20 เมษายน 2549 01:21 น.
กระป๋องสีชมพู
ทุกวันข้าได้เริ่มต้นวันใหม่ ข้าจะเป็นคนใหม่ในทุกๆวัน ข้าจะเป็นคนใหม่ในทุกๆเช้าข้าจะเป็นคนใหม่ในทุกๆ บ่าย ข้าจะเป็นคนใหม่ในทุกๆ ค่ำคืน วันนี้ข้าจะเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ เมื่อข้ากระทำสิ่งแปลกใหม่ เพราะสิ่งที่แปลกใหม่นั้นทำให้ข้าได้พบกับสิ่งที่สำคัญที่สุด
ข้าวาดภาพหลายภาพไว้บนท้องฟ้าทุกๆค่ำคืน ทุกๆภาพล้วนแตกต่างกันออกไป ข้าลากเส้นของดวงดาวมาบรรจบกัน ข้าคิดว่าข้ากำลังวาดเส้นชีวิตของข้า ที่ต้องดำเนินต่อไปทุกๆวันเมื่อข้าเห็นดวงดาวดวงใดดับลง ชีวิตมนุษย์นั้นก็เป็นเหมือนดวงดาว ที่ต้องมีวันสูญสลายและมีวันแตกดับมิได้อยู่คงทนยาวนาน ความรักของข้าก็เป็นเหมือนดังเช่นดวงดาว เมื่อฟ้าสว่าง ความรักของของข้าก็หายไป แต่เมื่อฟ้ามืดมิด ดวงดาวเต็มท้องฟ้า ความรักของข้า ก็เป็นดังดวงดาว ที่ส่องแสงระยิบระยับให้ความสุขกับหัวใจของข้า จะเป็นเช่นนี้ทุกๆค่ำคืน เมื่อข้าได้มองท้องฟ้า ความรักก็สว่างไสวในใจข้าเสมอ เธอผู้นั้นคือดวงดาวที่ข้าได้มอบความรักหมดหัวใจของข้า เมื่อเจ้าประดับลงที่ใดบนท้องฟ้า ท้องฟ้าคือที่ที่ของข้าได้มอบความรักให้เจ้าหมดหัวใจ
ข้าคือผู้ที่เกิดมาพร้อมกับศักดิ์ศรีแห่งต้นหญ้า ข้าได้รับการเรียนรู้จากต้นไม้และใบหญ้า เพราะสิ่งนี้เกิดมาพร้อมกับบรรพบุรุษของข้า ชื่อของข้า คือ กัมปนาท ข้าอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แต่ในหมู่บ้านของข้านั้น ข้าก็เป็นดังเสียงที่มีพลัง เมื่อข้าพูดหรือทำสิ่งใดสิ่งนั้นย่อมศักด์สิทธิ์เสมอ
ข้าเกิดขึ้นมาพร้อมกับ ฐานะ ที่ทุกคนต้องเคารพ และยกย่องนับถือ เพราะ บิดาของข้า คือผู้ที่ปกป้องรักษา ให้หมู่บ้านสงบ และร่มเย็น เมื่อข้าเติบโตขึ้น ข้า ก็ต้องเป็นดังพ่อชองข้า เพราะตระกูลของข้าเป็นที่ยกย่อง และได้ถือเป็นตระกูลที่ศักด์สิทธิ์ ที่ทุกคนให้การยอมรับมาตั้งแต่บรรพบุรุษข้าจึงเติบโตขึ้นมาพร้อมกับความรักที่ทุกคนมอบให้ บัดนี้ข้าได้เติบโตเป็นหนุ่ม ข้าได้เรียนรู้เรื่อราวต่างๆ จากทุกๆสิ่งของชีวิต เพื่อเตรียมตัวเป็นผู้นำหมู่บ้านในอนาคต แต่ข้าก็ไม่เข้าใจสิ่งหนึ่ง คือหัวใจของข้า ว่า มันเหมือนกับหลายๆสิ่งในหัวใจยังว่างเปล่าอยู่ หากข้าพบสิ่งนั้น ข้าจะถามหัวใจข้าให้เข้าใจ มันเหมือนกับขาดสิ่งเติมเต็มในชีวิตข้า หลายๆ วัน หลายเดือนผ่านไป ข้าได้รู้จักกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเข้าใจข้า นางชอบมาเล่นกับข้าทุกๆวัน ข้าได้สัมผัสถึงจิตใจที่บริสุทธ์ของนาง นางชอบถามถึงหลายๆสิ่งในชีวิตของข้า เหมือนกับว่าข้าได้รับบางสิ่ง บางอย่างจากนาง ความอบอุ่นอย่างนั้นหรือ อาจจะเป็นเช่นนั้น ข้าคือไม้ใหญ่ที่แข็งแกร่ง แต่ไม้ใหญ่ก็ไม่อาจจะทานแรงพายุลมแรงได้ ขณะที่นางเป็นดังต้นหญ้าที่ยังยืนหยัดอยู่ได้แม้พายุลมแรงสักเท่าใด นางสอนข้าให้เป็นดังต้นหญ้าที่ยืนหยัดอยู่ได้ แม้อุปสรรคจะผ่านเข้ามาในชีวิต ข้าได้รู้จักกับนางเมื่อนางอายุได้ 10ขวบ เรารู้จักกันมา 5ปี นางชื่อ มณฑา ข้าคิดว่าตลอดเวลาที่ได้รู้จักกัน
