18 ธันวาคม 2551 01:04 น.

จันทร์แรม

กฤตศิลป์ ชินบุตร

จันทร์แรมแสงอ่อนกลางฟ้า 	
ดาราสีแสงเฉิดฉาย
ริ้วลมโชยเมฆละลาย			
พร่างพรายนาฏลีลา

ชายหนุ่มนั่งมองเคลื่อนไหว		
ฝันไกลไปถึงท้องฟ้า
พิศเพ่งพื้นหลังดารา			
เพื่อหาซึ่งความไม่มี

ดวงดาวขาวงามจรัส			
ผูกมัดมายาแสงสี
เข้าใจคือแดนสุขาวดี 			
สุขีเป็นนิจนิรันดร์

แต่ดาวหาได้สถิต		
เป็นนิจบนสรวงสวรรค์
ย่อมมีคราววูบดับพลัน			
ย่อมวันสิ้นแล้วความดี

ข้ามไกลไปกว่าโสฬส			
ไร้บทไร้กาลเคลื่อนไหว
เพียงธรรมดำรงเป็นไป			
ถวิลดวงใจบัดดล

ความมืดนั้นคือความสว่าง		
สวยพร่างกลายมืดสับสน
ตาบอดคือธรรมนำยล			
หลุดพ้นมายาทั้งปวง

หลับตาเพ่งมองจันทร์เจ้า			
เห็นเงาเพียงว่ายโลกกว้าง
ลืมตามาพบจันทร์ดวง			
ตักตวงแสงดาวตามเคย				
16 ธันวาคม 2551 22:14 น.

แรกรู้ก็แรกรัก

กฤตศิลป์ ชินบุตร

ไม่เคยรู้ว่าเคยรักสักปานนี้		
ผ่านมากี่ฟ้าฝนยังทนหนาว
ตัวคนเดียวเที่ยวเดินหนทางยาว			
มีเพียงดาวพราวพร่างกลางกมล

หากตัวเธอผ่านมาเพียงชั่วครู่		
สำนึกรู้ทนอยู่สู้แดดฝน
คือสถิตเพื่อรอใครสักคน				
มาร่วมเดินอยู่บนหนทางใจ

คือคนนี้ที่รอและเสาะหา			
คือนางฟ้าลงมาแนบชิดใกล้
คือเพื่อนสุขทุกข์ยากทางอีกไกล			
คือเส้นทางสายใหม่ของสองเรา

ขอเพียงเธอตอบมาคำว่าใช่		
เชื่อมสะพานหัวใจคลายความเหงา
คอยกระซิบวาจาจากนงเยาว์			
ทุกค่ำเช้าเจ้าไยไม่ตกลง

หากผ่านมาพักเหนื่อยแล้วบินจาก		
คงลืมยากหากไปไม่ประสงค์
แต่ไม่กล่าวถ้อยคำให้ต่ำลง			
อวยพรส่งให้เธอนั้นโชคดี

เมื่อแรกพบก็รู้ว่าแรกรัก			
และแน่นหนักรักมั่นมารศรี
เพียงกานดายื่นให้มิตรไมตรี			
โลกใบนี้จักมีแค่สองเรา 				
15 ธันวาคม 2551 23:54 น.

ปรากฏกาฬ

กฤตศิลป์ ชินบุตร

จันทร์เจ้าเช้าอรุณ
งามละมุนโค้งเวหา
มวลหมู่สกุณา
มุ่งกันมา ณ แดนไกล

ชีวิตเราดำเนิน
และก้าวเพลินอสงไขย
สุขเศร้าเคล้ากันไป
มีสิ่งใดสถาพร

จันทร์เพ็งเคยแจ่มสี
รัศมีประภัสสร
ตาเว็นมารอนรอน
เถิดเข้านอนดวงจันทรา

นกน้อยในโลกกว้าง
ตะวันดวงนำเสาะหา
สิ้นแสงตะวันลา
พักกายาอ่อนล้าคลาย

ปรากฏกาฬเวียนวน
เป็นภาพคนที่เวียนว่าย
ปรากฏคำทำนาย
ด้วยเกิดตายชีวิตจริง
				
15 ธันวาคม 2551 21:30 น.

มืด

กฤตศิลป์ ชินบุตร


มืดมิดมายาวนาน
จักรวาลสถิตนิ่ง
เริงลมไม่ไหวติง
สรรพสิ่งสนิทตา

มืดมิดไร้สีแสง
เดือนแรมแรงโรยอ่อนล้า
สั่นไหวดวงดารา
มิหาญกล้าท้าแรงใคร

มืดมิดปิดซ่อนอยู่
จึงไม่รู้การเคลื่อนไหว
เงามืดอำพรางใจ
เหมือนฟ้าใหม่ไม่มีวัน

มืดมิดมันมืดมน
มันสับสนทั่งเขตขันธ์
มืดนี้อีกกี่วัน
กี่กัปกัลป์จะบรรเทา

มืดมิดอนธการ
มืดไม่นานจะรุ่งเช้า
ฟ้าใหม่เป็นของเรา
มืดวันเก่าจะจากไป

มืดมิดจะพ่ายแสง
ตะวันแดงแห่งแสงไข
อุษามารำไร
คือแสงชัยส่องมณฑล

ตะวันแห่งศรัทธา 
นำประชาเวียนมาหน
อิสราเสรีชน
จึงหลุดพ้นอนธการ 				
14 ธันวาคม 2551 21:43 น.

อปรารถนาว่าฉะนี้

กฤตศิลป์ ชินบุตร

รกร้างกลับว่างเปล่าคล้ายให้คิด	
มืดสนิทดุจงามกว่าสีแสง
ผุพังลงปลงจิตการเปลี่ยนแปลง	
แท้แสดงสัจจาพจน์พุทธองค์ 

ห้องน้ำเก่าเน่าซากไร้ชีวิต		
นิ่งสนิทชีวิตดังประสงค์
แผ่นผนังกร่อนผุอย่างจำนง		
เป็นผุยผงลงสิ้นกาลเวลา

ย้อนรู้สึกก่อนเก่าเจ้าห้องน้ำ		
สะอาดงามขาวสวยด้วยรักษา
ฝ้ากระจกสีอ่อนละมุนตา 		
คือสุขาให้สุขทุกวันไป

เวลาล่วงเลยผ่านมินานนัก		
คืนกลับพักบ้านเก่าอยู่อาศัย
จึงประจักษ์ขึ้นมา ณ ทันใด		
จึงเข้าใจห้องน้ำ ณ ทันที

นั่งพินิจคิดตรองมองสภาพ		
ตรมจิตวาบเบื้องหน้าเคยสุขี
ผ่านพ้นเพียงห้วงขวบแห่งปี		
ไม่หลงเหลือชิ้นดีเพียงชิ้นเดียว

คราบกรังเกรอะเปรอะเปื้อนชี้ให้คิด      
ปล่อยชีวิตวันวานการกินเที่ยว
หลงมายาชั่วครู่พริบตาเดียว		
ร่ายซูบเหี่ยวเรี่ยวแรงก็ราลง

ห้องน้ำชีวิตบูรณะ			
เพื่อผัสสะผาสุกดังประสงค์
ชีวิตห้องน้ำตามจำนง		
จักคู่คงจนสิ้นกันและกัน				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกฤตศิลป์ ชินบุตร
Lovings  กฤตศิลป์ ชินบุตร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกฤตศิลป์ ชินบุตร
Lovings  กฤตศิลป์ ชินบุตร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกฤตศิลป์ ชินบุตร
Lovings  กฤตศิลป์ ชินบุตร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกฤตศิลป์ ชินบุตร