4 มีนาคม 2552 13:39 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
เราไม่ใช่เด็กหวงลูกอมหวาน
เราไม่ใช่แพ้พาลปัญญาเขลา
เราไม่ใช่โลภะสักจะเอา
เราไม่ใช่งี่เง่าเอาใจตัว
เราไม่ใช่ไม่รู้ทิศทางลม
แต่ไม่ยอมขื่นขมให้ก้มหัว
เราไม่ใช่ลากจูงดังควายวัว
เพราะเรามีดีชั่วประจำใจ
เราเห็นกว่าพวกท่านผู้ผ่านโลก
เยาวชนเผชิญโชคมิสงสัย
ครูชี้นำชี้ทางประเทศไทย
มือชี้ได้เป็นตายมหาชน
จึงเป็นครูใช่ง่ายเพียงภูมิรู้
แต่เป็นครูวิญญาณบันดาลผล
สักเป็นครูเพียงเงินตรานำกมล
แล้วอนุชนทั่วหล้าบูชาใคร
จรรยาบรรณคำนั้นชั้นสูงส่ง
ดาวล่วงลงนภาอย่าสงสัย
จรรยาบรรณเปลี่ยนมาว่าจัญไร
ทูลเทิดไว้เถิดไทยให้เจริญ
4 มีนาคม 2552 13:38 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
น้อยใจพ่อท้อที่สู้ชูคนอื่น
ผ่านวันคืนดื่นดาษความขื่นขม
สู้ปั้นดินเป็นดาวสกาวชม
ท้ายทับถมลูกรักไม่ใยดี
ผ้าผืนใหม่นั้นงามน่าจับต้อง
เมื่อพิศตรองผืนเก่าไม่สดศรี
ผ้าผืนใหม่อย่างไรไม่รู้ที
ผืนเก่านี้กายีเราค้นเคย
ลูกคนอื่นชื่นชมภิรมย์จิต
คอยเพ่งพิศแนบสนิทอย่างเปิดเผย
ลูกตัวเองสิ่งใดไม่ชมเชย
คือละเลยหน้าที่ของบิดา
ยกสมบัติทั้งหมดให้คนอื่น
ลูกกล่ำกลืนสะอื้นไห้ในวาสนา
ลูกคนอื่นพ่อชูไว้บูชา
ส่วนลูกยาพ่อฆ่าอย่างเลือดเย็น
ลูกน้อยใจคุณพ่อที่เคารพ
องคาพยพทั้งหลายล้วนลูกเห็น
มีเนื้อเลือดวิญญาณคือคนเป็น
แต่กำลังถูกเซ่นบูชามาร
4 มีนาคม 2552 13:35 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
เราจะเป็นลุงโง่ย้ายภูเขา
ด้วยแรงเราเท่ามีเคลื่อนภูผา
ด้วยถูกต้องยุติธรรมคำธรรมดา
กับวิญญาณ์มวลมหาประชาชน
แม้นเขาหนักเราแรงมดหมดลงได้
แม้นเขาใหญ่ใจมั่นจักเกิดผล
แม้นวายุหวีดกล้าเราท้าทน
ท้ายไม่พ้นเขานั้นพลันวับไป
เราจะเป็นลุงโง่ชาญฉลาด
สร้างอำนาจวาดแสงแรงไสว
เราจักสร้างยุติธรรมคำนี้ให้
ท่านผู้ใหญ่เข้าใจกันสักที
ให้รู้ว่าอำนาจคืออาจม
หากสูดดมขมขื่นไม่ฝืนหนี
ท้ายสุดแล้วจักได้ความไม่มี
เพียงน้ำขี้เหม็นเน่าเท่านั้นเอง
เราลุงโง่แต่รู้อยุติธรรม
เราลุงโง่แต่นำผู้ข่มเหง
เราลุงโง่แต่สู้ไม่กลัวเกรง
เราลุงโง่แต่บทเพลงสดุดี
19 กุมภาพันธ์ 2552 22:33 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
ดอกไม้ใช่แล้งน้ำ
วสันต์พรำฉ่ำสายสินธุ์
กำซาบอาบพื้นดิน
ธรณินงามอุดม
ซากแห้งแล้งคอยรอ
อุษาทอก่อผสม
มณีวิถีชม
น้ำค้างพรมรวีทอง
แสงไขไสวชีวิต
พันธุ์ไม้นิดตอบสนอง
ยอดทอต่อลำพอง
เฉกครรลองวิถีชน
คลี่บานสะเทื้อนเมฆ
แผ่นดินเสกยิ่งงามสม
กลบหายคลายอาจม
สราญรมย์ทิพย์พิมาน
ดอกไม้แห่งความรัก
บานประจักษ์ทุรลาญ
วายุสิทนหาญ
ดอกรักบานนิรมล
17 กุมภาพันธ์ 2552 15:47 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
ถนนสายนี้
เขียวขจีด้วยตองแห้งฤดูหนาว
กับซากเน่าหยาดเพชรมณีพราว
และเรื่องราวจองจำผู้ลิงโลด
ถนนสายนี้
เปี่ยมฤดีหรรษาหฤโหด
ปุถุชนดุ่มเดินนับแสนโยชน์
เปล่าประโยชน์ด้วยเท้ายังย่ำเดิน
ถนนสายนี้
คาวโลกีย์ยกย่องสรรเสริญ
รูปกลิ่นเสียงนรกานต์อันจำเริญ
กล่อมเพลิดเพลินว่าเลิศกว่าคนธรรพ์
ถนนสายนี้
นองเลือดสีชมพูดูงามขำ
ต่างชายหญิงยื้อแย่งละเลงทำ
ประติมากรรมสืบศิลป์แผ่นดินทอง
ถนนสายนี้
ล้วนย่ำยีชีวีจนผุดผ่อง
กลายเศษหินดินหญ้ากำซาบทอง
บรรพตกองอาจมไว้บูชา
ถนนสายนี้
อีกมากมีบรรยายให้ล่มหลง
ไร้ตรรกะไร้หลักการไร้ธำรง
ไร้เที่ยงตรงถนนสายมายา