13 มิถุนายน 2553 17:34 น.
กระบี่ใบไม้
คล้ายลีลาวดีคือลีลา
สะท้อนภาพที่ผ่านมาว่าหลากหลาย
เริ่มต้น-คงอยู่-และล้มตาย
งดงามแห่งต้นไม้ไม่ยั่งยืน
ทายทักแสงแดดอ่อนเมื่อยามเช้า
กลีบขาวพร่างพรายและสดชื่น
เมื่อเย็นย่ำถึงห้วงร่วงสู่พื้น
งดงามก็กลับคืนสู่ผืนดิน
................................................
คล้ายลีลาวดีคือลีลา
สะท้อนภาพที่ผ่านมาไม่จบสิ้น
งามใดจักอยู่เป็นอาจินต์
เคียงคู่กับธรณินทร์ไม่เปลี่ยนแปลง
................................................
ลีลาวดีดอกหนึ่งวาง-ข้างพระประธานใหญ่
บอกเวลาผันผ่านไปไม่อับแสง
คือลีลาแห่งความดีที่สำแดง
เติมและแต่งแต้มโลกนี้ด้วยดีงาม
กระบี่ใบไม้
7 มีนาคม 2552
แต่งขึ้นเพราะได้แรงบันดาลใจจากสหายคนสำคัญที่รักยิ่ง อาคาเซีย จากบทกลอน http://writer.dek-d.com/reu_tai/writer/viewlongc.php?id=353283&chapter=38
10 มิถุนายน 2553 22:21 น.
กระบี่ใบไม้
ดาวเด่นฟ้าพริบพรายตามานับพัน
สาดสีสันคืนมืดมนบนฟ้าไกล
จันทร์แจ่มฟ้าสะท้อนภาพมาในหัวใจ
ธารน้ำใส...มีเงาจันทร์
***********
หิ่งห้อย...น้อย...ดังดาว
ค้นพบความว่างเปล่า...กลางฝัน
ไกลสุดปลายฟ้า
เหว่ว้าเกินใจหวั่น
ดื่มน้ำค้างเคียงแกล้มจันทร์...เมาใจ
***********
ดาวเด่นฟ้าพริบพรายตามานับพัน
สาดสีสันคืนมืดมนบนฟ้าไกล
จันทร์แจ่มฟ้าสะท้อนภาพมาในหัวใจ
ธารน้ำใส...มีเงาดาว
***********
ดาวลอยอยู่บนฟ้า
จะคว้าดาวมาอย่างไร
ดาวลอยอยู่แสนไกล
ส่องห้วงดวงใจขมขื่น
ดาวเด่นฟ้าพริบพรายตามาทั้งคืน
ส่องภาคพื้นยามเดียวดาย
***********
เคียงคู่ฝันวันเดียวดาย
คืนขมขื่น...แอบ...เมาดาว
6 มิถุนายน 2553 20:42 น.
กระบี่ใบไม้
อย่าร้องไห้...เลยนะ...คนดี
เสียน้ำตาให้คนที่มองไม่เห็น
หากน้ำตาของเราต้องเปียกกระเซ็น
ให้มันกระเด็นไปโดน คนที่สำคัญ
อย่าร้องไห้...เลยนะ...คนดี
เสียใจให้กับคนที่ไม่มีฝัน
แค่คนที่ไม่มีใจให้แบ่งปัน
จะไปแคร์คนคนนั้นอยู่ทำไม?
อย่าร้องไห้...เลยนะ...คนดี
โลกยังมีวันพรุ่งนี้ที่สดใส
เมื่อหมอกควันที่โหดร้ายจางหายไป
ไม่มีพื้นที่ให้เสียใจ...กับคนลวง
21 พฤษภาคม 2553 21:51 น.
