15 ตุลาคม 2553 15:21 น.

นิทานเซ็น ตอน ละความชั่ว กระทำความดี

กระบี่ใบไม้

มหาอำมาตย์แวะไปเยี่ยมอาจารย์เซ็น

เห็นท่านท่องธรรมบำเพ็ญบนกิ่งไม้

อาจารย์ครับอยู่ตรงนั้นมันอันตราย

กิ่งไม้อาจฉีกหักได้...พาปวดร้าว


อาจารย์เซ็นกล่าวขอบคุณมหาอำมาตย์

กิ่งไม้ข้าแม้มันอาจดูว่าเปล่า

แต่ข้าก็เกษมใจไร้เรื่องราว

เทียบชีวิตท่านที่กล่าวนั่นผิดกัน


ตัวข้าเป็นถึงอำมาตย์ผู้ยิ่งใหญ่

ท่านว่ายังมีสิ่งใดไม่คาดฝัน

อาจารย์บอก อันตรายมีร้อยพัน

ภัยของผู้ครองเมืองนั้นอยู่รอบตัว


สารพัดทั้งชิงดีและชิงเด่น

คนสอพลอทุกเช้าเย็นมีถ้วนทั่ว

ล้วนมากมายกองกิเลสเหตุหมองมัว

เทียบกิ่งไม้ที่ท่านกลัว...นั้นห่างไกล...


ท่านอำมาตย์จึงย้อนถามอาจารย์ว่า

อะไรคือหลักธรรมมาที่ยิ่งใหญ่

อาจารย์คิดอย่างรอบคอบแล้วตอบไป

ละความชั่วทำดีไว้...นั่นแหละธรรม


มหาอำมาตย์ได้ฟังหัวเราะก้อง

ฟังคำเทศน์แล้วอยากร้องว่าน่าขำ

ละความชั่วทำความดีที่กล่าวคำ

แม้แต่เด็กตาดำดำก็กล่าวเป็น


คำคำนี้แม้ฟังดูง่ายแสนง่าย

เด็กแปดขวบยังพูดได้ไม่ยากเข็ญ

แต่ผู้ใหญ่วุฒิมากมีที่บำเพ็ญ

ที่ปฏิบัติผ่าน...ล้วนยากเย็น...น้อยเหลือเกิน				
12 ตุลาคม 2553 15:12 น.

นิทานเซ็น ตอน สะพรั่งหรือเหี่ยวเฉา

กระบี่ใบไม้

ระหว่างไม้สองต้นนี้ที่ยืนต้น

เห็นต้นหนึ่งใบร่วงหล่นแห้งหลากหลาย

ส่วนอีกต้นสะพรั่งใสใบเรียงราย

อาจารย์ถามว่า ต้นไม้ต้นไหนดี


ศิษย์ผู้หนึ่งบอกสะพรั่งทุกครั้งผ่าน

เขียวใบไม้เบ่งบานทุกถิ่นที่

อาจารย์บอกบานสะพรั่งก็สวยดี

ประดับให้โลกใบนี้...งามตระการ


ส่วนอีกคนบอกเหี่ยวเฉาย่อมดีกว่า

เตือนชีวิตและเวลาด้วยกิ่งก้าน

อาจารย์บอก เมื่อถึงห้วงร่วงตามกาล

ย้ำเตือนว่าเมื่อพบพานย่อมจากลา


ศิษย์อีกคนบังเอิญผ่านมาพานพบ

เธอช่วยตอบมาให้ครบอยากรู้ว่า

สะพรั่งหรือเหี่ยวเฉาดีช่วยตอบมา

ห้วงความคิดเธอนั้นหนาคือสิ่งใด


ศิษย์ผู้นั้นจึงเน้นย้ำด้วยคำนี้

...ปล่อยต้นที่บานสะพรั่งให้สดใส...

...ปล่อยต้นที่แห้งเหี่ยวเฉาให้เฉาไป...

จะไปยึดติดอะไรกับใบบัง


อาจารย์บอกสองคนแรก ท่านผิดแล้ว

จิตผ่องแผ้วไร้ตะกอน...ที่นอนฝัง

จงอยู่กับความจริงนี้ที่จีรัง

เฉา-สะพรั่ง ตามห้วงกาล...ผันผ่านเยือน				
7 ตุลาคม 2553 20:03 น.

