29 พฤษภาคม 2552 23:46 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
มิตร...เคียงอยู่นานวันไม่ผันเปลี่ยน
มิตร...ร่วมเรียนเขียนอ่านกี่ล้านหน
มิตร...กำซาบอาบจินต์เกินต้านทน
มิตร...งามล้นพ้นราคินมลทินคาย
ภาพ...เจ็บปวดเลือนร้างในทรงจำ
ภาพ...ดีล้ำนำเพื่อนมิเลือนหาย
ภาพ...วันนี้สีสันนั้นพร่างพราย
ภาพ...วันหน้าวันไหนจักเช่นเดิม
ใบ...ไม้ปลิดปลิวร่วงทรวงสะท้าน
ใบ...รักยังเบ่งบานผสานเสริม
ใบ...ชูดอกออกช่อมาก่อเติม
ใบ...มาลีผลิเพิ่ม ณ ลานใจ
เล็ก...กาลพบพลัดพรากเพื่อจากลา
เล็ก...ถ้อยคำจำนรรจาเมื่อโหยไห้
เล็ก...เศร้าโศกอกตรมเพื่อจากไกล
เล็ก...อาลัยสู่วันใหม่ที่สวยงาม
เล็ก...อาลัยหัวใจที่สวยงาม
มิตรภาพใบเล็กๆของพวกเรา
ยิ่งใหญ่เท่าสินใดไซร้ควรถาม
มิตรภาพใบเล็กๆแต่งดงาม
เชื่อมโมงยามจักวาลเป็นหนึ่งเดียว
29 พฤษภาคม 2552 23:36 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
สงครามไม่เคยสร้างสันติสุข
กลียุครังแต่เพลิงไฟผลาญ
กระทิงดุสองตัวประจัญบาน
ย่อมแหลกลาญถึงพื้นปัถพี
ปัจจัยยุทธรุดเร่งบทเพลงศึก
ไร้สามัญสำนึกไร้หลีกหนี
ไร้เกณฑ์กฎจารีตความชั่วดี
เพียงไพรีบีฑาเข้าทำลาย
ยุทธปัจจัยใดกันเล่า
ถึงเลือนลบวันเก่าให้สูญหาย
ใดกำหนดชะตาเพียงความตาย
บนความอยากมีได้ไม่กี่คน
ยุทธปัจจัยใดกันหนอ
ไม่เคยพอเสพสุขประโยชน์ผล
ลับลวงพรางอำนาจถ่ายเล่ห์กล
นิรมลบนอาจมปฏิกูล
ยุทธปัจจัยอะไรอีก
ไม่หลบหลีกอีกแล้วแน่วดับสูญ
เมื่อไม่เห็นเป็นเมืองเรืองไพบูลย์
ไม่ขอทูนเทิดไว้ซึ่งชีวี
21 มีนาคม 2552 23:21 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
จักจั่นร้องดัง ณ ร่มไม้
ที่มิใช่มากหลายเป็นหมื่นแสน
หรือสังคีตดีดสีในเมืองแมน
แต่คือแก่นธรรมชาติปรัชญา
คือหนึ่งเสียงประสานกังวานก้อง
คือเสียงพร้องสดับรับพฤกษา
คือดำเนินมั่นใจในมรรคา
คือสูงค่าสามัญแด่มวลชน
ดูหนึ่งหินน้อยนิดกับวงน้ำ
เทียบเคียงยามพระพิรุณสั่งเม็ดฝน
แต่หนึ่งหินมหึมาเกินท้าทน
ย่อมเกิดผลดลคลื่นไม่เว้นวาย
นี้คือคนด้นเดินบนทางฝัน
โน่นนี่นั่นสาระพันสูญสลาย
ด้วยไม่รู้หนึ่งมณีมีข้างกาย
จึงสุดท้ายได้ซึ่งความไม่มี
จงตั่งมั่นในฝันเป็นเริ่มต้น
จักเห็นผลอนธการผสานสี
ดังรุ่งรางสางแสงอุษารวี
ย่อมวันมีซึ่งฝันวันแห่งชัย
จักจั่นร้องดัง ณ จินต์เจ้า
ผสานเข้าหนึ่งฝันมิสงสัย
แล้วมรรคาเบื้องหน้าอันแสนไกล
จะไสวใกล้มือให้ยื้อชม
ปากกาดิน กฤตศิลป์ ชินบุตร
เสาร์ที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๒
11 มีนาคม 2552 15:22 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
อัน.เรื่องราวมากมายในอดีต
อัน.ความผิดพลั้งพลาดแต่ปางหลัง
อัน.มิตรภาพคำเพื่อนจักคงยัง
อัน.รองรังหนทางยังอีกไกล
ว่า.เคยผิดสำนึกตรึกตรองถ้วน
ว่า.เคยกวนยวนยีเถลไถล
ว่า.เคยหวังมรรคามิควรไป
ว่า.เคยไร้ปัญญาทั้งด้านทน
เพื่อน.สำนึกความผิดกระทำสิ้น
เพื่อน.รู้จินต์มิควรแสวงผล
เพื่อน.รวดร้าวมิตรสะบั้นตรึงกมล
เพื่อน.ทั้งคนโปรดได้อภัยที
มิ.ร้องเรียกสิ่งใดเกินคำเพื่อน
มิ.บิดเบือนพจนาสารฤๅษี
มิ.ตลบตะแลงคำกาลี
มิ.ป้ายสีดีชั่วตัวรับเอง
เลือน.ร้างห่างตาปีมิอาจพบ
เลือน.ลางลบไม่ดีที่ข่มเหง
เลือน.แล้วแจ้งวันใหม่ให้ครื้นเครง
เลือน.กลัวเกรงเพื่อนพ้นนิรันดร
ลืม.เสียเถอะไม่ดีที่ผิดพลั้ง
ลืม.เสียเถอะความหลังอุทาหรณ์
ลืม.เสียเถอะในนามดัสกร
ลืม.ภาพก่อนคงเพื่อนนิรันดร์ไป
4 มีนาคม 2552 13:40 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
ดวงดอกไม้ชายหญิงชูกิ่งก้าน
ลมสะท้านผ่านสะเทื้อนความเคลื่อนไหว
เป็นความงดความงามท่ามผองภัย
กลางผืนป่ายิ่งใหญ่เกินพรรณนา
ก่อนดอกไม้ผลิใบผ่านชั้นหิน
ย่อมมลทินดินอาบกำซาบหนา
ชั่วชีวิตดอกไม้สุดท้ายเวลา
จึงเต็มค่าพฤกษาพนาไพร
ดวงมาลายุคนี้คล้ายเริ่มต้น
ลมแดนฝนอนธการผ่านสมัย
เพื่อพานพบบรรจบแห่งแสงชัย
ณ หัวใจปุบผาแห่งมวลชน
อีกไม่นานดอกไม้จักชูก้าน
งามตระการลานถิ่นสิ้นลมฝน
ภมรภู่ชู้เจ้าเคล้าสุคนธ์
นฤมลบนลานประเทศไทย