24 ธันวาคม 2552 21:48 น.
กระบี่ใบไม้
ต่อให้แสงแรงกล้าจากฟ้ารุ่ง
จะพวยพุ่งแผดเจ้าเป็นผุยผง
ฉายโชนแสงแห่งตะวันมาบั่นลง
น้ำค้างคงแสงวาบอาบประกาย
.
ไม่เปรียบเพชรเก็จแก้ววับแววฟ้า
แตะปลายแสงแต่งยอดหญ้าเมื่อยามสาย
ปลุกเช้าตื่นชื่นชุ่มชอุ่มพราย
ดุจสร้อยฉายประกายเปล่งเพลงอรุณ
ถึงไม่ใช่ก่องเก็จหยาดเพชรแก้ว
สวมใส่แล้วตีตราโลกหล้าหนุน
แก้วที่ขาดความชุ่มชื้นรื่นละมุน
จะกอบเกื้อเจือจุนห่วงใยใคร?
อาจเป็นแค่หยาดน้ำพรายจากปลายฟ้า
แต่ยังคงคุณค่าไม่หวั่นไหว
หยดน้ำค้างเมื่อยามสายจางหายไป
ไม่จากไกลจากใจอัน...เฝ้าฝันรัก
เพชรที่ผูกเอาไว้ที่ปลายหญ้า
คงคุณค่าเพียงใดไม่ประจักษ์
หยาดน้ำค้างพริ้งพรายเข้าทายทัก
ได้พิงพักยอดหญ้าบางไม่หมางใจ
.
ก่อนที่แสงแรงกล้าจากฟ้ารุ่ง
จะพวยพุ่งแผดเจ้าจนเผาไหม้
ใจยังคงซึมซาบรักจากยอดใบ
เพชรไม่เคยช่วยอะไร...ให้หญ้างาม
กระบี่ใบไม้
24/12/52 เวลา 21.30 น.
ภาพจาก www.oknation.net/.../2009/11/29/entry-1
19 ธันวาคม 2552 19:09 น.
กระบี่ใบไม้
เจ้านกน้อยคอยจ้องแหงนมองฟ้า
ว่าวสีสันงามตาพลิ้วไสว
หัวใจเจ้านกน้อยคงสงสัยใจ
เราทำไมไม่สวยสดและงดงาม?
แม่นกน้อยค่อยยิ้มออกบอกลูกว่า
ก่อนที่เจ้าจะลืมตาตั้งคำถาม
เจ้าจงมองข้อเท็จจริงทุกสิ่งความ
ว่าวที่เจ้าคอยติดตามคือสิ่งใด?
ว่าวอาจงามด้วยเฉดสีสวยพิสุทธิ์
แต่มันงามด้วยแรงยุดจากจุดไหน
ถ้าไม่มีสายป่านถือจากมือไกว
หรือขาดลมที่พลิ้วไหวในนภา
ว่าวที่ร่วงลงสู่พื้นข้ามคืนนั้น
คงเป็นแค่แผ่นสีสันอันไร้ค่า
หากเจ้าไม่ตีตัวให้ไร้ราคา
ฟ้าไม่เคยสร้างเจ้ามาให้ท้อใจ
ฟ้าสร้างปีกเจ้าผกผินบินอย่างนก
เพื่อให้เจ้าได้เหินหกและยิ่งใหญ่
ให้เจ้าได้บินล่องท่องเที่ยวไป
ไม่เคยต้องใช้แรงใคร...ช่วยหากิน
.................................................
ตราบที่แสงแห่งฟ้ายังปรากฏ
โลกยังคงงามงดไม่หมดสิ้น
ขอเพียงแค่มีดวงจิตคิดโบยบิน
โลกคงสวยด้วยดวงจินต์...ที่งดงาม