5 สิงหาคม 2553 14:53 น.
กระบี่ใบไม้
อุบาสกหลบฝนอยู่ชายคา
พระอาจารย์กางร่มมาและเดินผ่าน
ได้โปรดฉุดช่วยข้าฯเถิดอาจารย์
ข้าจะข้าม (วัฏสงสาร)ได้อย่างไร
อาตมานั้นยืนอยู่กลางสายฝน
แต่เจ้าอยู่ในที่พ้นหาเปียกไม่
เจ้าไม่เปียกข้าจะช่วยเจ้าทำไม
...ข้าต้องไปในที่ที่ข้ามา...
ในตอนนี้ข้าฯก็ออกมากลางฝน
ได้โปรดช่วยให้หลุดพ้นด้วยเถิดหนา
ก็ตอนนี้ไม่ได้อยู่ใต้ชายคา
พระอาจารย์คงช่วยข้าฯได้กระมัง
ดูก่อนเถิดนะท่านอุบาสก
เราท่านอยู่กลางฝนตกกันพร้อมพรั่ง
ข้าไม่เปียกเพราะว่าข้ามีร่มบัง
ที่เจ้าเปียกเพราะเจ้ายังไร้ร่มใด
ไม่ใช่ว่าอาตมาไม่ช่วยเจ้า
ข้าไม่เปียกเพราะร่มเบาช่วยเอาไว้
ที่เจ้าเปียกเพราะว่าเจ้าไม่เข้าใจ
เจ้าต้องไปหาร่มใหม่...ของเจ้าเอง
4 สิงหาคม 2553 21:43 น.
กระบี่ใบไม้
พระสององค์เดินเข้าไปที่ในตรอก
น้ำกระฉอกเปื้อนแผ่นดินก่อนรินไหล
พบหญิงงามหนึ่งกำลังลังเลใจ
เธอจะก้าวเดินอย่างไร...ข้ามโคลนตม
พระองค์หนึ่งก้าวไปทันแล้วพลันอุ้ม
พาข้ามหลุมอันชื้นแฉะและทับถม
พระอีกองค์คงสงสัยในอารมณ์
แต่ยังข่มเก็บไว้ถาม - ตามลำพัง
ท่านถือบวชตามครรลองแห่งผองพุทธ
ถึงที่สุดง่ายและงามยามลุกนั่ง
ถือวิถีแห่งพระธรรมเป็นกำลัง
แบกสตรีนั้นขึ้นหลังได้อย่างไร...
พระองค์นั้นพลันยิ้มให้เปิดใจกล่าว
เราได้วางหญิงสาวอีกฝั่งไว้
แต่ท่านยังคงแบกเขาไว้ทำไม
เราวางแล้วเหตุอันใด....ท่านไม่วาง!!!...
ขอขอบคุณภาพสวยๆของคุณ ใบไม้ในทางช้างเผือก จากเวบ http://www.oknation.net/blog/milkyway/2007/07/04/entry-2
4 สิงหาคม 2553 11:23 น.
กระบี่ใบไม้
วันที่สายฝนซาหลังฟ้าหม่น
ก่อเป็นหยาดหยดสายชลก่อนร่วงหาย
สะพานรุ้งพุ่งจากฟ้ามาเยี่ยมกราย
เกิดเป็นสายเลื่อมระยับงามจับตา
............................................................
ณ ที่หลังฝนซาคราวฟ้าหม่น
กระจ่างแสงแห่งเบื้องบนก็เจิดจ้า
งามวิจิตรส่องเป็นสายคล้ายธารา
เหนือแผ่นดินแห่งมารดาที่อุ้มชู
เราจะข้ามขอบฝัน ของวันหนึ่ง
เอาสะพานรุ้งขึงเป็นเขตลู่
เหนือลัทธิ เหนือประเทศ เหนือเขตภู
ไม่มีความเป็นศัตรูในหัวใจ
เราจะข้ามเขตแดนแว่นแคว้นกว้าง
ก่อเป็นสายของเส้นทางสว่างไสว
ข้ามความแพ้ความชนะด้วยอภัย
ส่งผ่านทุกความห่วงใยในสายตา
เราจะจับมือกันฉันมิ่งมิตร
รับรู้ว่า ทุกชีวิตล้วนมีค่า -
เกิดแต่ครรภ์ คืบคลาน - ผันผ่านมา
คุณบิดร มารดา ค่าแผ่นดิน
เราจะข้ามขอบฝันกีดกั้นโลก
อัปยศ,วิปโยค ให้หมดสิ้น
ทั้งหยดเลือดและน้ำตาไหลบ่าริน
จะเป็นแค่เศษดวงจินต์ที่เลือนราง
เราจะไม่เหยียดหยามความพ่ายแพ้
พร้อมเรียนรู้ทุกข้อแม้ที่แตกต่าง
โลกจะกว้างทางจะไกล...ใจไม่จาง
ที่รอยยิ้มระบายทางเป็นสีทอง
เราจะจับมือกันในวันทุกข์
พร้อมกันผ่านทุรยุคในวันหมอง
ฟ้าสว่างทางไสว - ใช้ใจมอง
โน่นสิ...รุ้ง...สีเรืองรองอร่ามตา
ณ ที่หลังฝนซายามฟ้าหม่น
ยังมีแสงแห่งเบื้องบนที่แจ่มจ้า
แสงเรืองรองที่แจ่มชัดของศรัทธา
เหนือแผ่นฟ้ายังมีฟ้าผืนเดียวกัน
............................................................
