30 พฤศจิกายน 2553 18:07 น.
กระบี่ใบไม้
อาจารย์นั่งท่องพระสูตรถึงยามค่ำ
โจรหนึ่งนำมีดคมกริบมาขู่ฆ่า
ได้โปรดเอาเงินทั้งหมดของท่านมา
อยู่ในลิ้นชักนั่นแหละหนา...อย่ามากวน
ขณะที่โจรร้ายเพลินเดินเก็บกวาด
ทิ้งไว้หน่อยที่ในถาดอย่าขาดด้วน
ถึงเป็นโจรก็ควรรู้ควรไม่ควร
ค่าใช้จ่ายในวัดล้วนต้องใช้เงิน
โจรทิ้งเศษเงินไว้หน่อยก่อนถอยฉาก
ก่อนลาจากขอบคุณหน่อยอย่าห่างเหิน
เมื่อรับของจากใครแล้วอย่าทำเมิน
โจรร้ายยิ้มอย่างเก้อเขินก่อน ขอบคุณ
ไม่กี่วันโจรร้ายนั้นพลันถูกจับ
ทำแผนรับสารภาพกันให้วุ่น
อาจารย์ส่งยิ้มให้ไปอย่างการุนย์
เขาไม่ใช่คนทารุณ...เท่าที่รู้
เงินในวัดอาตมาเป็นผู้ให้
ก่อนเขาเดินจากไป...ขอบคุณอยู่...
โจรนั้นยืนหลบก้มหน้าไม่กล้าดู
หลังทุกคนยินกับหูก็จากไป
เมื่อติดคุกคดีอื่นจนพ้นผิด
พลันฉุกคิดถึงอาจารย์ขึ้นมาได้
เราเป็นโจรแท้แท้ยังห่วงใย
น่าละอายใจแค่ไหน...ไม่กลับตัว
ปล.เมื่อออกจากคุกแล้ว โจรก็กลับมาหาอาจารย์ ชิจิริ โคจุน เพื่อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของท่านต่อไป
28 พฤศจิกายน 2553 21:48 น.
กระบี่ใบไม้
กุหลาบน้อย กอนี้ ที่เธอปลูก
พันผูก หัวใจไว้ ไม่แปรผัน
เหม่อมอง หมองไหม้ ทุกวารวัน
หวังรอคอย เผื่อเธอนั้น หวนกลับมา
รักษามัน เหมือนรักฉัน จะได้ไหม?
คำบอกเธอ ดังแสนไกล สุดปลายฟ้า
คำสัญญา ย่อมต้องจำ คำสัญญา
...ฟ้า...อย่า... รังแก คนสิ้นทาง
ตะโกนก้อง ที่กลางห่า พายุฝน
กุหลาบนี้ หนึ่งต้น ใยทิ้งขว้าง?
ฟ้าส่งให้ เราผูกพัน เพื่อหั่นกลาง
แค่ใยเดียว เส้นบางบาง กลับทำลาย
ตะโกนท้า แม้กลางห่า พายุฝน
คนคนเดียว ยังถูกปล้น เอาไปได้
ถึงไม่เคย พร่ำบอกเธอ ...รักมากมาย...
รู้แต่เพียง แม้วันตาย ก็ยังรัก
กุหลาบนี้ ฉันกอดกลาง พายุฝน
ปล่อยเลือดใส ให้ไหลปน ความช้ำหนัก
ดอกไม้งาม แต่ว่าหนาม มันคมนัก
รอยหนามหัก ปักตรงนี้ ...ที่ตรงใจ...
หนาวสั่น ใต้คำหยัน จากฟากฟ้า
ปล่อยน้ำตา ให้ไหลหล่น ปนน้ำใส
บอกรักคน ที่ไม่เคย จะรักใคร
...เหตุอันใด... จึงไม่ตาย ใต้สายฟ้า?
