25 พฤศจิกายน 2548 14:06 น.

^J^ ฉึก-กะ-ฉัก...

***กฤษณะ***

*  เสียงหวูดดัง เป็นสัญญาน ให้รถเคลื่อน
ฉันกับเพื่อน เร่งฝีเท้า ขมีขมัน
รีบวิ่ง ราวกับบิน เกือบไม่ทัน
เสียงหวูดลั่น หัวลำโพง ที่ต้นทาง
        เสียงเริ่มดัง ฉึก-กะ-ฉัก อย่างช้าช้า
ลมเริ่มโชย เป่ามา ที่แผ่นหลัง
ไล่เลี้ยวมา หน้าลำตัว เร่งประดัง
หวาดเสียวจัง ถึงสามเสน ค่อยโล่งใจ...(เฮ้อ)
         พอออกจาก สามเสน เอาอีกแล้ว
โอ้พ่อแก้ว แม่แก้ว สุดทนไหว
รีบไต่ขึ้น ที่แขน อย่างเร็วไว
ผ่านหัวไหล่ ขนลุก ไปทั้งตัว...(เฮ้อ)
          จากสามเสน แล่นไป ถึงบางซื่อ
อื้อฮึอือ สนธยา เริ่มสลัว
ไต่ยั้วเยี้ย ถึงซอกคอ ใจระรัว
ให้นึกกลัว ถึงดอนเมือง รีบบินลง...(เฮ้อ)

.....    ..........         .............         .............          ..............

เรื่องของแมลงสาบที่หัวลำโพง...อยากลองขึ้น

รถไฟ...น่ะครับ				
20 พฤศจิกายน 2548 19:30 น.

^J^ .... หวาน/ขม

***กฤษณะ***

. *  เนตรประกาย ฉายแวว แห่งความรัก
ด้วยใจภักดิ์ แน่วแน่ ไม่แปรผัน
ไม่จำต้อง เอ่ยอ้าง คำรำพัน
ความรู้สึก สื่อกัน ถึงกลางใจ

     ยามใกล้ชิด จิตหลอม รวมเป็นหนึ่ง
ความซาบซึ้ง แผ่ซ่าน สุดต้านไหว
ธาราทิพย์ พร่างจาก นภาลัย
หลั่งรดใน ฤทัย สู่สองเรา

      แล้วอยู่อยู่ มันเกิดขึ้น ไม่อยากเชื่อ
ดุจมีดเถือ แทงใจ ซ้ำไฟเผา
เพียงวาจา ไม่กี่คำ กระหน่ำเอา
สะอื้นเศร้า ร้าวราน ผลาญชีวา

       ล่องเรือ มองจันทร์ ไม่เห็นสวย
ก็เพราะด้วย ปวดใจ กระไรหนา
มองประกาย น้ำระยิบ กระพริบมา
ดุจน้ำตา ตกใน ให้ทรมาน

       ในโลกนี้ จะมีใคร อีกไหมหนอ
อยากจะขอ ความเมตตา แหละสงสาร
กอบชิ้นเนื้อ หัวใจ ที่แหลกราญ
เพื่อประสาน แม้เพียง เศษเสี้ยวใจ...ฯ				
16 พฤศจิกายน 2548 13:54 น.

^J^ ...เข้าใจเจ้า

***กฤษณะ***

  *  ประทีปทอง ผ่องงาม ราตรีนี้

เหนือนที จันทร์กระจ่าง สว่างใส

ความร้าวลึก เจ็บปวด ในดวงใจ

มลายไป กับกระทง ลงสู่ธาร

      เข้าใจเจ้า ไม่ติดใจ ในทุกสิ่ง

ยามแนบอิง หลอมจิต สนิทสมาน

จะสนใจ ไยเล่า กับวันวาน

ได้พบพาน วันนี้ นี่คือจริง

      คืนสัมพันธ์ สานสอด กอดกระชับ

ดาวระยับ ส่งประกาย คล้ายเนตรหญิง

ละมุนอก อุ่นไอ ได้แอบอิง

ใจระวิง ลิ้มหวาน ซ่านอุรา.....ฯ				
4 พฤศจิกายน 2548 20:21 น.

^J^ คดีความ

***กฤษณะ***

^J^ ห้องพิจารณาที่ 517...    
***กฤษณะ***  
                        ***เก้าโมงเช้า ศาลออกนั่ง พิจารณา
                   โจทก์อยู่ขวา จำเลยซ้าย เคารพศาล
             โจทก์ฟ้องร้อง กล่าวหาว่า จำเลยพาล
       มาระราน โจทก์เสียหาย หลายกระทง
                     ...จำเลยกล่าว โต้เถียง ว่าไม่ผิด
                   โจทก์ไปคิด เอาเอง พาให้หลง
            ศาลนั่งมอง โจทก์-จำเลย แล้วคิดปลง
     สั่งนั่งลง ทั้งคู่ อย่าเถียงกัน
                 ...หนักไปนิด เบากันหน่อย ค่อยตรองตรึก
               ขอให้นึก แต่แนวทาง ที่สร้างสรรค์
         อยู่ร่วมโลก ไยเข่นฆ่า ให้จาบัลย์
   อภัยกัน ใจหนุนเกื้อ เอื้ออาทร
              ...มีคดี ขึ้นสู่ศาล นอนไม่หลับ
           เหมือนนอนทับ หนามแหลม อยู่ในหมอน
      เข้าใจกัน ดึงหนามออก หายร้าวรอน
  ทุกข์จากจร หลับสบาย หายกังวล...ฯ
...........ขออนุญาตฝากข้อคิด....ในปัญหาอันเกิดจากความขัดแย้งทั้งหลาย
ไม่ว่าในเน็ท หรือสงคราม.........ฯ
  Poem ID :   31694 - ผู้ชม   ผู้ตอบ 20  
 Written by :   ***กฤษณะ***  
 Posted by :   รหัสสมาชิก : 2841 - ***กฤษณะ***  
 Source :   -  
 Date - Time:   04 เม.ย. 46 - 08:5				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟ***กฤษณะ***
Lovings  ***กฤษณะ*** เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟ***กฤษณะ***
Lovings  ***กฤษณะ*** เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟ***กฤษณะ***
Lovings  ***กฤษณะ*** เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึง***กฤษณะ***