27 ตุลาคม 2549 11:15 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
บางเวลา ใจฝั่งหนึ่ง จะเข้าใจตัวเองว่า จะต้องต่างมา ต่างไปกันตามลำพัง แต่หลายเวลาใจอีกฝั่งหนึ่ง กลับโหยหาคนพิเศษ ใครสักคน ที่จะเคียงข้างเรา ได้ทุกสถานการณ์ คนที่จะทำให้โลกโหดร้าย ได้อ่อนโยนขึ้น คนส่วนใหญ่ พบแล้ว แต่ก็ไม่ได้จริงดั่งหวัง เหมือนจะใช่ แต่สุดท้ายไม่ใช่ อะไรสักอย่าง ต้องมี อันทำให้ พรากจากกัน ไปได้เสมอ ที่จริงแล้วในโลกนี้คงไม่มีใครสักคน ที่มีจริง ล้วนฝันเก้อกันทั้งนั้น คนผิดหวัง ก็เป็นคนเหงามากมาย พร้อมที่จะทำอะไร ทดแทน หาใครสักคน เพื่อให้ได้พบ เราต่างหาใครสักคน กันมาตลอด คล้ายบทเพลง ที่กล่าว มีผิดหวัง มีสมหวัง ขณะเริ่มรัก เงื่อนไขไม่มากมาย เท่าที่รักไปแล้ว ธรรมชาติสร้างไว้ให้เป็นคู่ ก็จริง แต่ทว่า ถ้าสองสิ่ง ต่างที่มา ความรักคงไม่ยิ่งใหญ่ พอที่จะชนะมันได้
จึงมีคนเหงา เกิดขึ้นมากมาย ราวกับโลกนี้ไม่ต้องการ ให้ใครอยู่ คู่ใคร เหมือนธรรมชาติลวง แล้วสุดท้ายบอกว่า นี่ไม่ใช่
ใครจะมองเห็น ดวงตา โง่ๆที่โศกเศร้า หากไม่มีน้ำตา หัวใจ คนเหงา มักโง่เขลาเสมอ ในบางเวลาคนเหงา อยากเหลืออะไรก็ได้เพียงน้อยนิด แต่ขอแขน หลายๆข้าง เพื่อสมมุติ ว่าได้ถูกโอบกอด อย่างอบอุ่น
เราเหงา อีกหลายคน คงเหงา บางครั้งมันหายไป แต่หลายครั้งมันกลับเข้ามา ความเหงา ไม่เกี่ยวกับ อายุ เพศ หรือการศึกษา แต่มันขึ้นตรงจาก ตรงหัวใจ ถาม หาสาเหตุหรือ คงไม่มีกระมัง อาจจะมีบ้างเพราะคนหนึ่ง ไม่อยากอยู่กับ อีกคนหนึ่งแล้ว หรือไม่มีใครอยู่ด้วยสักคน หรือเพราะ คนสองคนอยู่ไปแกนๆ
บางครั้ง เราใช้การ ทำงานหนัก เที่ยวหนัก หาอะไรทำ เพื่อไม่ให้ฟุ้งซ่าน เพื่อลืมใครสักคน ที่อาจไม่เคยมีอยู่จริง หรือค้นหาใครสักคน ที่อาจมีอยู่จริง อย่างเฝ้าคอยโดยลืมไปว่า ฟ้าเบื้องบน กำหนดชีวิต ลงมาแล้ว
บางเวลา ใจฝั่งหนึ่ง ก็เข้าใจว่า เราต่างมา แล้วก็ต่างไป แต่ใจฝั่งหนึ่งไม่ยอมรับความจริง การมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะใครสักคนนี่แหละ ทำให้คนใจแข็งหัวใจหล่น สู่พื้น แล้วแตกได้ง่าย
ถ้าหล่นแล้วไม่แตก---------- ไม่มี
21 ตุลาคม 2549 23:48 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ปากเป็นอวัยวะ สำคํญ ของ มนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการพูด ซึ่งมีหลายประเภท ในลักษณะ การพูดที่ แตกต่าง กันไป
ประเภท พูดเพราะเหลือเกิน หวานจนเลี่ยน เอียนจนอยาก จะอาเจียน ขาทุกคำ ทั้งที่ก็ มีอยู่2 ขา ไม่รู้จะหา ขาไปถึงไหน เคยบรรยาย กับ วิทยากร ท่านหนึ่งพูดเพราะมากๆๆ กี่คำกี่คำ ลง ขาทุกคำ เราได้แต่นั่งนึกในใจ ถ้ามีบรรยาย กับท่านอีก พรุ่งนี้ จะแนะนำ ให้ผู้มาฟัง โขนขนหน้าแข้ง มาให้หมด จะได้โชว์ขากันได้ อย่าง ไม่เคอะ ไม่เขิน
ประเภทพูดเพราะเกินไป ทั้งต่อหน้า และหลับหลัง ขนาดนินทา ยังใช้คำไพเราะ ได้ขนาดนั้น โอ้....คงเป็นความสามารถ พิเศษ ที่ลอกเลียนแบบกันอยาก
อีกประเภท ก็ พูดไม่เพราะ มึง มา พา โวย ไอ้ อี แต่แปลกน่ะ ผู้ชายพูดคำเหล่านี้ กลับบอกว่า สมเป็นชายชาตรี แต่เวลา อิสตรี พูด กลับบอกว่า ฟังไม่ได้ พูดจาไม่ไพเราะแถมหยาบคาย
เจอ ผู้ชาย ประเภทนี้ ชอบใช้ปาก อวดอ้าง อวดอำนาจ อวดบารมี ในงานหนึ่ง เรา ก็นั่งของเรา อยู่ดีๆ ไม่สนใจ ตะโกนข้าม โต๊ะ ด้วยอาการเมามาย ...คุณรู้ไหมผมลูกใคร....เงียบ...สักพัก...มีคนเคลียร์...ดังขึ้นมาอีก..
