15 เมษายน 2554 08:24 น.

ลำนำจอมยุทธ์ ตอน อุ่นสุรา-เผาดาบ

กระบี่ใบไม้

กลางค่ำคืนที่เยียบเย็นหลีกเร้นหนาว

เกล็ดหิมะพร่างพราวจากท้องฟ้า

ข้างกองไฟ,คนและดาบ,ไหสุรา

มีสายลมและท้องฟ้าเป็นเพื่อนเมา


เป็นจอมยุทธ์ยิ่งใหญ่ในใต้หล้า

สิ่งที่ตอบแทนข้ามาคือความเหงา

เผาปลายดาบจุ่มสุราอุ่นร้อนเตา

ใต้หล้านี้ขอมีเหล้าเป็นเพื่อนใจ


ดาบเล่มเดียวเคยใช้สร้างทางโลหิต

มาวันนี้ข้าพินิจมองมันใหม่

มองดาบที่เคยไร้ค่าฝ่าควันไฟ

ยามเผาทิ้งดูยิ่งใหญ่...แลงดงาม				
11 เมษายน 2554 16:02 น.

ลำนำจอมยุทธ์ ตอน กระบี่หัวใจ

กระบี่ใบไม้

เชิญท่านดื่มสุราใสให้หมดจอก

เพราะเมื่อออกจากด่านไปจะไร้สหาย

เชิญท่านดื่มสุราใสให้เมามาย

ที่แห่งนี้ไร้ผู้ขายสหายมิตร


จิบสุราแกล้มเพ็ญจันทร์ร้อยพันจอก

เหล้ากระฉอกหากหัวใจไร้จริต

คืนวันผ่านหมุนเวียนลมเปลี่ยนทิศ

ปล่อยชีวิตที่ห้าวหาญเวียนผ่านไป


กุมกระบี่หลั่งเลือดลมร้อยคมดาบ

มิตรภาพแลน้ำตาไหลบ่าใส

วางกระบี่ที่-คมเหลือเพื่อผู้ใด?-

ใช้กระบี่แห่งหัวใจ...สร้างปัญญา				
11 เมษายน 2554 15:43 น.

นิทานเซ็น ตอน โคมไฟกับคนตาบอด

กระบี่ใบไม้

ชายตาบอดคนหนึ่งออกเดินทาง

ไปเยี่ยมเพื่อนบ้านอยู่ห่างที่ปลายถนน

กลางค่ำคืนไร้แสงจันทร์อันมืดมน

บอกกับเพื่อนฉันขอตน...ต้องจากลา


เพื่อนบอกควรเอาโคมไฟติดไปด้วย

...ตาฉันป่วยถึงถือไปก็ไร้ค่า...

ที่ให้ท่านถือโคมไฟติดมือมา

ไม่ใช่เหตุอันใดหนาป้องกันตัว


แม้นท่านอาจไม่ต้องการแสงไฟนี้

เพื่อส่องทางหว่างวิถีที่มืดสลัว

แต่ในท่ามกลางความมืดที่หมองมัว

น่าหวั่นกลัวผู้มาชนบนหนทาง


ชายตาบอดดุ่มเดินไปในท้องถนน

กุมโคมไฟไว้มั่นจนทุกก้าวย่าง

เสียงดังโครมก่อนล้มกลิ้งร้องครวญคราง

ฉันมีไฟไม่เห็นบ้างเดินมาชน!!!


ผู้เดินชนว่ามีไฟไหนวานบอก

ท่านกระแทกฉันจนออกที่ริมถนน

โคมที่ท่านถือมั่นใจ,ไร้กังวล

ดับเพลิงไฟไร้โภคผล...ไปนานแล้ว				
8 เมษายน 2554 14:55 น.

หาดทรายและขุนเขา

กระบี่ใบไม้

...ขอรักกันจนตราบสิ้นชั่วดินฟ้า

จารึกไว้ในแหล่งหล้ากัลปาวสาน

ฝากขุนเขาไพรพนาถ้อยสาบาน

แม้วันหนึ่งรักแหลกลาญ...ขอยอมตาย...


