29 กันยายน 2551 00:12 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
ไขอุษาเรืองรองสาดส่องหล้า
สกุณาคล้อยมาโค้งทิวเขา
เบิกอำนาจมาปกความทึมเทา
เป็นรุ่งเช้าอีกวันการเดินทาง
ถ่อเรือพายบ่ายหน้ายังเวิ้งน้ำ
รับสัมผัสความงามยามฟ้าสาง
อาบอายหมอกครุกรุ่นอันเบาบาง
สู่แสงพร่างรังรองท้องฟ้าไกล
ดวงตะวันสัญจรนภากาศ
แผ่อำนาจวาดภพอสงไขย
ผู้เดินทางลำน้อยค่อยจรไป
เอื่อยเอื่อยไหลลำสินธุ์ระรินมา
แล้วตะวันสองดวงก็บังเกิด
ดวงหนึ่งเพริศพริ้งพรายปลายเวหา
อีกดวงเล่าวิบวับจับธารา
ผู้เดินทางไขว้คว้าตะวันใด
ตะวันลวงดวงจริงสิ่งประเสริฐ
ผู้เดินทางเพลินเพลิดเป็นไฉน
ตะวันลับคงเหลือตะวันใจ
ตะวันใหม่มากดวงปวงประชา
8 กันยายน 2551 23:39 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
วิถีแห่งระบอบ.............เป็นความชอบแห่งระบบ
แห่งวิถีอันสงบ............คือวิถีประชาธิปไตย
หนึ่งเสียงอันเป็นสิทธิ์....เป็นหนึ่งคิดงามไสว
หนึ่งชาติหนึ่งคนไทย.....แล้วทำไมไร้อารี
ธงไทยรวมใจชาติ........นองเลือดสาดทั้งภพผี
อาวุธกระหน่ำตี...........ปฐพีสะท้านสะเทือน
ถือชัยไทแห่งคน.........ย่ำเยียบบนชนกลาดเกลื่อน
ซากศพทบท่าวเพื่อน...ท่วมเพียงเดือนกระหยิ่มใจ
คาวเลือดโชยลมโบก...วายุโกรกไปทิศไหน
เล่าขานการเป็นไป......พี่น้องไทยเข่นฆ่ากัน
คิดต่างใช่คิดแตก.......ใช่ต่างแผกแยกเผ่าพันธุ์
ศึกไกลไทยไม่หวั่น......ศึกในนั้นมันจาบัลย์
เลือดไทจงคู่ไทย.......ธงไสวจงนำฝัน
คนไทยจงรักกัน.........ชาติไทยนั้นจงเจริญฯ
6 กันยายน 2551 03:48 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
๏โรงละครเปิดแล้ว..........นาฏกรรม
การแสดงเริงระบำ...........เริ่มต้น
ละครแห่งคุณธรรม...........มนุษย์
กำเนิดแห่งหลุดพ้น..........หลุดแล้วไอศูรย์
๏โรงละครปิดแล้ว............ม่านบัง
คือละครฉากหลัง..............เริ่มต้น
คือชีวิตจริงดัง...................ชีวิต
ตัวละครมากล้น.................มิแกล้งแสดง
๏หากเทียบชีวิตได้............โรงละคร
คนจักแสดงตอน................ม่านแสร้ง
เหมือนโขนเชิดตามกลอน..ท่วงท่า
ม่านปิดละครแจ้ง................ปิดแล้วถาวร
๏โรงละครโลกนี้...................แสดง
ขับกล่อมมายาแฝง................ประดับหล้า
เพลิดเพลินรูปจำแลง............บรรเจิด
เสพรสทุกหย่อมหญ้า.............ม่านนี้โลกละคร
๏ละครชีวิตแท้.....................ไร้บท
บริสุทธิ์หมดจด......................เพริศแพร้ว
เปิดโลกละครสด....................ฉีกม่าน
นาฏกรรมผ่องแผ้ว.................เช่นนี้นาฏกรรม ๚ะ๛