เก็บกดไว้ ในกมล อดทนนิ่ง กับความจริง ที่ร้าวรอน ซุกซ่อนอยู่ เฝ้ากลบเกลื่อน เบือนหน้า น้ำตราพรู ทั้งที่รู้ มันหนักข้อ ก็ต้องวาง เพื่อนบางคน ก่นด่า ว่าโง่เง่า ถามว่าเรา เหคุใด ถึงใจกว้าง บ้างดูหมิ่น เชิงชาย ไร้น้ำยาง ปล่อยให้คน เคียงข้าง เป็นอย่างนั้น พิพากษา กันไป ไม่สิ้นสุด เพราะเกินจุด แก้ไข ให้ผกผัน ขอแค่พียง รู้สึกดี มีต่อกัน ก่อนเลิกความ สัมพันธ์ เท่านั้นพอ ไม่มีคำ บรรยาย ใดมามอบ ยืนยันตอบ เต็มใจ ไม่ไปต่อ ทางชีวิต ปิดใจ มิให้รอ หรือวอนขอ ง้อมาลี ดอก(สี)ทอง ก็ต่างคน ต่างไป ต่างใช้สิทธิ์ สู่ชีวิต อิสระ โลดผยอง สุขจากกาม เธอเห็น เป็นครรลอง ขอให้ครอง ไปรอด ปลอดชีวา เธอจะนัด พบกัน กันวันไหน จะเลยเถิด ทำอะไร เราไม่ว่า แต่สิ่งหนึ่ง ร้องขอ ต่อกานดา อย่าแบะท่า ให้เขาถอง เป็นของฟรี หมายเหตุ กวี ซีม่า เขียนกลอนบทนี้ ตั้งแต่ พ.ศ. 2511 ค้นพบโดยบังเอิญ นำเสนอเพื่อเป็นหลักฐานว่า วิวัฒนาการ...อารมณ์กลอนของ กวี ซีม่า ก็เริ่มต้นมาจากกลอนรัก สายลม แสงแดด... เหมือนกับใคร ๆ อีกหลายคน...จ้า
12 กันยายน 2553 15:05 น. - comment id 1151831
โดนจริงๆเลยนะครับขอบอกแสบๆคันๆมันได้ใจจริงๆ
12 กันยายน 2553 15:04 น. - comment id 1151929
ฉันจำได้ เธอทำ ให้ฉันเจ็บ เหมือนโดนหนาม ตำเล็บ เจ็บไม่หาย แล้วเธอกลับ มาหา ฉันทำไม หรือใครทำ เธอเจ็บใจ ชดใช้กรรม หวังว่าสักวันคุณกวี ซีม่า คงจะได้ใช้กลอนนี้ ยินดีที่ได้รู้จักครับ
13 กันยายน 2553 07:40 น. - comment id 1155672
มาให้กำลังใจค่ะ ถ้าผู้หญิงไม่ดี ปล่อยเขาไปตามทางเถิดค่ะ
12 กันยายน 2553 13:01 น. - comment id 1155763
รับทราบค่ะ ท่านพี่..จริงๆ ชอบปลูกทั้งไม้ใบ+ไม้ดอก แต่ดอกที่ท่านพี่พูด...ยังไม่เคยเห็นเจ้าค่ะ อันนี้เนียนสุด ๆ หยุดต่อกลอน 3 นาทีไว้อาลัยค่ะ
12 กันยายน 2553 13:09 น. - comment id 1155764
กิมฮวย..... แซมเคยเห็น..เค้าใช้เผาตอนตรุษจีน.... พี่ซีแต่งกลอนไพเราะตั้งแต่...เอ่อ.. เด็กๆ หรือหนุ่มๆ คะนั่น.... กลอนบทนี้เป็นของเก่าลายคราม แซมมิบังอาจต่อ..... แหม ถ้าเกิดทัน แซมจะช่วยดามหัวใจซะหน่อย.. ช้าไปนะแซมนะ.... แซมค่ะ