ฟ้าอึมคลึมก้องคำรามถึงยามเที่ยง

แข่งเส้นเสียงมโหรีไม่ขาดสาย

ว่าวตัวน้อยแอบซ่อนนั้นฝันงมงาย

ถามพี่ชายใยซ่อนเร้นไม่เห็นมา


หยาดมุกแก้วอาบแก้มงามนาม สามมุก

แลว่าวทุกครั้งตราตรึงประหนึ่งว่า

รักแรกพบสายลมแหงาส่งว่าวพา

สายว่าวถือสื่อเบื้องหน้าต่อสายใย


น้ำตาหยดดังฝนพรมดอกส้มน้อย

หยาดฝนปรอยประหนึ่งว่าน้ำตาไหล

ถึงชายหนุ่มที่ชื่อ แสน ไกลแสนไกล

แสนสุดรักสุดอาลัยช้ำฤดี


.........................................


มโหรีดังแว่วหวานจากบ้านนั้น

สะท้อนใจให้ป่วนปั่นถึงถิ่นนี่

แหวนที่เคยฝากเอาไว้แทนวจี

มิอาจตีค่าเอาไว้กันใครปอง


คำรักคนที่ร้าวรานริมบ้านป่า

หรืออาจเทียมเจ้าพระยาเป็นคู่สอง

เกิดเป็นชายผู้ยากจนทนแหงนมอง

ขออวยพรให้นวลน้องสู่ฝันงาม


เปาะ-แปะ เสียง...หยาดฝนจางถอยห่างฟ้า

เสียงกบเขียดดังแว่วมาลอดพงหนาม

ก้มหน้าซบฟังเสียงป่าเหว่ว้าตาม

หยดน้ำสังข์ไหลหยดลาม...ตกหลังมือ


สาวงามแอบเร้นหนีมานัยน์ตาเศร้า

รักของเราต้องขาดลงตรงนี้หรือ?

มองเห็นแหวนแทนหัวใจในนิ้วมือ

น้ำตารื้อสุดตื้นตัน...ฤาฝันไป


....พี่ยังจำคำสัญญาแต่ครั้งก่อน

นิรันดรถ้อยคำรัก...นั้นได้ไหม?

หากรักเราถูกกีดกั้น ณ วันใด

เรายังมีที่ให้ไปไม่ขาดกัน....


.........................................


วันเวลาผันผ่านไปสุดไกลแล้ว

เขาสามมุกคงพร่างแพร้วดั่งภาพฝัน

หาด บางแสนอิงกายกอดทอดนิรันดร์

ทิ้งร่างไว้ใต้ผานั่น...นิรันดร











ขอขอบคุณภาพสวยๆ ทางอินเตอร์เน็ต http://www.pixpros.net/forums/showthread.php?t=43401&page=3
ถ่ายโดย คุณชัชวาล  หลวงปราบ ta.chatchawan@gmail.cim
ขอบคุณมากๆครับ				
23 มีนาคม 2554 12:53 น.

นิทานเซ็น ตอน รู้จักถนอมสิ่งของ

กระบี่ใบไม้

พระภิกษุสามรูปไปโปรดสัตว์

ขณะเลือกจะจำวัดหมู่บ้านไหน

มองเห็นผักลอยตามน้ำมาหนึ่งใบ

พระรูปแรกจึงทักให้ช่วยกันดู


พระรูปสองบอกว่า ผักยังสดใส

ปล่อยมันลอยทิ้งน้ำไปเสียดายอยู่

พระรูปสามหยิบเศษผักขึ้นมาชู

หมู่บ้านนี้ไม่ควรคู่การโปรดเลย


ไม่ถนอมสิ่งเล็กน้อยเพียงแค่นี้

ต่อให้สอนสั่งทั้งปีก็คงเฉย

สิ่งเล็กเล็กสะท้อนถึงสิ่งคุ้นเคย...

ขณะที่คิดผ่านเลย...ก็หยุดลง


ชายคนหนึ่งวิ่งร้องตามไถ่ถามว่า

ข้าทำผักลอยน้ำมาด้วยลืมหลง

พระคุณเจ้าอาจมองเห็นเป็นมั่นคง

ขอท่านจงโปรดหยิบยื่นคืนกลับมา


พระทั้งสามจึงเปลี่ยนใจไม่เดินผ่าน

พร้อมโปรดบ้านผู้รู้สิ่งที่มีค่า

รักถนอมในทุกสิ่งไม่ผ่านตา

ย่อมควรรับสิ่งดีกว่าที่มาเยือน				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระบี่ใบไม้
Lovings  กระบี่ใบไม้ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระบี่ใบไม้
Lovings  กระบี่ใบไม้ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระบี่ใบไม้
Lovings  กระบี่ใบไม้ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกระบี่ใบไม้