3 ตุลาคม 2545 07:37 น.
***กฤษณะ***
***ราตรีค่อย คืบคลาน ผ่านอีกครั้ง
ตัวฉันนั่ง มองขอบฟ้า ให้คิดถึง
แม่นางนาม *ลักษมี* พาคนึง
เธอผู้ซึ่ง ทำใจฉัน ให้สั่นคลอน...
***เธอสูงศักดิ์ งามสง่า ดูเหมาะสม
นัยตาคม คิ้วเรียวยาว ราวคันศร
อีกทั้ง ฝีมือ ในโคลงกลอน
แม่งามงอน เฉียบคม สมฤทัย..
1 ตุลาคม 2545 20:21 น.
***กฤษณะ***
.....เหยี่ยวเวหา ถลาลม พรมอักษร....เป็นกานท์กลอน มอบแด่ แม่จอมขวัญ
จากฝากฟ้า ถลาร่อน มากำนัล....มอบรักนั้น แด่แม่นาง อยู่กลางใจ
.....ร่อนนภา ผกเผิน เหินเวหน....ทั้งเมฆด้น บรรพตสูง มิสงสัย
ทะเลกว้าง ว้างเวิ้ง ก็เคยไป....เสาะหาใคร คนหนึ่ง ซึ่งงดงาม
.....พบแม่นาง กลางใจ ที่ในฝัน....เราพบกัน แน่หรือ ใคร่ขอถาม
ใช่แล้วหรือ นางนี้ ที่เฝ้าตาม....จะขอถาม *ลักษมี* ว่าคือเธอ......
1 ตุลาคม 2545 08:00 น.
***กฤษณะ***
.......ลักษมีนามชื่อนี้....................มีมนต์ นางเอย
เป็นที่ชอบผองชน.......................ชื่นชู้
โคลงกลอนกล่าวตรึงกมล.............จิตอยู่ เสมอนา
ฉันใฝ่ใจใคร่รู้............................ตราบฟ้าแลดิน........
26 กันยายน 2545 08:02 น.
***กฤษณะ***
*ชื่นพระพายแผ่วพริ้ว......ชลธาร ข้าฯเอย
เย็นย่ำค่อยคืบคลาน......สู่ฟ้า
ดวงจันทร์เริ่มเบิกบาน......เตรียมเปล่ง ประกายนา
จันทร์ค่อยโน้มให้คว้า......สู่อ้อมหทัยฝัน.............
24 กันยายน 2545 15:24 น.
***กฤษณะ***
***ลมหนาวพริ้ว ผ่านกาย ใจวาบหวาม...ฟ้าสีคราม เมฆกระจ่าง สว่างใส
ทอดสายตา ส่งกระแส แห่งสายใย...ที่เกี่ยวใจ เราสอง ประคองเคียง
*ฟ้าเบิกบาน ประกายผ่าน กลางเวหน...เราสองคน ร่วมร่ายขาน ประสานเสียง
บทกลอนรัก ซึ้งประจักษ์ เป็นสำเนียง...ยามอยู่เคียง คลอเคล้า พะเน้าพนอ
*จะโอบปลอบ มอบเจ้า ด้วยไออุ่น...ที่หอมกรุ่น กลิ่นกาย คลับคล้ายหนอ
ในคืนหนึ่ง ที่สองเรา ต่างเฝ้ารอ...เฝ้าแต่ขอ เทวา ช่วยมาดล
*ถึงวันนั้น เจ้าจะซึ้ง ถึงดวงจิต...มอบชีวิต ตราบฟ้าดิน สิ้นฉงน
โลกทั้งโลก จะมีเรา เพียงสองคน...ในสายชล จะสกาว ด้วยเงาจันทร์......