หมดแรงแล้วกวี !!! งานอิสระเสรีอย่างนั้นหรือ ปณิธานเหลวไหลในกำมือ กระดาษขาวที่ถือไร้ถ้อยคำ เราจะสร้างสังคมดี !!! ด้วยน้ำหมึกพิมพ์สีวจีพร่ำ กระดาษถนอมสายตาเอามาทำ ร้านหนังสือชั้นนำ ไร้บทกวี สิ้นสถานที่หายใจ !!! วรรณศิลป์วรรคไว้ไร้พื้นที่ งานคือเงินเงินคือสุขทุกนาที เอาเวลาไหนมีประดอยคำ หมดแรงแล้วกวี !!! เทอดศักดิ์ศรีสวมหัวให้ตัวช้ำ สิ้นแล้วงานสิ้นแล้วเงินเผชิญกรรม พื้นที่งานงามล้ำคือโลกเสรี เหลือเพียงโลกไซเบอร์ !!! ไวรัสร้าย-เออเร่อ-ลอกก๊อบปี้ อุตส่าห์ประณีตคิดเขียนอย่างดี หมดสิ้นแรงแล้วกวียุคเอชทีเอ็มแอล
9 มีนาคม 2551 02:32 น. - comment id 830606
ฮูเรรรรรรรรรรรรรรรรร ที่1 ฝนจองที่1 ต้องโพส์ก่อน เด๋วโดนแซง คิกๆๆๆๆ%
9 มีนาคม 2551 02:37 น. - comment id 830607
อย่าเพิ่ง หมดแรงค่ะ คุณกวีปกร๊ณ์ ช่วยกันถาก ช่วยกันถาง ช่วยกันวาง จุดสำนึกที่ดีๆๆให้สังคม กัน ฝนมาเป็นกำลังใจให้คุณกวีปกรณ์ค่ะ รับค่ะรับ กำลังใจทั้งก้อนเลยค่ะ
9 มีนาคม 2551 08:12 น. - comment id 830622
ว่ายเวิ้งว้างว่างเปล่าวรรณศิลป์ ดึกดื่นรินแสงดาวต่างข้าว เสพย์กาพย์หอมร่ำสู่มิรู้หนาว- ร้อนจักคลายผ่อนร้าวด้วยรสกานท์ นิพนธ์กวีไว้เพื่อกู้วิญญาณ ร่ายคำสู๋จักรวาลกานท์กล่อมขาน มิหวังสินนฤมิตปณิธาน หวังร่วมจารรื่นรสบทกรองแล้ว ขวัญเอยมาสู่ขวัญ ณ ฝันงาม เกี่ยวก้อยร้อยคำตามท่ามป่าแก้ว เสพย์ทิพย์มณีคำล้ำเลิศแพร้ว ทุกหยาดแววเจิดจรุงรุ้งกวี นึกถึงปณิธานกวีของคุณอังคารค่ะ มาให้กำลังใจ อย่าเพิ่งหมดกำลังใจนะคะ เขียนได้เยี่ยมมากค่ะ
9 มีนาคม 2551 09:37 น. - comment id 830641
มาให้กำลังใจคะ..
9 มีนาคม 2551 10:35 น. - comment id 830670
อย่าเพิ่งหมดแรงกันนะคับ.. เรื่องธรรมดา..กวีใส้แห้ง ไมตรีจิตมิตรอักษร
9 มีนาคม 2551 10:58 น. - comment id 830677
เรื่องจริง มันเป็นอย่างนั้นละครับ..ธุรกิจน้ำหมึก แต่กวีมักแรงเยอะ.. ไม่หมดแรงกันง่ายๆ หรอกครับ ็ดูแต่คนเขียนกลอนตัวเล็กอย่างผม ยังไม่ยอมที่จะหมดแรง.. ฉะนั้น คุณกวีปกรณ์ก็เดินต่อไปนะ งานคุณนะ..ผมชอบอ่าน
9 มีนาคม 2551 13:15 น. - comment id 830707
อ้าว..หมดแรงซะแล้ว...บอกแล้ว ให้กินผัก กะผลไม้เยอะๆ ไม่เชื่อ...