นิทานเซ็น ตอน 18 อรหันต์ทองคำ

กระบี่ใบไม้

ชายหาฟืนหนึ่งคนแสนจนยาก

ต้องลำบากหากินทุกค่ำเช้า

พร่ำขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกครั้งคราว

โปรดเมตตาให้ฉันก้าวพ้นความจน


คล้ายสวรรค์มีเมตตาฟ้าลิขิต

ถ้อยคำพรก่อสัมฤทธิ์ประสิทธิ์ผล

ขณะที่ตัดฟืนมาสาระวน

ตุ๊กตาทองหนึ่งพ้นโผล่ผืนดิน


ก่อเป็นรูปอรหันต์อันงามงด

งามหมดจดด้วยทองคำล้ำเลอศิลป์

เคยลำบากยากเข็ญเพียงเลี้ยงชีวิน

เป็นเศรษฐีมีไม่สิ้นในฉับพลัน


กายอาจมีสุขผ่องใสในลาภยศ

แต่หัวใจเกิดรันทดเศร้าโศกศัลย์

อรหันต์ที่พบนี้มีหนึ่งอัน

ส่วนสิบเจ็ดองค์นั้นอยู่ที่ใด


ความโลภเกิดขึ้นที่ใดดังไฟผลาญ

ผุดลุกนั่งดังกองถ่านเพลิงเผาไหม้

ความร่ำรวยไม่เคยช่วย...ยกจิตใจ

อยู่ไม่นานก็ป่วยไข้ล้มตายลง


สงสารเมียเฝ้ารำพันวันฝังศพ

เสียดายท่านที่มาพบความลุ่มหลง

เงินไม่อาจยกหัวใจให้ยืนยง

ตายไปแล้วท่านยังคง...จนเหมือนเดิม!!!				
4 ตุลาคม 2553 21:21 น.

นิทานเซ็น ตอน กบน้อยคิดฟุ้งซ่านข้างกำแพงวัด

กระบี่ใบไม้

เจ้ากบน้อยตัวหนึ่งอยากเป็นพระ

ทุกขณะบิณฑบาตแอบคาดฝัน

เกิดเป็นพระคงสบายสารพัน

ออกไปเดินไม่ถึงวันก็มีกิน


เห็นพระแล้วส่ายตามองจ้องเด็กวัด

น่าอิจฉาชะมัดไม่จบสิ้น

ถึงไม่ต้องบิณฑบาตเลี้ยงชีวิน

อาศัยพระสุขดวงจินต์แสนสบาย


ขณะมองเห็นเด็กวัดล้างชามอยู่

เศษอาหารล้นเหลือดูมีมากหลาย

เห็นหมาวัดคอยนอนรออยู่มากมาย

เป็นหมาวัดแหละคงง่ายสบายดี


แต่เอ๊ะ...เป็นหมาวัดนั้นยังต้องเห่า

คอยเดินเฝ้าวัดวาตามหน้าที่

เหลือบไปเห็นแมงวันจ้อยน้อยมากมี

อยากเป็นแมงวันแล้วนี่...ไม่มีงาน


อยากเกิดเป็นแมงวันน้อยล่องลอยไป

บินตอมไต่คอยสังเกตเศษอาหาร

ขณะนั้นแมงวันหนึ่งบินหลงลาน

ลิ้นตะหวัด...ตามสันดานเข้าปากพลัน


เจ้ากบน้อยกลับมาคิดพินิจดู

เป็นกบน้อยอย่างเป็นอยู่ก็สุขสันต์

คอยค้นคว้าหาสิ่งใดให้ชีวัน

เกิดเป็นกบตัวน้อยนั่น...แสนสุขใจ				
3 ตุลาคม 2553 17:41 น.

นิทานเซ็น ตอน เณรน้อยกวาดใบไม้

กระบี่ใบไม้

เณรน้อยมีหน้าที่กวาดลานวัด

คอยกวาดปัดเหล่าใบไม้บนลานผืน

มีต้นไม้หนึ่งต้นใบหนายืน

ทุกเช้าตื่นขึ้นมาร่วงหนาพราว


เณรน้อยยิ่งปัดกวาดยิ่งหัวเสีย

ต้องเสียแรงอ่อนเพลียทุกค่ำเช้า

พระรูปหนึ่งจึงออกปากฝากเรื่องราว

เขย่าให้...ใบร่วงกราว ก็จบกัน


เณรน้อยบอก เห็นด้วยยิ่ง เป็นจริงแท้

เสียแรงแค่เขย่าต้นใบหล่นนั่น

ไม่ต้องเสียแรงปัดกวาดสารพัน

ตื่นเช้าขึ้นก็ขบฉันก่อนผู้ใด


พูดเสร็จแล้ว...เณรน้อยก็เขย่า

พอใบไม้หล่นถมเข้าก็กวาดไว้

นั่งคลึ้มอกคลึ้มกายสบายใจ

รอพรุ่งนี้เช้าวันใหม่ลานโล่งเตียน


,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,


อันวิถีใบอ่อนเรียวก่อนเขียวเข้ม

ยามร่วงโรยเหลืองก็เต็มคอยผลัดเปลี่ยน

ตามครรลองของชีวีที่หมุนเวียน

ไม่อาจเขียนขีดเอาไว้อย่างใจเรา


,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,


เจ้าอาวาสส่งยิ้มให้อย่างเอ็นดู

ทำไมเจ้าจึงเรียนรู้อย่างโง่เขลา

ใบไม้ก็คือใบไม้...เกลื่อนกรายเบา

ใช่มันหายเพราะเขย่าเสียเมื่อไร



ในที่สุดเณรน้อยก็รู้ว่า

ใช่บางอย่างรู้ล่วงหน้าลิขิตได้

ไม่ว่าใบไม้ คน หรือสิ่งใด

ไม่ว่าชีวิตของใคร...ก็เช่นกัน				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระบี่ใบไม้
Lovings  กระบี่ใบไม้ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระบี่ใบไม้
Lovings  กระบี่ใบไม้ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระบี่ใบไม้
Lovings  กระบี่ใบไม้ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกระบี่ใบไม้