17 พฤษภาคม 2554 13:06 น.
กระบี่ใบไม้
บางครั้งความตายดังขุนเขา
มีบ้างบางเบา - ขนนกไหว
อาจมีบ้างบางครั้งเคยเสียใจ
แต่อย่ายอมให้ใครเสียน้ำตา
ระหว่างคนต่อคนพึงพินิจ
ตอบสหายด้วยน้ำมิตรอันเลอค่า
คมกระบี่มิใช้สร้างทางมรรคา
กลีบดอกไม้อ่อนไหวกว่าใช่ไร้คม
คมที่สุดคือหัวใจ
เทือกเขาสูงถูกบังได้ด้วยปลายผม
ตัวโสมมอย่ายอมให้ใจโสมม
ดาบใช้ตัดทุกข์ระทม...คือดาบดี
17 พฤษภาคม 2554 12:45 น.
กระบี่ใบไม้
พระโพธิธรรมเรียกศิษย์ไปไต่ถาม
จงบอกความเนื้อธรรมให้รู้ว่า
สิ่งที่เจ้าได้เรียนรู้แต่ก่อนมา
สรุปเป็นคำพูดจา...แก่ข้าที
ศิษย์ เต้าฝู ผู้กล่าวธรรมเป็นคนแรก
ธรรมใดที่ได้แจงแจกในวิถี
มิเคยถูกครอบงำโดยวลี
มิเคยแยกถ้อยคำนี้จากถ้อยคำ
โพธิธรรมบอก เจ้าได้ หนังข้าแล้ว
สมกับตั้งใจแน่แน่วทุกเช้าค่ำ
แม่ชีนาม ซ่งฉี เอื้อนเอ่ยธรรม
โดยถ้อยความสุดลึกล้ำและตรึงตรา
*** ...อักโษภยาพุทธเจ้า...เห็นคราวใด
อลังการสว่างไสวแสนเจิดจ้า
เพียงแค่ได้มองเห็นเป็นครั้งครา
ธรรมมะเดียวสว่างกล้า...ซึ้งเกินพอ
เจ้าได้ เนื้อ ของข้าอาจารย์เจ้า
ลูกศิษย์นาม เต้าหยู เอื้อนเอ่ยต่อ
ธาตุทั้งสี่ล้วนว่างเปล่าไร้ภาพทอ
ส่วนขันธ์ห้าเหล่านั้นหนอไร้ตัวตน
พระอาจารย์บอก เจ้าได้ กระดูก ข้า
โดยเนื้อธรรมที่แจ่มจ้าและเปี่ยมผล
สุดท้ายเหลือศิษย์ ฮุ่ยเข่อ อีกหนึ่งคน
จะฉุกคิดพินิจบนเงื่อนไขใด
ฮุ่ยเข่อ ก้าวมายืนอยู่ที่ตรงหน้า
คำนับท่านอาจารย์ชราแล้วนิ่งไว้
ธรรม ที่แท้ไร้คำพูดพิสูจน์ใย
เจ้าได้ ไขกระดูก แล้ว...พบแนวทาง!!!
*** พระพุทธองค์องค์หนึ่งในนิกายมหายาน
หลังจากนั้นพระโพธิธรรมก็ได้ส่งมอบบาตร จีวร สังฆาฏิของพระพุทธองค์ที่สืบทอดต่อๆ กันมาให้ ฮุ่ยเข่อ เพื่อรับตำแหน่งสังฆปรินายกองค์ที่ 2 ของจีนต่อไป
15 พฤษภาคม 2554 17:15 น.
กระบี่ใบไม้
ฟ้าส่งให้ข้าเกิด
คลื่นยังคงพร่างพราว
ฉ่ำละอองยามเช้า...สุรีย์ยามเช้า...ล้อคลื่นลอยแกว่งไกว
เสียงดนตรีเห่กล่อม
เสียงนกร้องก้องไพร
หยิ่งทะนงเพียงไหน...ก็คงทิ้งไว้...เหลือซากอันเปลี่ยวดาย
ยิ้มเย้ยโลกเดียวกัน
ยิ้มเยาะหยันความตาย
ตราบอรุณสุดท้าย...ไม่เคยทิ้งท้าย...แสงแรกกรายกลับมา
เสียงดนตรีเห่กล่อม
เห็นคลื่นล้อมนาวา
ความโศกใดในฟ้า...หนาวเหน็บเหนื่อยล้า...ล้วนคลื่นพาแกว่งไป
............................................
