18 ตุลาคม 2552 21:05 น.
กฤตย์ดิศร กรเกศกมล
ความเลวร้ายพรายแสงแรงไปทั่ว
ความเมามัวรินหลั่งทั้งแหล่งหล้า
โลกดำมืดจืดสนิทมิดม่านตา
ชนวิโยคโศกอุราคลำหาทาง
ถึงฟ้าดับประกายใจใช่ต้องดับ
อย่าจนอับกับคัลลองที่หมองหมาง
ประกายใจใกล้ดับใกล้อัปปาง
รีบถางทางสีดำด้วยกำลังใจ
เรามาจุดประกายคนบนไม้ขีด
ลบอดีต เขียนอนาคตอันสดใส
ที่ก้านที่ละดวงจากปวงไทย
เป็นเปลวไฟลามลุกปลุกความดี
18 ตุลาคม 2552 21:02 น.
กฤตย์ดิศร กรเกศกมล
เคยไหม
อ้างว้าง หวั่นไหว แม้ในฝัน
หลับก็ทุกข์ ตื่นก็ท้อ ทางก็ตัน
ไม่รู้จะหันไปหาใคร
พรุ่งนี้
ความหวังที่เคยมียังมีไหม
ขวัญยังล้า โลกยังร้าง ทางยังไร้
รอยแพ้ แผลใจไม่ยอมจาง
จะรอไหม
รออุ่นไอ รอสบตา รอฟ้าสาง
รอละอองรักละมุนลุ้นเลือนลาง
หรือเลิกรอแล้วเดินทางอย่างอดทน
สัญญาได้ไหม
อย่าหวั่นไหว อย่าหนีกลับ อย่าสับสน
มีหนึ่งรัก หนึ่งใจ ในหนึ่งคน
ที่พร้อมด้น พร้อมดับ พร้อมกับเธอ
คือฉัน
เฝ้ารออยู่ทุกวันมั่นเสมอ
ตื่นก็ฝัน วันก็ฝืน คือก็เพ้อ
รอเพียงเธอตกลงใจไปด้วยกัน
ไปไหม จะไปด้วยกันไหม
ไปเขียนความสดใสให้ความฝัน
ไปร่วมทาง ร่วมทุกข์ ร่วมผูกพัน
มีแต่เราเท่านั้น ฉันกับเธอ
18 ตุลาคม 2552 20:58 น.
กฤตย์ดิศร กรเกศกมล
ค่อยค่อยกระทบกระทั่งเป็นครั้งคราว
พอมือมันหนาว เราก็สั่น
หยุดโลก โยกเดือน เลือนตะวัน
เข้าเกาะกุมกันในทันใด
18 ตุลาคม 2552 20:55 น.
กฤตย์ดิศร กรเกศกมล
10 ปีที่แล้ว ผมเคยเขียนกลอนมาฝากไว้ใน Thaipoem. com อยู่ช่วงหนึ่งซึ่งตอนนั้นกำลังเรียนมัธยมและกำลังคร่ำเคร่งเขียนกลอนประกวด ไม่น่าเชื่อว่า Thaipoem.com ยังคงดำเนินอยู่อย่างมั่นคง วันนี้ขอกลับมาบ้านเก่าอีกครั้งนะครับ
อยากหยิบใจมาดาลใจให้ผลิแย้ม
อยากหยิบยิ้มมาแต้มบนแก้มใส
อยากยิ้มรักมาเรียงร้อย สร้อยสายใจ
อยากหยิบฝันมาจุดไฟ ให้ชีวิต
จึงหลงใหลหมายล่องเรือปรารถนา
และรู้ซึ้งภาษาว่าศักดิ์สิทธิ์
สุนทรียภาพบริสุทธิ์ดุจเนรมิต
ควงอาวุธความคิดเรืองฤทธิ์ขจร
คือชาวนาบนทุ่งใจในทุรยุค
คือนักโทษเปี่ยมสุข คุกอักษร
คือนักฝัน คือนักรัก คือนักกลอน
คือชีวิตกฤตย์ดิศร กรเกศกมล