ข้า รักนางเข้าแล้ว อาจจะเป็นไปได้ ข้ายอมรับ และไม่อาจปฎิเสธได้เลย เมื่อนางเติบโตขึ้น ข้าจะแต่งงานกับนาง และใช้ชีวิต อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แต่บัดนี้ นางอายุ 15ข้าได้ทราบข่าวจากพ่อของนางว่า นางมีโรคร้ายที่เป็นเหมือนกับแม่ของนาง ที่ไม่อาจจะรักษาหายได้ อีกไม่นานนางจะตายเหมือนแม่ของนาง แต่ตอนนี้ นางอาจจะอยู่ได้เพียง ปี หรือ2ปี หรืออาจจะมากกว่านั้น ข้าถามพ่อของนางว่า นางได้รู้รึเปล่าว่า นางเป็นโรคที่รักษาไม่หายเหมือนแม่ของนาง พ่อของนางบอกข้าว่า นางไม่รู้เพราะไม่มีใครกล้าที่จะบอกนาง ข้าได้บอกพ่อของนางว่า จงเก็บไว้เป็นความลับตลอดไป ข้าไม่อยากให้นางเสียใจ
เมื่อเวลาผ่านไป ข้ายอมรับว่าข้ารู้สึกปวดใจทุกครั้ง เมื่อข้าพบนาง ข้าอยากร้องไห้ทุกครั้งเมื่อนางส่งยิ้มให้กับข้า รอยยิ้มของนางช่างอบอุ่น แต่แฝงไปด้วยความปวดใจของข้า ข้าทนไม่ได้อีกแล้วที่จะให้เป็นอย่างนี้ หากนางตายจากข้าไป ข้าจะต้องบอกนางให้ได้ว่า ข้ารักนาง และรักสุดหัวใจ ข้าจะแต่งงานกับนาง
เมื่อค่ำคืนแห่งรัตติกาลมาเยือน ข้าได้เรียกนางให้มาพบข้าในค่ำคืนนี้ มณฑา หญิงสาวยอดดวงใจของข้ามาอยู่ตรงหน้าข้าแล้ว ท่านเรียกข้ามาพบ มีสิ่งใดหรือท่าน หญิงสาวเอ่ย ใช่ข้าต้องการพบเจ้า และข้ามีสิ่งหนึ่งที่ข้าต้องการบอกกับเจ้า ชายหนุ่มเอ่ย เจ้าจะมายืนเคียงข้างข้าตลอดไปได้ไหม หากเป็นเพราะ ข้ารักเจ้า หากเพียงเจ้ารักข้า ข้าจะขอมอบดวงใจทั้งหมดให้แก่เจ้า ในคืนที่ดวงดาวเต็มท้องฟ้า ข้าขอให้ดวงดาวนับพันเป็นพยานแทนหัวใจของข้า
แต่ว่าข้าเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา มิอาจะคู่ควรกับท่าน หญิงสาวเอ่ย หากใจเจ้ารักข้าไม่มีสิ่งใดที่เจ้าต้องกังวล ชายหนุ่มเอ่ย พร้อมกับจับไหล่หญิงสาวให้หันหน้ามาหาชายหนุ่ม ให้นางได้มองดวงตาของชายหนุ่ม เพื่อให้นางรับรู้ถึงความรู้สึกผ่านดวงตา และเพื่อให้ชายหนุ่มค้นหาคำตอบจากดวงตาของหญิงสาว ข้าคิดว่าเจ้ารักข้า หากเป็นเช่นนั้น ชายหนุ่มเอ่ย ชายหนุ่มค่อยๆประทับ
ริมฝีปากลงบนดวงตาของนาง และบรรจงจูบบนริมฝีปากอันบอบางของนาง มันช่างเป็นความรู้สึกที่อบอุ่นผ่านเข้ามาถึงหัวใจของชายหนุ่ม หากนางจะตาย ข้าขอมอบดวงใจที่ข้ามีให้นางได้เก็บรักษาไว้ ชายหนุ่มคิดในใจ ช่างเป็นจูบที่เนินนานและยาวนาน ในค่ำคืนแห่งรัตติกาลมีดวงจันทร์สาดแสงและมีดวงดาวระยิบระยับ เป็นท่วงทำนองและเป็นจังหวะของความรู้สึกของคนสองคน