12 กันยายน 2553 17:29 น. - comment id 1155786
สมัยนั้นยังไม่มีโรคร้ายใช่มั้ยครับ
12 กันยายน 2553 17:40 น. - comment id 1155787
เมื่อต่างคนต่างไปในที่สุด จึงได้ผุดท่านกวี ซีม่า เขียนประชดประชันแต่นั้นมา แต่ตรงใจชาวประชาอย่างข้าดี ท่านเขียนกลอนรักอกหักผิดหวังในชีวิตคู่ตั้งแต่ปี2511... นัยยะว่าผู้อาวุโส ข้าขอคาราวะ อ้อ...กรุณาตัดคำว่า"คุณ"ออกด้วยครับ หากต้องการเรียกนายพระจันทร์... อ่านแล้วมันจั๊กจี้ ... ขอเป็นกรณียกเว้นด้วยครับ
13 กันยายน 2553 12:13 น. - comment id 1155844
สวัสดีครับ...คุณ Boomerang ขอบคุณที่กรุณาแวะมาเยี่ยมชม..ขอ-รับ สุวรรณมาลี...มีดอกไหม ? เราก็ไม่ เคยเห็น เฉกเช่นท่าน ได้ยินชื่อ ลือชา มานมนาน เป็นนางใน นิทาน วรรณคดี ที่ตั้งชื่อ กลอนไว้ ให้เลิศหรู เพียงเพื่อดู งดงาม ตามวิถี ดอก(ไม้)ทอง เถื่อนถ่อย ถ้อยวจี ขอใช้สุวรรณมาลี...แทนที่เอย
13 กันยายน 2553 12:15 น. - comment id 1155845
สวัสดีครับ...นางฟ้าแซม... ยาจกซี หัดเขียนกลอนตั้งแต่อายุ 15 ปี กว่าจะได้รับพิจารณาตีพิมพ์ในสื่อต่าง ๆ อายุก็ย่างเข้า 18 ปี แล้ว ผลงานเหล่านั้น กระจัดกระจายอยู่ตามนิตยสาร วารสาร หนังสือพิมพ์ ฯลฯ มากมายจนจำไม่ได้ ใช้ทั้งนามจริง และ นามปากกา โดยดู เหมาะสมของบทกวี ส่วนนามปากกา กวี ซีม่า ใช้สำหรับบทกลอนออนไลน์ ซึ่งลีลากลอนต้องเป็นแบบแสบ ๆ คัน ๆ มันหยด อะไรประมาณนั้น... ขอบคุณที่ติดตามผลงานเป็นประจำ... ขอบคุณที่บ้านกลอนทำให้เราได้รู้จักกัน นางฟ้าแซม เป็นกัลยาณมิตรสำหรับ ยาจกซี เสมอและจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป
13 กันยายน 2553 12:17 น. - comment id 1155847
สวัสดีครับ..คุณ พจนา ForLife ขอบคุณที่กรุณาแวะมาเยี่ยมชม..ขอ-รับ ฉันจด ฉันจำ ฉันเจ็บ ฉันเก็บ ฉันกด อดสู บทเรียน นี้เป็น เช่นครู จะอยู่ ติดตรึง...ถึงวันตาย
13 กันยายน 2553 12:18 น. - comment id 1155848
สวัสดีครับ..คุณ สุริยันต์ ฯ ขอบคุณที่กรุณาแวะมาเยี่ยมชม..ขอ-รับ แสบแสบ คันคัน มันทุกหยด คือบท กวนเกือก ไม่เลือกหน้า ไม่คัน ไม่แสบ แปลบอุรา เอิ้น กวี ซีม่า ได้จะใด ?