พยับฝน เริ่มหล่นบาง จืดจางแล้ว
สายรุ้งแก้ว ล้อตะวัน พันแสงจ้า
ฟ้าไม่เคย ทำร้ายคน บอบช้ำมา
น้ำตา ต่างหากที่ ทำร้ายคน
ยิ้มรับสาย น้ำใส จากปลายฟ้า
กุหลาบน้อย เริงร่า รับสายฝน
รักของฉัน แม้ผ่านวัน อันมืดมน
เหตุใดต้อง ทำร้ายตน เพื่อคนรัก?
ขอบคุณภาพจากเวบไซต์ http://apichoke.com/index.php?topic=19096.575
27 พฤศจิกายน 2553 14:03 น.
กระบี่ใบไม้
แว่วเพียงเสียงใสใส เด็กที่ไหนอยู่ในวัด
ลมหนาวพลิ้วพราวพัด เศษใบไม้ปลิวสายลม
........................................
เดินย่ำไปตามเสียง คล้ายสำเนียงนั้นขื่นขม
เด็กน้อยร้องระงม อยู่นับพันเดินรอบตัว
ถาม แม่...หนูอยู่ไหน เด็กน้อยใหญ่ล้วนสั่นหัว
พี่จ๋า...พวกหนูกลัว หนูโดดเดี่ยว หนูเดียวดาย
แม่จ๋า หนูอยู่นี่ ใจดวงนี้สิ้นสลาย
เด็กน้อยมีมากมาย คงครุ่นคิด ผิดอย่างไร
เด็กน้อยแสนน่ารัก น่ากอดนักอยู่ใกล้ใกล้
เพียงสองมือเอื้อมไป วูบสลายคล้ายหมอกควัน
........................................
แว่วเพียงเสียงใสใส ความห่วงใยเหมือนในฝัน
หญิงสาวอีกนับพัน คงแปลบลึกรู้สึกกลัว
ลูกจ๋า แม่ขอโทษ แม่ใจโหด แม่คนชั่ว
สังคม บีบรอบตัว ปล่อยลูกไว้ใครเห็นดี
แม่รู้ แม่ผิดพลาด ฟังเสียงฆาตกรนี้
ท้องป่องขึ้นทุกที อยากรู้มี ใครอภัย
........................................
แว่วเพียงเสียงเศร้าเศร้า รัก ของเราอยู่ที่ไหน
...รอใจ...ส่งถึงใจ... คอยกอดนั้น หันกลับมา
ภาพจากเวบไซต์ http://www.mongkol-luck.com/index.php?mo=3&art=202676
4 พฤศจิกายน 2553 12:50 น.
กระบี่ใบไม้
เย็นวันหนึ่งมืดสลัวน่ากลัวนัก
อาจารย์เดินมาหยุดพักที่ชายบ้าน
พบครอบครัวหนึ่งแสนเศร้าสุดร้าวราน
แม่และลูกน่าสงสารล้วนผอมโซ
อาจารย์จึงแวะถามไถ่ เป็นไรหรือ...
จึงอดมื้อกินมื้อผอมอักโข...
