าว...ไอ้เราก็เปรียบเล่นๆ ที่แท้เป็นขี้ควายจริงๆซะด้วย
25 มกราคม 2555 12:17 น. - comment id 1221920
มองขี้ควายแล้วเห็นอะไร? อันขี้ควายให้ประโยชน์อุโฆษหนา แมงกุ๊ดจี่กี่ซอนนาล้วนอาศัย โปรตีนล้นปนแคลเซี่ยมเยี่ยมกระไร แหม... ติดใจ รสหลายหลาก จากขี้ควาย.... นี่แหละ หุหุ
26 มกราคม 2555 17:03 น. - comment id 1222208
มีคนให้กุหลาบด้วย ดีจัง
26 มกราคม 2555 20:16 น. - comment id 1222267
ถึงขี้ควาย ก็โดดเด่น ใช้เป็นปุ๋ย ดินร่วนซุย พืชผลงาม ตามแบบแผน ยังไม่น่า หดหู่ เท่าผู้แทนฯ ขอดค่อนแค่น กลางสภา ไร้ค่าจริง