กระบี่ใบไม้
ในวันที่ย้ายบ้านผ่านมานั้น
ฉันพบมันที่ปากซอยอันสับสน
กลางสังคมแสนพลุกพล่านของยานยนต์
มันพร้อมเห่าทุกผู้คนริมข้างทาง
ขับรถผ่านที่ตรงนี้สักกี่ครั้ง
มันก็ยังคอยเห่าอยู่ไม่เว้นว่าง
คล้ายกับเป็นเจ้าครองของเส้นทาง
ยั่วโมโหไม่เว้นวางระหว่างวัน
เป็นเจ้าของเขตแดนแคว้นถนน
จนฉันหมดความอดทนและอดกลั้น
ลงจากรถมอเตอร์ไซต์ไล่ประจัญ
ไล่ทุบตี-ไม่ช้ามัน...ก็กลับมา
ทุกผู้คนรู้ทั่วกันว่าฉันเกลียด
ทั้งหยามเหยียดทุกสถาน-สันดานหมา
มันเฝ้าเห่าอยู่ตรงนี้ไม่เลิกรา
ฉันจึงเริ่มออกค้นหาเจ้าของมัน
และแล้วความจริงนั้นก็ปรากฏ
ค้นพบความเศร้าสลดไม่คาดฝัน
จากปากคำที่เล่าความไต่ถามกัน
พบความจริงน่าไหวหวั่น - จากความจริง
...เคยเป็นหมาที่แสนดีและเรียบร้อย
ทุกเช้าเจ้าของเฝ้าคอยพามันวิ่ง
เคล้าเคลียคลอพัวพันแนบเคยแอบอิง
แล้วบางสิ่ง...ก็...กระชากจากมันไป.
เอี๊ยด....โครม...เปรี้ยง...เหวี่ยงร่างกองท้องถนน
ร่างของคน-เคลื่อนย้ายร่าง-เหลือทางไว้
ลมหายใจเฝ้าคอยรอต่อหัวใจ
มันไม่เคยจากไปไหนแต่นั้นมา...
หมาตัวหนึ่งอยู่ริมทางข้างถนน
เห่ารถยนต์ทุกทุกคันที่ขวางหน้า
มันมองเห็นอะไรในแววตา
คอยค้นหา...หา...บางสิ่งที่หายไป
............................................................
โกรธตัวเองที่ชั่วช้ากว่าที่คิด
โกรธชีวิตที่เคยบ้า...น้ำตาไหล
แค่อภัยยังไม่เคยให้อภัย
หวังอะไร...คอยคิดหวัง...จากสังคม?
ปล.หวังว่าทุกคนที่บริโภคข่าวสารทุกท่าน คิดให้ลึกและคิดอย่างมีสตินะครับ ^-^
16 พฤษภาคม 2553 21:59 น.
กระบี่ใบไม้
ณ ที่ ซอยเดียวกันของวันหนึ่ง
อาจไม่ดูลึกซึ้งน่าอ่อนไหว
มาตามหาคนบางคนซึ่งหายไป
คนที่เคยเขียนโลกไว้ด้วยถ้อยคำ
ด้วยถ้อยคำที่งดงามเปี่ยมความหมาย
เปลี่ยนถ้อยคำง่ายง่ายให้ดูขำ
ทั้ง สุข,โศก,เศร้า,ซึ้ง-ตรึงทรงจำ
ด้วยถ้อยความลึกล้ำตลอดมา
ณ ที่ ซอยเดียวกันฉันถามไถ่
คนคิดถึงเขาจากไปสุดปลายฟ้า
ตามคำตอบของทะเลแห่งเวลา
ว่าพบพาพัดพรากย่อมจากกัน
จงกลับสู่ซึ่งสถานวิมานฟ้า
มิ่งขวัญหล้าเข้าสู่แคว้นเขตแดนสวรรค์
จงเปี่ยมสุขด้วยฤดีที่นิรันดร์
กลับสู่โลกที่เคยฝันนิรันดร
ขอให้ซอยเดียวกันเฝ้าฝันนี้
สุขดั่งทิพย์ราตรีสโมสร
ถ้อยบรรเลงเพลงฟ้าสถาพร
หลับพักผ่อนสู่นิทราตราบฟ้าดิน
หวังว่าซอยเดียวกันที่ฝันไว้
จงเป็นซอยแห่งหัวใจไม่จบสิ้น
ตามแม่แบบแห่งอักษรสะท้อนยิน
ชนะโลกด้วยดวงจินต์ที่งดงาม
ปล.ท่านจากไปด้วยโรคลูคีเมียเฉียบพลัน ณ วันที่ 16 พ.ค.2553 ตั้งศพ ณ วัดธาตุทอง