25 ตุลาคม 2551 08:08 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
สามัคคีสุดสิ้น..................ความหมาย
เกิดก่ออสุรกาย..............ทั่วแคว้น
ประจัญศึกความตาย......นองเลือด
ตายสักพันแรงแค้น......ไม่รู้สามัคคี
น้ำ-น้ำมันเลือกชั้น.........ต่ำสูง
กาต่างเผ่านกยูง............หมื่นลี้
ชนสูงท่านจรุง ...............กดขี่
ชั้นล่างเพียงกระพี้.........เช่นนี้ปัจจุบัน
คิดต่างก็สิ้นรัก...............สามัคคี
พวกต่างคือไพรี.............ต่อสู้
เซ่นเลือดท่วมปฐวี.........ชำนะ
แล้วพ่ายทุกทุกผู้...........ชาติม้วยด้วยกัน
ศึกนอกนั้นมากล้น.........ทำลาย
ยังศึกในมากหลาย........พี่น้อง
ต่างใจชาติคงมลาย.........ดับสูญ
นองเลือดนิรยบาลพร้อง..เร่งให้เดินทาง
29 กันยายน 2551 00:12 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
ไขอุษาเรืองรองสาดส่องหล้า
สกุณาคล้อยมาโค้งทิวเขา
เบิกอำนาจมาปกความทึมเทา
เป็นรุ่งเช้าอีกวันการเดินทาง
ถ่อเรือพายบ่ายหน้ายังเวิ้งน้ำ
รับสัมผัสความงามยามฟ้าสาง
อาบอายหมอกครุกรุ่นอันเบาบาง
สู่แสงพร่างรังรองท้องฟ้าไกล
ดวงตะวันสัญจรนภากาศ
แผ่อำนาจวาดภพอสงไขย
ผู้เดินทางลำน้อยค่อยจรไป
เอื่อยเอื่อยไหลลำสินธุ์ระรินมา
แล้วตะวันสองดวงก็บังเกิด
ดวงหนึ่งเพริศพริ้งพรายปลายเวหา
อีกดวงเล่าวิบวับจับธารา
ผู้เดินทางไขว้คว้าตะวันใด
ตะวันลวงดวงจริงสิ่งประเสริฐ
ผู้เดินทางเพลินเพลิดเป็นไฉน
ตะวันลับคงเหลือตะวันใจ
ตะวันใหม่มากดวงปวงประชา
8 กันยายน 2551 23:39 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
วิถีแห่งระบอบ.............เป็นความชอบแห่งระบบ
แห่งวิถีอันสงบ............คือวิถีประชาธิปไตย
หนึ่งเสียงอันเป็นสิทธิ์....เป็นหนึ่งคิดงามไสว
หนึ่งชาติหนึ่งคนไทย.....แล้วทำไมไร้อารี
ธงไทยรวมใจชาติ........นองเลือดสาดทั้งภพผี
อาวุธกระหน่ำตี...........ปฐพีสะท้านสะเทือน
ถือชัยไทแห่งคน.........ย่ำเยียบบนชนกลาดเกลื่อน
ซากศพทบท่าวเพื่อน...ท่วมเพียงเดือนกระหยิ่มใจ
คาวเลือดโชยลมโบก...วายุโกรกไปทิศไหน
เล่าขานการเป็นไป......พี่น้องไทยเข่นฆ่ากัน
คิดต่างใช่คิดแตก.......ใช่ต่างแผกแยกเผ่าพันธุ์
ศึกไกลไทยไม่หวั่น......ศึกในนั้นมันจาบัลย์
เลือดไทจงคู่ไทย.......ธงไสวจงนำฝัน
คนไทยจงรักกัน.........ชาติไทยนั้นจงเจริญฯ
6 กันยายน 2551 03:48 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
๏โรงละครเปิดแล้ว..........นาฏกรรม
การแสดงเริงระบำ...........เริ่มต้น
ละครแห่งคุณธรรม...........มนุษย์
กำเนิดแห่งหลุดพ้น..........หลุดแล้วไอศูรย์
๏โรงละครปิดแล้ว............ม่านบัง
คือละครฉากหลัง..............เริ่มต้น
คือชีวิตจริงดัง...................ชีวิต
ตัวละครมากล้น.................มิแกล้งแสดง
๏หากเทียบชีวิตได้............โรงละคร
คนจักแสดงตอน................ม่านแสร้ง
เหมือนโขนเชิดตามกลอน..ท่วงท่า
ม่านปิดละครแจ้ง................ปิดแล้วถาวร
๏โรงละครโลกนี้...................แสดง
ขับกล่อมมายาแฝง................ประดับหล้า
เพลิดเพลินรูปจำแลง............บรรเจิด
เสพรสทุกหย่อมหญ้า.............ม่านนี้โลกละคร
๏ละครชีวิตแท้.....................ไร้บท
บริสุทธิ์หมดจด......................เพริศแพร้ว
เปิดโลกละครสด....................ฉีกม่าน
นาฏกรรมผ่องแผ้ว.................เช่นนี้นาฏกรรม ๚ะ๛
30 สิงหาคม 2551 23:01 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
กี่ปีที่เรารู้จัก
กี่สักวจีแถลง
กี่ถ้อยเอ่ยเอื้อนแสดง
เคลือบแคลงรสเล่ห์นานวัน
คำหวานโปรยหว่านรสลิ้น
ได้ยินจินต์นี้เคลิ้มฝัน
วาดรักเป็นสุขนิรันดร์
ไยทัณฑ์ฟาดฟันง่ายดาย
ฤารักจักเป็นลมปาก
พูดง่ายทำยากเหลือหลาย
ร้อยรักเพียงนักน้ำลาย
ชีพวายมีไหมรักจริง
คำถามอยากให้แสดง
แถลงกระจ่างทุกสิ่ง
เพียงถามหาได้ติติง
ยอดหญิงอย่าเคืองคำใด
จะตอบหรือไม่ไม่รู้
โฉมตรูมิต้องขยาย
เพียงฟังวจีสาธยาย
พี่ชายก็ขออนุโมทนา๚ะ๛
30 สิงหาคม 2551