เมื่ออยู่นา ป่าเขา ลำเนาหนอง มีบึงคลอง ทิวไผ่ ไร่นาสวน เคยขุดดิน เผาถ่าน หว่านไถพรวน ฟังเพลงครวญ ขลุ่ยแผ่ว ดังแว่วมา บ้านมุงจาก ฟากทำ ด้วยลำไผ่ จุดขี้ไต้ ไล่ยุง พร้อมหุงหา กินน้ำพริก ผักต้ม แกงส้มปลา มีชีวา อยู่สุข มิทุกข์ใจ พอขายนา มาเมือง มีเรื่องยุ่ง เริ่มเฟ้อฟุ้ง รุ่งเรือง ที่เมืองใหญ่ อยู่ตึกราม ระฟ้า อ่าอำไพ สุดวิไล ในกรุง ลืมทุ่งนา ตกคืนค่ำ แสงสี มีวิจิตร ใช้ชีวิต กลางคืน ชื่นนักหนา ทั้งดื่มกิน เที่ยวเตร่ และเฮฮา ลืมที่มา ของตัว เริ่มมัวเมา มีเพื่อนหลาก มากมาย คบหลายหน้า สุขอุรา ช่วยให้ ได้คลายเหงา พอหมดเงิน บ่ายเย็น ไม่เห็นเงา เริ่มซบเซา ขัดสน คนไม่มอง คนบ้านนา ฟ้าเมืองหลวง ทรวงซอกซ้ำ ต้องระกำ เหตุใด ไร้สมอง เก็บเงินเก่า ก้อนสุดท้าย ที่ขายทอง แล้วลอยล่อง กลับนา มาถิ่นเดิม
27 สิงหาคม 2554 03:12 น. - comment id 1206294
beautiful peom...make me miis my childhood in thailand...Thank You
27 สิงหาคม 2554 05:58 น. - comment id 1206299
คนกรุงศรี..หนีกรุงที่ฟุ้งเฟ้อ แสงสีเกร่อเห่อเหิมช่วยเสริมส่ง แย่งกันกินแย่งหายใจให้พะวง ทุกยามโมงไม่หลับนอนสะท้อนใจ กลับบ้านไร่นาเรา..เบาสบาย มีเพื่อนควายให้ขี่หลัง..นั่งชมจันทร์