20 กันยายน 2552 15:30 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
ในโลกใบไร้ครูผู้ประสิทธิ์
ย่อมมืดมิดวิปริตผิดวิสัย
ด้วยไม่รู้สรรพวิทย์ลิขิตใด
ชะตากรรมนำไปอย่างไร้ทาง
แต่โลกใดไซร้มีผู้ชี้ทิศ
อบรมศิษย์ปริศนาเบิกฟ้าสาง
จะแห่งหนกลใดไม่ละวาง
ย่อมถึงพร่างทางฝันบรรลุไกล
จึงการุณย์คุณอนันต์ท่านประศาสน์
เคารพอาศิรพาทพิสมัย
ดลปวงเทพเทวาชั้นฟ้าใด
อำนวยให้คุณาจารย์สันต์เกษม
ด้วยปณิธานดวงมานอันมั่นมุ่ง
ค้ำผดุงทางประชาดุลยาเหม
ด้วยวิสุทธิ์พุทธิคุณละมุนเปรม
ให้ศิษย์หาอิ่มเอมเต็มไพบูลย์
จึงสูงยิ่งเทียมฟ้าบูชาไหว้
จึงยิ่งใหญ่ใดเทียมกลับเสื่อมสูญ
จึงสถิตนิจดวงปวงชนทูน
จึงจำรูญสูรย์แสงสำแดงมี
17 กันยายน 2552 15:43 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
ปวงอากาศธาตุทิพย์วิบวับแสง
หมายสำแดงสิ่งใดให้ข้าเห็น
ฤาแสแสร้งแกล้งยวนชวนประเด็น
ว่าข้ามีข้าเป็นเช่นดารา
ชีพมีแต่ใจนั้นไร้รส
กำลังมีมิกำหนดปรารถนา
หวังหรือคือหวังมรณา
สิ้นฤาสิ้นชีวามิจาบัลย์
ดาวน้อยเจ้ารออะไรเล่า
จันทร์สกาวเช้าสุรีย์มิผกผัน
เพียงประดับราตรีทุกวี่วัน
ก็เท่านั้นดาวน้อยด้อยจันทร
เท่านั้นหรือดาวดาวจวนเช้าแล้ว
อุษาแพร้วเบิกสุรีย์มณีหลอน
ดาวเจ้าเอยเคยไหมจะลานอน
อุทัยก่อนจันทรลับเจ้ากลับมี
นั่นสินะดาราเจ้ากล้าแกร่ง
เจ้าสำแดงแรงหวังรัศมี
ให้จันทราลาลับขอบราตรี
สานสุรีย์เจ้านี้ครองนภา
ดาวเจ้าเอยเผยหวังพลังโศก
สักกี่แสนวิโยคยังปรารถนา
ด้วยคอยหวังสักวันเวลา
มวลดาราครองฟ้านภารอง
คอยเถิดหนาชะตาข้ากำหนด
อนิยตอย่างไรไม่กลัดหนอง
ด้วยหมู่ดาววาวนี้ยังลำพอง
ต่อราตรีสุรีย์ส่องครรลองอรุณ