ลำตัดรัฐบาล กลอนเพลงลำตัด (สร้อย) บ้านเอยบ้านเมือง ไข้ขุ่นวุ่นเคืองเรื่อง ครม. (ซ้ำอีก ๑ เที่ยว) ต้นประชาธิปไตย เอ๋ย ต้นประชาธิปไตย มองมองของไทยเห็นมีแต่ตอ หัวอกตรมขมขื่น จำกลั้นกลืนขืนแข้น เมื่อคราวชาติขลาดแคลน มันคับแค้นใจคอ ดูฉากม่านการเมือง มีแต่เรื่องหมาหมา เดี๋ยวลากไปลากมา พาประเทศลงหม้อ น้ำครำจัดซัดกระจาย กว่านิยายบางเจ้า ประชาชนทนเจ่า ดูน้ำเน่าประจำจอ คณะรัฐมนตรี เห็นหลายทีจัดตั้ง บ้างขึ้นตั่งลงตั่ง บ้างก็ยังอยู่ต่อ ผู้ลาออกไปก่อน ขอกล่าวกลอนชมว่ากล้า ไม่คิดเบ่งเก่งก๋า กล้าล้างคาวที่ก่อ พวกมาใหม่ให้ฉงน เกรงแฝงกลครอบงำ แถมเขี้ยวงอกออกมาง้ำ ทำคดคดงองอ เยื้องยักย้ายโย้เย้ แล้วสานเล่ห์โยงใย ชักยุ่งเหยิงเหลิงใหญ่ ยามใครใครเยินยอ ฝ่ายลูกน้องร้องพล่าม พูดแต่ความแผลงแผลง ลิ้นกระดิกพลิกแพลง เพื่อยุแยง, สอพลอ ไอ้หัวหน้าบ้าหนัก กลายเป็นนักพัฒนา- สิ่งสามานย์ด้าน, หนา ความชั่วช้าแตกหน่อ อยู่บนตั่งนั่งถุน เที่ยวหาทุนเหมือนทุกที ยิ่งหานักหนักถี่ มันเหลือที่จะด่าทอ โอ้เมืองเอ๋ยเมืองสยาม คงถึงยามถูกขยำ เขาขยี้ยีย่ำ สร้างระยำจนระย่อ เราบรรดาประชาราษฎร์ เปรียบดังทาสเร่ร่อน ลมหายใจรอนรอน นรกร้อนกำลังรอ!!! (ซ้ำท่อนสร้อย) บ้านเอยบ้านเมือง ไข้ขุ่นวุ่นเคืองเรื่อง ครม. (ซ้ำอีก ๑ เที่ยว) ต้นประชาธิปไตย เอ๋ย ต้นประชาธิปไตย มองมองของไทยเห็นมีแต่ตอ (๒ ถึง ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐) หมายเหตุ กลอนเพลงลำตัดนี้ ผมศึกษาจากการฟังแถบบันทึกเสียงซึ่งท่านพ่อเพลงแม่เพลงชั้นครูท่านร้องบันทึกไว้ ประกอบกับอ่านจากหนังสือกวีร่วมสมัยหลายบท ของกวีหลายท่าน ครับผม
3 ตุลาคม 2550 14:14 น. - comment id 764234
ถึงปรับใหม่ก็คนเก่านี่คะ แนวคิดก็เก่า นายกก็คนเก่า อิอิ คนใหม่ๆ เข้ามาไม่นาน ก็ถูกกลืน บ้านเราหาคนที่มีใจรัก และทำงาน เพื่อบ้านเมืองจริงๆ คงยากนะคะ บ่นอีกแระ สวัสดีค่ะ สบายดีนะคะ
3 ตุลาคม 2550 15:49 น. - comment id 764283
สวัสดีค่ะคุณตราชู อย่างที่น้องป.บอกหละค่ะ เห็นด้วยทุกประการ ขอก๊อบบี้นิดนะจ๊ะ