มึงรู้ไหมกูลูกใคร...สุภาพสตรีอย่างเรา...ได้แต่ตอบในใจ...มึงก็ลูกแม่มึงสิ...เงียบๆ
แต่สุภาพสตรี เราต้องสงวนท่าที ตอบด้วยท่าทีสุภาพ พร้อมยิ้มหวานให้ คุณต้องกลับไป ถามแม่ของคุณ เองว่า...หนูลูกใครจ๊ะ...
ประเภทชอบ ประชดประชัน ช่าง คิด พูดอะไรไป ตอกกลับ ได้อย่างเจ็บแสบ เหน็บแหนม ได้อย่างเจ็บใจ ช่างสรรสร้าง บางคนก็พูดเพราะเป็นคนสนุกสนาน แต่บางคนคง พูด เพราะมีปม อะไรอยู่ในใจ
ปากเป็นส่วนสำคัญ หลายอย่าง สำหรับ ในการพูดนั้น คงต้องรู้จัก เลือกที่จะใช้ ในการทำงาน เราควรจะพูดแต่เท่าที่จำเป็นเท่านั้น ชีวิตจึงจะเป็นสุข
ส่วนคน ที่ร่าเริงสนุกสนาน อาจใช้ปาก พุดคุย ทำให้คนอื่น มีความสุข ไปกับตัวเองได้ แล้วแต่ ศิลปะในการพูดของแต่ละบุคคลเป็นเช่นไร ปากของใครก็หาวิธีใช้ให้เหมาะสม กันเองเอง แล้วกันค่ะ
17 ตุลาคม 2549 18:05 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
.
กว่าจะรู้ว่า... .โลกนี้มันกว้างใหญ่ ต่อเมื่อเราได้.....ออกเดินทาง
กว่าจะรู้ว่า... .ความหมาย........ของฟ้าหลังฝน ต่อเมื่อเราผ่านพ้น.....มันไปได้
กว่าจะรู้ว่า......ในหนังสือ....มีอะไร....ต่อเมื่อเราได้......ลองเปิดอ่าน
กว่าจะรู้ว่า......เสียงหัวเราะ มันมีค่า ต่อเมื่อเราเสียน้ำตา.....ในสักวัน
กว่าจะรู้ว่า.....คำที่เรียกความคิดถึง ต่อเมื่อความคิดคำนึงมีแต่ ....ใครคนนั้น
กว่าจะรู้ว่า.....ใจผูกพันธ์......ต่อเมื่อสูญเสียคนๆนั้นไป
กว่าจะรู้ว่า.......ไม่เงียบเหงา......เพราะคุยได้ทุกเรื่องราวอย่างเข้าใจ
กว่าจะรู้ว่า....อ้างว้างเพียงใด......เมื่อเขาทำเลือนหายไปจากชีวิตเรา
กว่าจะรู้ว่า.....เรายังมีเรื่องอีกมากมาย....เราต้องเปิดใจยอมรับมัน
กว่าจะรู้ว่า.....ดอกไม้บาน.....เราต้องติดตามต่อไป
แล้วเราจะรู้ว่า....เราหมดความหมาย.....ต้องทำใจให้ชาจนเริ่มชิน
มนุษย์ทุกคน มีกลไก ความคิดซับซ้อน เรื่องราว หลายหลาก ต่างเรื่อง ต่างมุม เหมือนวนเวียน บางที เหมือนเสียใจ บางครั้ง เหมือนดีใจ หลายครั้ง ล้มแล้วลุก ยืนสู้ขึ้นใหม่ได้ เรื่องราวที่มี ทั้งดีและร้าย ผ่านพ้นไปได้ ชีวิต ดำเนินต่อไป สร้างความแข็งแกร่ง และเกราะป้องกันตัวเอง ได้อีกชั้นหนึ่ง บางครั้ง ความไม่ไว้ใจ กลับเป็นเรื่องดี
บางที ความรักกลับเป็น เรื่องเลวร้าย มุมมอง แตกต่างกันไป
กว่าจะรู้....เรื่องราว...กว่าจะผ่านพ้น....มีอีกกี่หน....อีกกี่ครั้ง....เหมือนบททดสอบ
คงไม่นาน และยังดำรงชีวิต อยู่ได้กว่าจะรู้....ชีวิตคนแต่ละคนคืออะไร.....คงต้องตอบหัวใจ ตัวเองกัน เอาเองหล่ะทีนี้.....ว่ารู้หรือไม่...หรือได้แค่ว่า...กว่าจะรู้....