และที่สายรุ้งเรืองรองผุดผ่องผ่าน
ยังอาจมีปรากฏการณ์แห่งความฝัน
ตราบโลกมีพรุ่งนี้ที่นิรันดร์
เราจะร่วมรวมเผ่าพันธุ์อย่างภาคภูมิ
รางวัลชมเชยวรรณกรรมการเมือง พานแว่นฟ้า ประเภท บทกวี
ขอขอบคุณภาพสวย ๆ จากเวบ http://www.budpage.com/forum/view.php?id=3474&_SID=svhrfobib
1 สิงหาคม 2553 21:18 น.
กระบี่ใบไม้
จากความฝันเล็กเล็กของเด็กน้อย
ตุ๊กตาตัวจ้อยจ้อยที่เสกสรร
แล้วคนป่วยก็ส่งมาไม่ช้าพลัน
ฉันจะรักษาเธอนั้นสุดหัวใจ
.........................................................
ถึงคนหนึ่งซึ่งผ่านกาลผันผ่านฝัน
เธอยังจำภาพวันนั้นได้หรือไม่?
เธอผู้ซึ่งเต็มด้วยรักและห่วงใย
พกความซื่อถือความใสในแววตา
เธอผู้เคยเดินก้าวตามความมุ่งมั่น
เธอผู้ตั้งความใฝ่ฝันดังปรารถนา
แม้ไม่อาจเลือกเกิดได้ดังใจคว้า
แต่ชีวิตที่เกิดมาก็คือคน
ความอบอุ่นแห่งชุดกราวแสนขาวนั้น
เคยนำเธอเข้าฝ่าฟันในทุกหน
ทุกข์ของเธอก็คือทุกข์ประชาชน
พร้อมจะสู้พร้อมจะทนทุกทิศทาง
อยากรู้สายลมใดในวันนี้?
พรากคุณหมอคนดีให้เหินห่าง
หรือว่าสายน้ำใดมาเจือจาง?
เลือดคุณหมอจึงเลือนรางไม่เหมือนเคย
ภาพคุณหมอใส่เสื้อดำ,ในวันนี้
จารึกผืนธรณี...โอ้อกเอ๋ย
ค่าชีวิตของมนุษย์ถูกละเลย
คล้ายคำเอ่ยดุจคำเพื่อ...เอื้อตนเอง
วันนี้หมอคนดีอยู่ที่ไหน?
ทำไมปล่อยให้คนไข้โดนข่มเหง?
คำตอบคือ....เดินตัวสั่นด้วยหวั่นเกรง
หมอคนเก่ง...จับคนไข้...เป็นตัวประกัน !!!
.........................................................
จากความฝันเล็กเล็กของเด็กน้อย
หมดสิ้นแล้วซึ่งริ้วรอยที่เคยฝัน
จางไปกับดวงฤดีที่ผูกพัน
หมอคนนั้นอยู่ที่ไหน...ใครบ้างรู้?
24 กรกฎาคม 2553 17:35 น.
กระบี่ใบไม้
หนูว่ายน้ำข้ามฟากจากบ้านเกิด
เพื่อหวังเปิดโลกแห่งฝันอันพร่างพร้อย
เบื้องหน้าหนูยังมีครูผู้รอคอย
พวกหนูจะท้อถอยได้อย่างไร
ที่ตรงนี้มีใบไม้มีสายน้ำ
มีไม้ป่างอกงามริมน้ำใส
แต้มภูผาด้วยหมอกหนาวทอดยาวไกล
ไม่เคยคิดว่ามีใครแต่มี ครู
ไร้ถนนทอดยาวสู่ราวป่า
มีเพียงแค่ความเหว่ว้าให้ต่อสู้
อุดมการณ์ล้ำค่าน่าเชิดชู
นำต้นธารแห่งความรู้สู่พงไพร
ครูจากมาสู่ตรงนี้ที่ภูสูง
ที่เมืองกรุงแสงคงพร่างสว่างไสว
แต่ตรงนี้ก็คือเขตประเทศไทย
เหตุไฉนกั้นคนให้ไกลห่างกัน
ครูคงเป็นเช่นแพน้อยที่ลอยล่อง
ส่งเด็กดอยข้ามน้ำนองสู่ฟากฝัน
ครูคงเป็นเช่นสีทองแห่งแสงตะวัน
ส่งผ่านความอุ่นไอนั้นสู่ยอดดอย
หนูว่ายน้ำข้ามฟากมาจากบ้านเกิด
เพื่อหวังเปิดโลกแห่งฝันอันพร่างพร้อย
เบื้องหน้าหนูยังมีครูผู้รอคอย
เธอจะให้ครูท้อถอยได้อย่างไร