13 กันยายน 2553 12:20 น. - comment id 1155849
สวัสดีครับ..คุณ คนเดียวกัน ขอบคุณที่กรุณาแวะมาเยี่ยมชม..ขอ-รับ สมัยนั้น แค่มี ฝีมะม่วง น้ำตาร่วง เป็นแถวแถว แล้วเจ้าค่า หากมีเอดส์ เหมือนวันนี้ สิกานดา คงตายห้า ตายโหง...ลงโลงแล้ว (ตั้งใจเขียน...ตายห้า..จริง ๆ ครับ)
13 กันยายน 2553 12:23 น. - comment id 1155850
สวัสดีครับ..นายพระจันทร์ ขอบคุณที่กรุณาแวะมาเยี่ยมชม..ขอ-รับ มันทอดทิ้ง เราไป ทำให้เจ็บ จำต้องเหน็บ แนมบ้าง เหมือนดังว่า ก่อนจากไป ไร้คำ กล่าวอำลา จึงเกิด กวี ซีม่า มาบัดนั้น คำใดใด แสบคัน เราสรรหา เลือกนำมา จัดแจง ปรุงแต่งปั้น แต่ละบาท แต่ละบท ประชดประชัน เล่นให้มัน เจ็บแปลบ...แสบถึงทรวง
13 กันยายน 2553 12:31 น. - comment id 1155852
สวัสดีครับ..คุณอนงค์นาง ขอบคุณที่กรุณาแวะมาเยี่ยมชม..ขอ-รับ ตัดหางปล่อย วัดไป หลายปีแล้ว ไม่เหลือแวว อาลัย ให้ห่วงหา ขอขอบคุณ กำลังใจ ส่งให้มา ซึ้งอุรา "กวี ซีม่า" แล้ว
13 กันยายน 2553 13:29 น. - comment id 1155863
สาวสุวรรณมาลี..มาตีจาก น้ำตาพรากน้ำลายหยดแกล้งหดหู่ ได้รู้เช่นเห็นชาติมาดพธู ดีกว่าดูไม่ออก..กลับกลอกนาน อยู่คนเดียวเปลี่ยวเหงาไม่เฉาหรอก หาทางออกยามเศร้ากอดเสาบ้าน หรือเต้นโชว์โคโยตี้..ที่เบิกบาน ดีกว่าพาลพูดเพื่อ...มีเยื่อใย ตั้งใจมาปลอบค่ะ
13 กันยายน 2553 14:17 น. - comment id 1155870
สวัสดีครับ...คุณ บูมเมอแรง.... ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชม...ขอ-รับ ************************ สาวสุวรรณมาลี..มาตีจาก น้ำตาพรากน้ำลายหยดแกล้งหดหู่ ได้รู้เช่นเห็นชาติมาดพธู ดีกว่าดูไม่ออก..กลับกลอกนาน อยู่คนเดียวเปลี่ยวเหงาไม่เฉาหรอก หาทางออกยามเศร้ากอดเสาบ้าน หรือเต้นโชว์โคโยตี้..ที่เบิกบาน ดีกว่าพาลพูดเพื่อ...มีเยื่อใย ******************** เขียนมาปลอบ ขอบคุณ อบอุ่นนัก อุ่นจนชัก ร้อนรน ทนไม่ไหว นี่มาปลอบ หรือมาย่ำ ให้ช้ำใจ เจ็บแค่ไหน ยังกล้ำกลืน ฝืนอุรา โคโยตี้ วัยเฒ่า กอดเสาบ้าน แนะแนวทาง ทรมาณ ฉันนี่หว่า เล่นปูไต่ ด้วยกัน เถอะขวัญตา คงมันกว่า นะเพื่อนเกลอ บูมเมอแรง ***********************
13 กันยายน 2553 15:23 น. - comment id 1155886
ด้วยไม่เชื่อวัยวนของคนเขียน จึงล้อเลียนเล่นนิดแบบคิดแผง งั้นจะเตรียมยาหอมพี่อออมแรง บูมแสดงเป็นปูหรือรูดี กลอนมันพาไปให้กระชุ่มกระชวยนะคะอย่าถือสานะคะ