10 มีนาคม 2551 11:18 น. - comment id 830824
**.. ถ้วนทุกถ้อย รังสรรค์ งานคุณค่า เพื่อตอบโลก หยาบช้า น่าขยะแขยง ตราบกวี ศรีศิลป์ มิสิ้นแรง จะขับกล่อม โลกแร้ง ด้วยแรงศรัทธา... กวีอยู่ได้ด้วยความศรัทธาต่อสังคมที่เราทำ " นี่คือคำตอบหนึ่งของผม ที่ว่า เราเขียนบทกวีเพื่ออะไร "
10 มีนาคม 2551 12:48 น. - comment id 830858
โดนลอกก็เขียนใหม่ เอาให้คนลอกก๊อปปี้มึนไปเลย หรือไม่เราก็มึนเอง..55 เป็นแรงใจให้นะน้องกวีปกรณ์
10 มีนาคม 2551 15:19 น. - comment id 830881
เพื่อนน้องเล็กบอกว่า อย่าพึ่งหมดแรงอ่ะพี่กร
10 มีนาคม 2551 21:54 น. - comment id 830954
อย่าเลยอย่าด่วนเเล้ง กำลัง ใจนา ความฝันอย่าภินท์พัง อ่อนล้า กวีเอยเจ้าคือคลัง ภาษาโลก กำลังใจจากข้า เเด่เจ้า นิรันดร์กาล เเม้นมีสิ่งเเสร้งให้ อ่อนเเรง จงยืนหยัดสำเเดง รุกก้าว สลัดความเคลือบเเคลง อย่าระย่อ เลยนา กวีจักคู่ด้าว เเหล่งหล้า นิรันตร
11 มีนาคม 2551 11:04 น. - comment id 831034
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ..
13 มีนาคม 2551 22:51 น. - comment id 831737
กร พี่เอากลอนมาฝาก เพราะนะ แต่แรงไปนิด ก็มึงสอนกูอย่างนี้ ๐ก็ตัวกูมิได้รู้อะไรมึง เกิดมาระยะหนึ่งมึงก็สอน ให้กินขี้เสพกามเเล้วก็นอน รู้จักร้อนรู้จักเย็นรู้เป็นตาย รู้จักการเอารัดและเอาเปรียบ รู้จักเหยียบคนดีให้สูญหาย เพื่อตัวเองเอาตัวรอดมิวอดวาย คนอื่นฉิบหายช่างหัวมัน มึงสอนกูให้อยู่ด้วยความสุข บนกองทุกข์ของคนอื่นทุกเขตขัณฑ์ แล้วก็อยู่สุขทุกทุกวัน ขณะเดียวกันกูฝันร้าย มึงสอนให้กูเอาตัวหนี ทุกคราวที่มีเรื่องจะฉิบหาย มึงสอนกูให้เฟี้ยมเฝ้าเจ้านาย เป็นบ่าวต้องยอมตายทุกประการ กูว่าจะไม่เรียนหนังสือ มึงก็ถือว่ากูโง่ทุกทุกด้าน กูต้องยอมจำทนลนลาน ขายข้าวสารเพื่อซื้อปริญญา ครั้งกูได้ปริญญามาใบใหญ่ มึงกูให้มองมนุษย์เหมือนมองหมา มึงให้มองกรรมกรและชาวนา เป็นคนที่ไร้ค่าของแผ่นดิน มึงสอนให้กูงกเงินทอง และข้าวของทุกอย่างไปทั้งสิ้น แม้เพื่อนบ้านของกูไม่มีกน ให้กูผินหน้าหนีอย่าสนใจ มึงให้กูฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ฉ้อฉลเพิ่มเติมความมารสาไถย เดี๋ยวนี้กูเหี้ยแล้วเป็นไง มึงก้โทษกูจัญไรแล้วทันที แล้วก็มาเรียกร้องให้กูรักมึง ศิวลึงค์~เอาไหมละคุณพี่ มึงจะตายก็ตายอย่ารอรี ตายห่าเสียก็ดีไอ้~สังคม~ (สุจิตต์ วงศ์เทศ)
17 มีนาคม 2551 13:12 น. - comment id 832555
ยอดเยี่ยมเลยครับ ทั้งชัดทั้งคม บางบทก็ทรงพลัง