จาก ๑๔ ตุลา สู่สภาล่ม
ศรีสมภพ
จาก ๑๔ ตุลา สู่..สภาล่ม
๑๔ ตุลา..มหาวิปโยค โศกวิกฤติ
หลายชีวิต ถูกปลิดลง ตรงต่อหน้า
เฮลิคอปเตอร์ กราดกระสุนพรุนกายา
ยิ่งทายท้า ยิ่งกล้าสู้ ผู้เรียกร้อง !
ประชาธิปไตย..ในอดีตกรีดใจนัก
เหมือนกับดัก เผด็จการผลาญผยอง
คอรัปชั่น ! มันอำนาจฉกาจลำพอง
ใครขัดข้อง ต้องกำจัดยัดความตาย
พวกหนุ่มสาว เยาว์วัยใฝ่ศึกษา
มีปัญญา รู้ท่ากลคนสาไถย
ลุอำนาจ ข่มเหงไม่เกรงใคร
หารู้ไม่ ? ใครรู้ลึกผนึกต้านทาน
ปัญญาชน..ล้นไหลในธรรมศาสตร์
ป่าวประกาศปลดแอกแหกสะท้าน
หมดเวลา สิ้นเสร็จ เผด็จการ
ยุคทหาร ผลาญข่ม อมบ้านเมือง
เสียงปืนกล พ่นสาด กราดกระสุน
ชุลละมุน วุ่นวายตายต่อเนื่อง
มือเปล่าโหม กล้าโรมรันสนั่นเมือง
พร้อมมีเรื่องเปลืองกระสุน หนุนเข้ามา
ในที่สุด..มนุษย์บ้า ก็ลาจาก
เสือลำบาก สามทรราษฎร์ พลาดถลา
หนีออกเขตประเทศไทยไม่กลับมา
เหล่าประชา โห่ร้องก้องธรนินทร์
๓๗ ปี.. ที่ผ่าน แม้นานนัก
ยังจมปลัก หมักไถลไม่รู้สิ้น
บทเรียนสอน ย้อนหลายหนจนชาชิน
กัดกร่อนกินไทยสิ้นสุข ทุกข์ลำเค็ญ !
หวลรำพึง ถึงวีระชน เหล่าคนกล้า
คนตุลา กล้าสู้ตาย หากได้เห็น
ต้องร้องไห้ ฟูมฟาย ใจกระเด็น
ประชาธิปไตย ที่ได้เห็น .. อยู่เช่นเดิม !
.. รำลึกเหตุการณ์ ๑๔ ต.ค.๑๖
ย่าง ๓๗ ปี ..วีระชนคนตุลา