หญิงสาวกอดชายหนุ่มในความรู้สึกที่อบอุ่นและผูกพัน หญิงสาวได้รับรู้ถึงความรู้สึกเช่นนั้น ข้าคิดว่า เจ้าตกลง ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น ข้าถือว่า กอดนี้คือคำตอบของเจ้า เจ้าจะไม่ปฎิเสธ หากคำพูดที่ข้าพูดไปเป็นคำพูดที่ศักดิ์สิทธ์ในใจของเจ้า
งานแต่งงานได้ถูกจัดขึ้นของลูกชายเจ้าหัวหน้าผู้นำ กับหญิงสาว หากทางผู้ใหญ่ไม่ยินยอม งานแต่งงานนี้ก็ต้องถูกจัดขึ้นอยู่ดี ในวันแห่งความสุขของเข้าทั้งสองคน มีสักขีพยานคือคนในหมู่บ้านที่มารับฟัง และร่วมแสกงความยินดีให้กับคนทั้งสอง มีคำถามที่ถามขึ้นขณะที่จะมอบดอกไม้ให้กัน ข้าตอบด้วยแรงของหัวใจว่า ข้าจะรัก นางหมดหัวใจและจะอยู่กับนางตลอดไป
และเจ้า มณฑา เจ้าจะรับชายผู้นี้ที่ยืนอยู่ข้างเจ้ามาเป็นคู่ชีวิตตลอดไปหรือไม่ รับคะ และจะรักตลอดไป ข้าและนางได้มอบดอกไม้ให้กัน และมอบจุมพิตที่เป็นสัญญาณว่า คน ทั้ง2 ได้แต่งงานกันแล้ว และจะมั่นคงให้แก่กันตลอดไป
แต่เพียงเวลาเท่าใด เมื่อเราทั้ง2 จะพรากจากกัน ใจทั้ง2 ได้ห่างไกล เมื่อใดเท่านั้น
ชายหนุ่มคิด
ข้าอุ้มเจ้าสาวของข้าเข้าห้อง และคืนนี้เป็นคืนแรก หรืออาจจะเป็นคืนสุดท้าย ข้าจะมอบความรักที่มีอยู่ในใจข้าในร่างกายข้า ให้เจ้าสาวที่ข้ารัก ทั้งร่างกายข้า และหัวใจข้า จะเป็นของนาง
มณฑา เจ้ากลัวหรือ หากเจ้ากลัว เจ้าจงหลับตา และความรักทั้งหมดในตัวข้าจะไปอยู่กับเจ้า นางหลับตาลง ตัวสั่นระริก ข้ามิกลัว หญิงสาวเอ่ย งั้นหรือ แต่เจ้าหลับตา เจ้าอย่าโกหกข้า
หากเจ้ามิกลัวเจ้าจงลืมตาขึ้น ลืมตามองมายังข้า แล้วชายหนุ่มค่อยๆ จุมพิตลงบนเปลือกตาของนาง แล้วค่อยๆ บรรจบริมฝีปากไปยังริมฝีปากอันบอบบางของนาง เหมือนคืนแห่งรัตติกาลคืนนั้นหญิงสาวกอดชายหนุ่ม เมื่อค่อยค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกจากปากอันบอบบางของนาง เขาค่อยๆอุ้มตัวนางขึ้น แล้ววางนางลงบนเตียง แล้วสร้างความสุขของกันและกันน่ำคืนอันมืดมิด มีเพียงเขาทั้ง2 ที่จะรักกันตลอดไป
หากนั้นเป็นคืนที่ข้าจะจดจำเอาไว้ในความทรงจำที่ข้าได้มีนางที่ ชื่อ มณฑา หากตอนนี้นางได้จากข้าไปแล้ว เราได้ใช้ชีวิตร่วมกัน มา2 ปี แล้วนางก็ได้มอบพยานรักระหว่างเรา 2 คน พยานรัก คือ เด็กชายตัวน้อยๆ ที่ข้าจะทุ่มเทความรักทั้งหมดของข้ามอบให้แก่เขา และจะมอบความรักของเจ้าให้เขาเช่นกัน
ข้าจะสอนให้เด็กชายตัวน้อยคนนี้ ให้เติบโตขึ้น ให้เขาได้เรียนรู้ที่จะอยู่คู่กับทุกสิ่ง และมอบความรักให้กับทุกสิ่งในโลก
ข้าจะยืนอยู่ตรงนี้ เฝ้ามองดูเจ้า สัมผัสลอยยิ้มจากหมู่ดาวมากมายบนท้องฟ้า หากเจ้ายังไม่ลืมข้า ขอให้เจ้าเฝ้าดูข้า และลูกชายตัวน้อยของเรา ทั้งลอยยิ้มและน้ำตา ข้าจะมอบให้แด่เจ้าเพียงผู้เดียว และหากเจ้าห่างไกล เพียงใด เพียงเจ้าหันหลังกลับมามอง เจ้าจะพบคน คนนี้ กัมปนาท ชายผู้นี้จะอยู่มองดูเจ้าที่เดิมตลอดไป
จบบริบูรณ์