ถามพ่อบ้านอยู่ที่ไหน ร้องไห้โฮ
กว่าจะโผล่ถึงบ้านได้คงหายเมา
อาจารย์บอก ถ้าอย่างนั้นไม่เป็นไร
ข้าไม่มีสิ่งใดตอบแทนเจ้า
อย่างนี้เถิด,เอาเงินนี้จากที่เรา
ไปซื้อเหล้าอย่างดีมาอย่าช้านาน
แม่ลูกที่สุดยากแค้นแสนสงสัย
เอ๊ะ...อาจารย์เอายังไงช่วยไขขาน
เห็นอาจารย์คงนั่งยิ้มอยู่เนิ่นนาน
ทำตามที่...ท่านว่ายวาน...หน่อยเป็นไร
เห็นพ่อบ้านเดินเซแซด...แถแถดอยู่
กลางบ้านฉันใครไม่รู้น่าสงสัย
อ่าฮ้ามี..ไหเหล้าวาง...เหมือนอย่างใจ
ไม่สนแล้วเหล้าของใครข้าขอกิน
อรุณรุ่งสุรีย์กรายเริ่มฉายแล้ว
เสียงไก่แก้วโก่งขันย้อนจากคอนถิ่น
เอ๊ะ...นี่ท่านเป็นผู้ใด...สงสัยจินต์
แล้วเหล้าที่ข้าดื่มกินนั่นของใคร
ข้าชื่อ...กูโด โทโชกุ...แห่งเกียวโต
พ่อบ้านมาดเขื่องโขแทบจับไข้
อาจารย์ของพระจักรพรรดิ...สายรินไซ
ท่านมาอยู่ได้อย่างไรที่บ้านเรา
อาจารย์บอกว่า ชีวี...นี้ไม่เที่ยง
ชีวิตนี้ใช่มีเพียงไว้ดื่มเหล้า
ท่านลืมทิ้งลูกเมียไว้แต่นานเนา
ถ้าไม่รักลูกเมียเจ้าจะรักใคร
เหมือนฟ้าผ่าฟาดลงไปในส่วนลึก
ชายผู้นั้นได้สำนึกพลันร้องไห้
...ขอจำคำอาจารย์ไว้จนวันตาย...
...ในเมื่อท่านรู้ตัวได้ข้าขอลา...
.....................................
กุลีกุจอยึดยื้อถือข้าวของ
ข้าขอจองส่งอาจารย์ถึงด่านหน้า
อาจารย์บอกว่า ทุกทางที่ผ่านมา
เมื่อพบพา-พัดพราก-ย่อมจากไป...
ชายนั้นบอก ขอตามท่านไร้วันกลับ
เลิกทางเลวขอน้อมรับเส้นทางใหม่
...ทางที่เหลือชีวิตนั้น...สั้นเพียงใด...
โลกต้องการผู้ยิ่งใหญ่...คอยชี้ทาง
นี่เป็นที่มาของอาจารย์เซ็นที่ชื่อ มูนัน ที่แปลว่า ชายผู้ไม่หวนกลับหลัง
2 พฤศจิกายน 2553 18:21 น.
กระบี่ใบไม้
เด็กน้อยวัยสิบสองชื่อ โทโย
เห็นเด็กโตเข้าเรียนเซ็นเพื่อสืบสาน
จึงเดินเข้าไปคำนับกับอาจารย์
ขอโกอานสักหนึ่งข้อขบคิดมา
อาจารย์จึงให้คำถามไปพินิจ
เพื่อหยั่งซึ้งถึงภูมิจิตปริศนา
เห็นมือหนึ่งของอาจารย์ยกขึ้นมา
จงบอกเสียงตบมือว่าเป็นเช่นไร
เด็กน้อยนั่งขบคิดอยู่หลายนาที
ได้ยินเสียงดนตรีก้องสดใส
บอกอาจารย์ที่ได้ยินเสียงนั่นไง
อาจารย์บอกยังไม่ใช่...ขบคิดความ
เด็กน้อยกลับไปนั่งพิศพินิจทั่ว
เสียงกบน้อยบนใบบัว,เสียงหยดน้ำ
เสียงหรีดหริ่ง,เรไร...เกาะไม้งาม
เด็กน้อยเสาะพยายามสืบค้นมา
อาจารย์รับฟังความเห็นแล้วสั่นหัว
หลังจากที่ยิ้มแย้มยั่วก็บอกว่า
เจ้าไปฟังเสียงใดไกลสายตา
เสียงที่เจ้าเสาะค้นหาอยู่ไม่ไกล
....................................
ในค่ำคืนที่ใจนั้นพลันสงบ
เสาะค้นพบซึ่งหนทางสว่างไสว
เลิกฟังแล้วซึ่งสรรพเสียงสำเนียงใด
ได้ยินเสียงซึ่งใครใคร...ไม่ได้ยิน