11 ตุลาคม 2549 16:43 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
เคยนึกเล่นๆ ตั้งข้อสังเกต ผ่านๆ เรื่องราว ใน365 วัน มีกี่วัน ใน1ปี ที่หัวใจ เราอิ่มอุ่น และเป็นสุข ที่สุด วันที่หัวใจเราแหลกสลาย มีระยะยาวนาน แค่ไหน บางคนมี ความสุข มีเพียง1 วินาที แต่มีความทุกข์ เป็นร้อย เป็นพันวัน
ความผิดหวัง ความสมหวัง การต่อสู้ การยอมแพ้ ความเบิกบานใจ ความหดหู่ และความรู้สึก อีกหลายประการ คือ สองฝั่งชีวิต ที่คนเรา ไปเกี่ยวเนื่องด้วย สำหรับคนไม่สู้ คือคน ไม่มีหวัง บางครั้งเรา อาจแอบหวัง อย่างต่อเนื่องได้ แต่บางทีเราก็ เลือก ไม่ได้ที่จะสิ้นหวัง อย่างยาวนาน
จงอยู่อย่างมี ความหวัง คำคำนี้ง่าย แต่ค่อนข้างยาก ที่จะทำ ผู้คนจำนวนมากสิ้นหวัง อย่างเรื้อรัง อยู่อย่างไร้พลัง เหมือนอยู่ในซากของชีวิต
สาเหตุของ คนที่ใกล้จะตาย เหลือเพียง ลมหายใจ สุดท้าย มีอยู่ หลายประการ
สาเหตุหลัก ๆ ก็คือ การสูญเสีย ความหวังอย่างแรง ไม่สมหวัง ในสิ่งที่คาดหวัง
ยอมรับความเป็นจริง จากบางอย่างไม่ได้ ถูกชะตากรรม เล่นงานหนัก ๆ กับชีวิต
หรือร่างกายอยู่ ในช่วงอ่อนแอ ทำให้ภูมิคุ้มกัน ของความเข้มแข็ง เปราะบาง
ภูมิคุ้มกันที่ทุกคน ควรจะมีคือ เข้าใจโลก และเข้าใจชีวิต เรียนรู้ที่จะอยู่ ได้ด้วยตนเอง นี่คือสัจธรรม ของชีวิต เรามักได้ยินคำพูด คุ้นหูว่า ระยะทางของความสุข แสนสั้น ช่างต่างกัน
กับช่วงเวลาของ ความทุกข์ ที่มักทอด ยาวออกไป ไกลแสนไกล คงเหมือนฉัน ที่เคยรู้สึกว่า ถ้าวันนี้รู้สึก เหนื่อยล้า กับการงาน หรือวุ่นวายใจ
กับความทุกข์ ฉันจะตรงดิ่ง ไปที่ที่นอน แล้วล้มตัวนอน
เหมือนตัวเอง พลัดตกไป ในบ่อลึก และ หลับสนิท เหมือนไม่ได้นอน มานาน แสนนาน ในความทุกข์ ที่กล่าว บางครั้งต้อง อาศัยพลังใจ และเรียนรู้ที่ จะแก้ไข คงพอจะคิด จำแนกได้ดังนี้ 1.ตั้งสติ 2.พร้อมยอมรับ 3.จมอยู่กับความทุกข์เศร้า
4.มองไม่เห็นทิศทาง 5.เสียใจ 6.หาทางออก 7.เรียนรู้วิธีแก้ไข ,9,10. ร้องไห้และร้องไห้
ในช่วงเวลา 1 ปี 1 เดือน หรือ 1 วัน ปริมาณของหวัใจ คน อาจแตกสลาย เพิ่มขึ้น หรือลดลง เมื่อวาน อาจรู้สึก อิ่มอุ่นหัวใจ คล้ายมี ใครสักคน โอบกอด ตลอดเวลา
แต่วันนี้กลับรู้สึก โดดเดี่ยว เคว้งคว้าง อ้างว้าง เหมือนกับว่าหัวใจ แตกสลาย
คนเรา มีพลังในการ เผชิญแรงเสียดทาน ของชีวิตไม่เท่ากัน บางคนอาจ สิ้นหวังง่าย บางคนอาจ สิ้นหวังยาก
การอยู่ในโลกมนุษย์ นี้ให้ได้ คือ การอยู่อย่าง มีความหวัง คล้าย ๆ กับการโกหกตัวเอง ให้แนบเนียน เหมือนเอา ความฝันมาต่อ ลมหายใจ เพราะยังมีหวัง และมีฝัน ที่อยากจะทำ