13 กันยายน 2553 15:50 น. - comment id 1155897
สวัสดีครับ....คุณบูมเอมแรง..... "โคโยตี้ ซีม่า" รับสัมผัสกลอนจ้า... แซยิดมา เกือบปี เกลอที่รัก ฟันก็หัก ผมก็มอง เป็นสองสี เล่นปูไต่ กันเถอะเรา คงเข้าที โคโยตี้ เต้นไม่ไหว ไม่น่าดู เกลอจะเล่น เป็นอะไร ได้ทั้งนั้น เพราะว่าฉัน ยินยอม เตรียมพร้อมอยู่ หากเกลอเลือก ก่อนเล่น พร้อมเป็นรู ฉันก็พร้อม เป็นปู เคียงคู่เกลอ
13 กันยายน 2553 16:50 น. - comment id 1155903
ขอบคุณค่ะไม่ถือสาและมาต่อ กลัวแข็งข้อบทโหดโกรธทีเผลอ? มีอภัยให้กัน...ฉันกับเธอ ได้ออเออตามวิถีกวีกวน ไม่อยากนำความเครียดมาเสียดสี รัสมีความสุขปลุกทั้งก๊วน ขอเพียงกายไม่าบรรจบก็อบอวน มีค่าควรให้นับถือก็คือใจ
13 กันยายน 2553 17:35 น. - comment id 1155907
สวัสดีครับ...คุณบูมเมอแรง.... "โคโยตี้ ซีม่า" มาต่อกลอนแล้ว...ขอ-รับ เฒ่าอย่างฉัน ไร้แรง จะแข็งข้อ แต่มิท้อ สร้างสรรค์ วันสดใส จะต่อหน้า หรือลับหลัง จะยังไง พร้อมเชื่อมใย ไมตรี ดีต่อกัน อาจจะดู ซีเรียส เครียดไปหน่อย แต่เอนจอย ในคุณค่า อารมณ์ขัน ขอเพียงเรา เร่งปลูก ผูกสัมพันธ์ สร้างสวรรค์ บ้านกลอน...ขจรภพ
13 กันยายน 2553 17:53 น. - comment id 1155910
ลืมหัวใจที่แตกแหลกเป็นเสี่ยง ขอโอมเพี้ยงให้สนิทปิดบรรจบ อยู่ต่างแดนแคว้นใดไม่ไกลงบ จะตามไปเคารพให้ครบแบน นี่ก็จวนหน้าหนาวภูเขาเขื่อน เมฆหมอกเกลื่อนเดือนดับเดินจับแขน ชมยอดภู..ดูดาวเล่าเรื่องแฟน สองสามแบนคุยจบไม่รบกวน รู้สึกถูกคอ.นะคะ/หมายถึงคุยกันรู้เรื่องค่ะ
14 กันยายน 2553 06:20 น. - comment id 1156016
สวัสดีครับ...คุณบูมเมอแรง.... "โคโยตี้ ซีม่า" มาต่อกลอนแล้ว...ขอ-รับ ฝากดูแล หัวใจ ให้ถนอม ฝากมาพร้อม ร่างกาย เลี้ยงให้อ้วน ฝากบทกลอน สร้างฝัน ให้รัญจวน ควรไมควร แล้วแต่จะ กรุณา จากปลายฝน ต้นหนาว เข้าหน้าร้อน โลกโคจร เวียนไป ในเวหา สำหรับเรา ก้าวผ่าน กาลเวลา ด้วยคุณค่า บทกวี ที่งดงาม
15 กันยายน 2553 14:23 น. - comment id 1156299
คารมดีตีต่อก็พอเอื้อ ด้วยยังเชื่อบทกวีดีเกินสาม ได้ฝึกปรือจิตนาภาษาความ แม้นลวนลามล้อเล่นไม่เป็นไร มีขอบเขตเจตนาภาษาศิลป์ อย่าติฉินแม้นเผลอเจอเหลวไหล แต่ละวันผันเปลี่ยนหมุนเวียนไป จะหาใคร? ใจตรงแบบลงตัว เมื่อกวี ซีม่า มาทาถู ก็หยั่งรู้อารมณ์ร่วน..น่าชวนหัว อย่าทิ้งห่างร้างไกลซ่อนใบบัว เพราะเจ้ารัวกลอนล้อ..ลืมง้อคืน อยากให้มีชื่ออยู่ทุกหน้าจะได้หากันเจอค่ะ