4 ตุลาคม 2550 00:18 น. - comment id 764552
เล่าเรื่องได้เข้มข้น สัมผัสนอกสัมผัสในแพรวพราว ฝีมือระดับชั้นครู ข้าน้อยขอคารวะ
4 ตุลาคม 2550 12:02 น. - comment id 764811
4 ตุลาคม 2550 14:11 น. - comment id 764909
ตอบคำถามที่ติดไว้ เรื่องที่ชอบจากกฎบนกลบท ระลอกคลื่นระรื่นเคลื่อน (ฉงาย ณ คน ฉงน ณ คาบ) ตรีเพชรประดับ (เมฆรายร่ายร้ายหอบ แรงโหม) อักษรล้วน (ช่วงโชตฉ้อ ฉลชู) นกกางปีก (เขาว่า มิว่าเขา) ลิ้นตะกวดคะนอง(หนาวลมที่โลมเหน็บ) สุรางค์ระบำ(วะว่อนไฟ วะไหวฟ้อน) นาคราชแผลงฤทธิ์ (เสพหนังสือและก็สื่อตะละแขนง) งูกระหวัดสะบัดสะบิ้ง(แสงทองก็ส่องก็สาด) กบเต้นต่อยหอย (โลกดูมัว หลัวโดยหมอก) คำผวนแผลง (สาวน้อยจักสอยน้าว)
4 ตุลาคม 2550 14:43 น. - comment id 764926
โอล่ะหนอเราเอย ไยมิเคยสุขศานต์ ฤๅจะสิ้นวิญญาณ แล้วหรือไร รื้อคิดยิ่งรื้อแค้น ปะทุแน่นในอก เมื่อการเมืองซกมก ร่วมสมัย จงรู้หลบเป็นปีก แลรู้หลีกเป็นหาง รู้กอบเอาเข้าทาง รู้ชักใย ผู้ออกไปก่อนหน้า คือผู้กล้าจริงนอ กล้าหยุดคดหยุดงอ อีกต่อไป เมื่อเขี้ยวแข็งแรงกว่า เข้ามาแทนเขี้ยวเก่า (โอ ประเทศไทยเรา จะเป็นไง) แค่นอนนอนนั่งนั่ง เขาก็ยังมาย่ำ อ้างระบอบชอบธรรม มันนำไป เมื่อกฎหมายกลายหมด ถูกกำหนดด้วยเงิน กี่ยุคก็ยับเยิน มิหยุดไข้ จะปรับเปลี่ยนเก้าอี้ เปลี่ยนวิธีกอบโกย ชาติก็ยังโอดโอย อยู่ร่ำไป เมื่อภพภูมินรก ขึ้นโปรดปรกประชา สวรรค์หรือจะมา ร่วมอาศัย โอบ้านเอยเมืองเอย ใคร่มิเคยสุขศานติ์ แหลกยับอัประมาณ เพราะการณ์ใด
4 ตุลาคม 2550 16:16 น. - comment id 765045
สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านทุกท่าน ผมขอเปิดอกยกใจออกมาวางตรงนี้เลยครับ ว่า กลัวบังธิที่สุด ได้เป็นถึงรองนายกแล้ว ต่อไปล่ะ...... (ไม่อยากคาดเดาให้ขนหัวลุกมากกว่านี้ครับ) ส่วนทางพลเอกสะพรั่งก็....... ไม่เอา ไม่เอาแล้วครับ เดี๋ยวได้สวมโซ่ตรวนจะยุ่งกันใหญ่ เอาเป็นว่า อนาคตเมืองไทยจะเป็นเช่นไร เรารอลุ้นร่วมกันแล้วกันนะครับผม
4 ตุลาคม 2550 18:51 น. - comment id 765182
ขั้นเทพครับ....สุดยอด ยอดเยี่ยม...ชื่นชมในผลงานครับ...