27 พฤศจิกายน 2553 14:03 น.
กระบี่ใบไม้
แว่วเพียงเสียงใสใส เด็กที่ไหนอยู่ในวัด
ลมหนาวพลิ้วพราวพัด เศษใบไม้ปลิวสายลม
........................................
เดินย่ำไปตามเสียง คล้ายสำเนียงนั้นขื่นขม
เด็กน้อยร้องระงม อยู่นับพันเดินรอบตัว
ถาม แม่...หนูอยู่ไหน เด็กน้อยใหญ่ล้วนสั่นหัว
พี่จ๋า...พวกหนูกลัว หนูโดดเดี่ยว หนูเดียวดาย
แม่จ๋า หนูอยู่นี่ ใจดวงนี้สิ้นสลาย
เด็กน้อยมีมากมาย คงครุ่นคิด ผิดอย่างไร
เด็กน้อยแสนน่ารัก น่ากอดนักอยู่ใกล้ใกล้
เพียงสองมือเอื้อมไป วูบสลายคล้ายหมอกควัน
........................................
แว่วเพียงเสียงใสใส ความห่วงใยเหมือนในฝัน
หญิงสาวอีกนับพัน คงแปลบลึกรู้สึกกลัว
ลูกจ๋า แม่ขอโทษ แม่ใจโหด แม่คนชั่ว
สังคม บีบรอบตัว ปล่อยลูกไว้ใครเห็นดี
แม่รู้ แม่ผิดพลาด ฟังเสียงฆาตกรนี้
ท้องป่องขึ้นทุกที อยากรู้มี ใครอภัย
........................................
แว่วเพียงเสียงเศร้าเศร้า รัก ของเราอยู่ที่ไหน
...รอใจ...ส่งถึงใจ... คอยกอดนั้น หันกลับมา
ภาพจากเวบไซต์ http://www.mongkol-luck.com/index.php?mo=3&art=202676
4 พฤศจิกายน 2553 12:50 น.
กระบี่ใบไม้
เย็นวันหนึ่งมืดสลัวน่ากลัวนัก
อาจารย์เดินมาหยุดพักที่ชายบ้าน
พบครอบครัวหนึ่งแสนเศร้าสุดร้าวราน
แม่และลูกน่าสงสารล้วนผอมโซ
อาจารย์จึงแวะถามไถ่ เป็นไรหรือ...
จึงอดมื้อกินมื้อผอมอักโข...
ถามพ่อบ้านอยู่ที่ไหน ร้องไห้โฮ
กว่าจะโผล่ถึงบ้านได้คงหายเมา
อาจารย์บอก ถ้าอย่างนั้นไม่เป็นไร
ข้าไม่มีสิ่งใดตอบแทนเจ้า
อย่างนี้เถิด,เอาเงินนี้จากที่เรา
ไปซื้อเหล้าอย่างดีมาอย่าช้านาน
แม่ลูกที่สุดยากแค้นแสนสงสัย
เอ๊ะ...อาจารย์เอายังไงช่วยไขขาน
เห็นอาจารย์คงนั่งยิ้มอยู่เนิ่นนาน
ทำตามที่...ท่านว่ายวาน...หน่อยเป็นไร
เห็นพ่อบ้านเดินเซแซด...แถแถดอยู่
กลางบ้านฉันใครไม่รู้น่าสงสัย
อ่าฮ้ามี..ไหเหล้าวาง...เหมือนอย่างใจ
ไม่สนแล้วเหล้าของใครข้าขอกิน
อรุณรุ่งสุรีย์กรายเริ่มฉายแล้ว
เสียงไก่แก้วโก่งขันย้อนจากคอนถิ่น
เอ๊ะ...นี่ท่านเป็นผู้ใด...สงสัยจินต์
แล้วเหล้าที่ข้าดื่มกินนั่นของใคร
ข้าชื่อ...กูโด โทโชกุ...แห่งเกียวโต
พ่อบ้านมาดเขื่องโขแทบจับไข้
อาจารย์ของพระจักรพรรดิ...สายรินไซ
ท่านมาอยู่ได้อย่างไรที่บ้านเรา
อาจารย์บอกว่า ชีวี...นี้ไม่เที่ยง
ชีวิตนี้ใช่มีเพียงไว้ดื่มเหล้า
ท่านลืมทิ้งลูกเมียไว้แต่นานเนา
ถ้าไม่รักลูกเมียเจ้าจะรักใคร
เหมือนฟ้าผ่าฟาดลงไปในส่วนลึก
ชายผู้นั้นได้สำนึกพลันร้องไห้
...ขอจำคำอาจารย์ไว้จนวันตาย...
