..๏ อัสดงลงเยือนทั่วเถื่อนถิ่น สูรย์คล้อยสิ้นแรงขับพยับแสง ทิวาวารผ่านห้วงด้วยช่วงแปลง อ่อนโรยแรงสุริยาล่วงราตรี ความมืดดำก่ำหมองครอบครองภพ ชัดเจนลบกลบเกลื่อนคล้ายเบือนหนี แม้นจันทร์ฉายกรายล่วงสร้างท่วงที ห้วงฤดีมิบรรเทาความเศร้าตรม หว่างคืนวันผันผ่านเฉกธารไหล รอยอาลัยเลือนรางเหมือนร้างล่ม ปรารถนาห่างหายคล้ายสายลม ต้องขื่นขมตรมช้ำเพียงลำพัง ดุจสุรีย์ยามพลบจวนจบวัฏ จิตกระหวัดพรั่นพรึงถึงความหวัง คล้ายแสงทองยามพลบจบพลัง ก่อนลับหยั่งฝั่งฟ้าสุราลัย๚ะ๛