ยิ้มเย้ยหยันเกลียวคลื่น
ไร้กล้ำกลืนหมองไหม้
ฝ่าธาราหวั่นไหว...ล่องลอยโดยไร้...คลื่นใดพาโศกตรม
ล้า ล่า ลา ลา หล่า ล้าล่า ลา ลา หล่า
หล่า ลา หล่า ลา ลา ลา ล้า ล้า ล่า ลา หล่า ลา
ล้า ล่า ลา ลา หล่า ล้าล่า ลา ลา หล่า
หล่า ลา หล่า ลา ลา ลา ล้า ล้า ล่า ลา หล่า ลา
ฯลฯ
ประพันธ์เนื้อร้องใหม่โดย...กระบี่ใบไม้
จากเนื้อร้องทำนองเดิมเพลง "ชัง ไห่ อี้ เซิง เซี่ยว" จากภาพยนตร์เรื่องเดชคัมภีร์เทวดา
แวะมาฟังเพลงนี้ได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=opAQd9NhcMQ&feature=player_embedded
19 เมษายน 2554 18:30 น.
กระบี่ใบไม้
พลิ้วลมพรายสายลมหนาวเจ้าพราวพัด
เหมยสะบัดหิมะต้องกิ่งทองฝัน
สาวเจ้าเอยยืนเดียวดายใต้แสงจันทร์
ใครคนนั้นห่างหายไปไม่หวนมา
สันกำแพงหมื่นลี้ที่ก่อสร้าง
ขีดขั้นกลางแบ่งหัวใจให้ขมปร่า
วันแต่งเราหนึ่งเดียวกันกับวันลา
รินจอกเหล้าเคล้าน้ำตาส่งเธอไป
ฉันรอเธออยู่เนิ่นนานผ่านเช้าค่ำ
ยังจดจำเหมยต้นนี้ที่โตใหญ่
ใหญ่กว่าที่ก่อนเธอเดินถึงถิ่นไกล
ฉันยังทอผ้าผืนใหม่ไว้รอเธอ
............................................
ฉันเดินฝ่าหนาวสะท้านกันดารมาก
สายลมกรากแทบขาดใจ...ไข้เสมอ
ไม่อยากให้เธอหนาวสั่นอย่างฉันเจอ
มองแสงจันทร์ฝันละเมอคล้ายเธอมา
ถึงกำแพงหมื่นลี้ที่เธออยู่
คนนับหมื่นไถ่ถามดูไม่รู้ว่า
เธอนั้นอยู่แห่งหนใดไกลสายตา
ต่อให้เร้นถึงขอบฟ้าตั้งหน้าคอย
แว่วคำบอกข่าวออกมาดังฟ้าฟาด
ความตายเธอคล้ายมีดบาดใจดวงน้อย
ริมกำแพงเมืองด้านนั้นฝันหลุดลอย
หินถล่มถมใจคอยซากซบดิน
ฉันร้องไห้หลั่งน้ำตาเป็นสายเลือด
หยดน้ำตาลงแห้งเหือดกับซากหิน
โชคชะตาแห่งฟ้าไยไม่ยลยิน
ไหลหยดเลือดนี้หลั่งรินชะตากรรม
............................................
บ้างความตายของบางคนดั่งขนนก
บ้างบางคนดังหินตกฝังถิ่นถ้ำ
ตายของหญิงสาวนางหนึ่งสร้างทรงจำ
ฟ้าผ่าเปรี้ยงเหวี่ยงหินดำสะทกสะเทือน
เหมยยังออกดอกเย้ยหนาวถึงคราวนี้
ใต้กำแพงนับหมื่นลี้กั้นแดนเถื่อน
ฝังตำนานหยาดน้ำตาก่อนพร่าเลือน
เหมยเจ้าเอยรับแสงเดือน...ก่อนร่วงโรย
ความตายของ นางเมิ่งเจียงหนี่ว์ เพื่อบูชาความรักให้กับ ฟ่านสี่เหลียง สามีนางผู้ถูกเกณฑ์มาสร้างกำแพงหมื่นลี้(กำแพงเมืองจีน)เรื่องนี้ ถูกบอกเล่าสืบต่อมาทุกยุคทุกสมัย กลายเป็นหนึ่งในสี่ของนิยายรักอมตะอันล้ำค่าของจีน เคียงคู่กับ ม่านประเพณี(จู้อิงไถ่กับเหลียงซานป๋อ) ตำนานรักนางพญางูขาว และชายเลี้ยงวัวกับหญิงทอผ้า และจะคงถูกเล่าขานต่อไปอีกนานเท่านาน
15 เมษายน 2554 08:35 น.
กระบี่ใบไม้
การรู้แจ้งเปรียบเหมือนจันทร์บนผิวน้ำ
น้ำไม่ถูกคุกคาม,จันทร์ไม่ถูกสายน้ำไหล
...กลางค่ำคืน...สาดแสงจันทร์...อันอำไพ...
สะท้อนผิวน้ำกว้างใหญ่เพียงนิ้วเดียว
...จันทร์แขวน...ที่แผ่นฟ้า...
ปรากฏอยู่บนยอดหญ้าลู่ใบเขียว
สะท้อนแสงแห่งจันทราได้กลมเกลียว
แค่น้ำค้างเพียงหยดเดียว...ก็ใหญ่พอ
ดัดแปลงจากบทกวีของ เอเฮ โดเก็น (ผู้วางรากฐานแห่ง โซโตเซ็น ในญี่ปุ่น)