...ในเมื่อท่านรู้ตัวได้ข้าขอลา...
.....................................
กุลีกุจอยึดยื้อถือข้าวของ
ข้าขอจองส่งอาจารย์ถึงด่านหน้า
อาจารย์บอกว่า ทุกทางที่ผ่านมา
เมื่อพบพา-พัดพราก-ย่อมจากไป...
ชายนั้นบอก ขอตามท่านไร้วันกลับ
เลิกทางเลวขอน้อมรับเส้นทางใหม่
...ทางที่เหลือชีวิตนั้น...สั้นเพียงใด...
โลกต้องการผู้ยิ่งใหญ่...คอยชี้ทาง
นี่เป็นที่มาของอาจารย์เซ็นที่ชื่อ มูนัน ที่แปลว่า ชายผู้ไม่หวนกลับหลัง
2 พฤศจิกายน 2553 18:21 น.
กระบี่ใบไม้
เด็กน้อยวัยสิบสองชื่อ โทโย
เห็นเด็กโตเข้าเรียนเซ็นเพื่อสืบสาน
จึงเดินเข้าไปคำนับกับอาจารย์
ขอโกอานสักหนึ่งข้อขบคิดมา
อาจารย์จึงให้คำถามไปพินิจ
เพื่อหยั่งซึ้งถึงภูมิจิตปริศนา
เห็นมือหนึ่งของอาจารย์ยกขึ้นมา
จงบอกเสียงตบมือว่าเป็นเช่นไร
เด็กน้อยนั่งขบคิดอยู่หลายนาที
ได้ยินเสียงดนตรีก้องสดใส
บอกอาจารย์ที่ได้ยินเสียงนั่นไง
อาจารย์บอกยังไม่ใช่...ขบคิดความ
เด็กน้อยกลับไปนั่งพิศพินิจทั่ว
เสียงกบน้อยบนใบบัว,เสียงหยดน้ำ
เสียงหรีดหริ่ง,เรไร...เกาะไม้งาม
เด็กน้อยเสาะพยายามสืบค้นมา
อาจารย์รับฟังความเห็นแล้วสั่นหัว
หลังจากที่ยิ้มแย้มยั่วก็บอกว่า
เจ้าไปฟังเสียงใดไกลสายตา
เสียงที่เจ้าเสาะค้นหาอยู่ไม่ไกล
....................................
ในค่ำคืนที่ใจนั้นพลันสงบ
เสาะค้นพบซึ่งหนทางสว่างไสว
เลิกฟังแล้วซึ่งสรรพเสียงสำเนียงใด
ได้ยินเสียงซึ่งใครใคร...ไม่ได้ยิน
31 ตุลาคม 2553 19:24 น.
กระบี่ใบไม้
พระอาจารย์ท่านหนึ่งปลูกสร้างวัด
ใกล้อารามเงียบสงัดนักพรตกล้า
แต่นักพรตไม่อยากให้มีวัดวา
จึงเสกด้วยมนต์มายาคาถามาร
เสกภูตผีตามรังควาญพานหลอกหลอน
พระเณรก็แสนทุกข์ร้อนไม่อาจต้าน
หนีไปหมดเหลือหนึ่งเดียว,พระอาจารย์
หลายปีผ่านวิชามารเริ่มหมดลง
หลังจากใช้เวทย์คาถาจนหมดสิ้น
อาจารย์ก็ไม่ทิ้งถิ่นดังประสงค์
เมื่อเรียนรู้สู้ไม่ได้อย่างมั่นคง
นักพรตเฒ่าช้ำใจปลง...ก็จากไป
เหล่าลูกศิษย์ลูกหากลับมาถาม
ชัยชนะช่างงดงามและผ่องใส
อยากรู้ว่าท่านชนะได้อย่างไร
อาจารย์ใช้เวทมนต์ใดเข้าต่อกร
ข้าไม่มีเวทมนต์ใดที่ไหนดอก
อาจารย์ยิ้มสรรพยอกเอ่ยคำสอน
สิ่งเดียวที่อาจารย์ไซร้ใช้ราญรอน
คือคาถานิรันดร...ว่า -ไม่มี-
เวทย์คาถานั้นยังมีที่สิ้นสุด
แต่ -ไม่มี- ไม่เคยหยุดในทุกที่
ไม่มี...สิ่งใดชนะความ -ไม่มี-
หวาดกลัว,เศร้า,เหงา,ยินดี...อยู่ที่ใจ
29 ตุลาคม 2553 18:57 น.
กระบี่ใบไม้
พระ โซจุน ปฏิบัติธรรมอย่างสิ้นหวัง
ขณะไร้สิ้นกำลังแห่งมรรคผล
คิดกระโดดน้ำตายอย่างมืดมน
เพื่อดับความสับสนในหัวใจ
...อธิษฐานแห่งหัวใจต่อสายน้ำ
ขอทิ้งร่างนี้ลงตามห้วยน้ำไหล
หากชีพนี้มีความหมายต่อใครใคร
โพธิสัตว์จงช่วยไว้มิให้ตาย
หากชั่วชาติชีวิตนี้ต้องมัวหม่น
จงสูบข้าใต้วังวนสิ้นสลาย...
ขณะที่สำลักน้ำอย่างงมงาย
จิตประวัตินึกขึ้นได้ถึงมารดา
เกิดเป็นลูกผู้ชายใดใจท้อแท้
คนที่เจ็บปวดแท้คือแม่ข้า
ร่างนี้ไม่ควรเป็นสิทธิ์ของหมู่ปลา
พระคุณแม่เหนือคงคาและสายธาร
อาศัยพระคุณผู้กำเนิดเชิดหน้าสู้
พร้อมดำรงชีวิตอยู่อย่างกล้าหาญ
ก่อเกิดเป็น พระอิคคิว ในตำนาน
ย้ำเตือนถึง พระในบ้าน รีบแทนคุณ
พระโซจุน เป็นนามเดิมของพระอิคคิว(อิคคิวซัง) ขณะที่บวชที่วัดไซกอนจิ เมื่อครั้งหลวงพ่อเคนโอมรณภาพ ด้วยความกตัญญู โซจุนจึงออกจากวัดไซกอนจิไปพักที่วัดอิชิยามา เพื่ออดอาหารเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน สวดมนต์อุทิศส่วนกุศลให้หลวงพ่อเคนโอพระอาจารย์ของตนเองต่อหน้าพระโพธิสัตว์ แต่ก็ยังไม่สามารถคลี่คลายความสับสนในจิตใจได้ จึงบังเกิดความเศร้าหมองและสิ้นหวัง ไม่รู้ว่าจะมีชีวิต ต่อไปอย่างไรและเพื่ออะไร ความสิ้นหวังนี้เกิดขึ้นรุนแรงจนทำให้โซจุนตัดสินใจกระโดดน้ำตายที่แม่น้ำเซตะ ทางตอนใต้ของทะเลสาบบิวาโกะ แต่เพราะคำว่า แม่คำเดียวที่ทำให้เขาระลึกขึ้นได้ และตัดสินใจดำเนินชีวิตอยู่อย่างกล้าหาญ โลกจึงได้รู้จักพระอิคคิวได้จนถึงปัจจุบันนี้