25 กุมภาพันธ์ 2553 22:14 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ในหลายวัน ในชีวิต ที่คงมีใครบ้างที่คร้าน และ เบื่อ กับภารกิจ ชีวิต ประจำวัน ที่ซ้ำซากจำเจ กับสิ่งเดิมๆ คงต้องให้ดำเนินไปตามครรลองของกรอบและกฎเกณฑ์ของชีวิต
บางคน ทำงานจนเวลา บางวันไม่พอ อยากจะยืดเวลาออกไปอีกมีความรู้สึกว่า วันหนึ่ง ผ่านไปไวเหลือเกิน
บางคน นั่งว่าง ทั้งวัน บางทีวันหนึ่ง มีงานให้ทำเรื่องเดียว หรือ ทำได้ เรื่องเดียว ทำซ้ำๆอยู่เรื่องเดียวไม่ไปไหน
ชีวิตคนช่างแปลกนัก เมื่อก่อน ฉันมีชีวิต เหมือนเครื่องจักรกล ที่ห้ามเจ็บ ห้ามป่วย ด้วยภาระหน้าที่หลายอย่างในหนึ่งวัน เช้าขึ้นมาต้องตื่นแต่ตีห้าเพื่อจัดการอะไรหลายอย่างให้เรียบร้อย ใช้ชีวิตประจำวันกับการติดต่อธุรกิจ
พูดคุย ในรถต้องมีกาแฟ เบอร์ดี กระป๋องสำเร็จรูปกับขนมปังชิ้นเล็กๆและน้ำดื่มตราสิงห์ในรถตลอด หาเงินวันหนึ่งได้หลักหมื่นแต่ไม่มีเวลาหาอะไรดีๆทานหรือว่าได้ทานอาหารอย่างสบายอารมณ์ ชีวิตประจำวัน มีแต่เร่งรีบ เสียจนไม่รู้ว่า เวลา หมดไปตอนไหนกัน
กว่าจะได้นอนเกือบตีสองตีสามทุกวัน
แต่พอทุกอย่างจบ บริษัทล้มละลาย ความรับผิดชอบต่อลูกน้องหลายชีวิตหลุดจากวงจรเดิมไป
ฉันมีความสุข อย่างประหลาดล้ำ นั่งจิบกาแฟ ที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นๆ อ่านหนังสือพิมพ์สักฉบับ ทักต้นไม้ ดอกไม้ ที่ปลูกไว้หน้าบ้าน จูบลาตุ๊กตาตัวโปรด ก่อนไปทำงาน
แต่บางวันความรู้สึก ก็ล่องลอย ไป ซึมเศร้า ประหลาดเหลือใจ ฉัน เคยมีรถ มีบ้าน มีทรัพย์สินมากมาย ฉันทำไมต้องสูญเสียทุกอย่างและมาเริ่มต้นใหม่ ทั้งที่ฉันไม่ผิดอะไร ฉันแอบอิจฉาคนที่มีพร้อมทุกอย่าง
แต่บางวันความรู้สึกกลับบอกว่า ไม่มีรถก็ดีเหมือนกัน ไม่ต้องหาที่จอดให้มัน ไม่ต้องเป็นภาระหาอาหารที่เป็นน้ำมันให้มันดื่ม
ขึ้นรถประจำทางสบายจะตายไป ไม่ต้องขับเองแถมมีคนขับให้นั่งสบายใจ
ไม่มีทรัพย์สินก็ดีเหมือนกัน ไม่ต้องห่วง ต้องระวังกลัวหาย
แต่ไม่มีบ้านนี่สิ ปลงไม่ได้เลย ฉันตั้งความมุ่งมั่นเสมอว่า สักวันต้องมีบ้าน ที่พออยู่ได้ ไม่ต้องโอ่อ่าอย่างที่เคยมี
คนเราอิจฉาได้ แต่อย่าริษยา เอาความอิจฉาเป็นแรงกระตุ้นให้ต่อมความรู้สึกทำงาน
ความคิดใคร ก็ของ คนนั้น ใครจะคิดอย่างไร ไม่ผิด จะผิด ก็ตรงที่ว่า ใครเอาความคิดมาทำร้ายตนเองก็แค่นั้น
ทุกคนมีอิสระ ที่จะคิด ที่จะทำ ตามใจปรารถนา คนอยู่อย่างมีความหวัง ชีวิตก็จะมีค่า มีอะไรที่เราอยากทำ มีแรงจูงใจ แต่ได้แต่คิด ไม่ได้ลงมือกระทำ ความคิด ความฝัน ก็สูญเปล่า อยู่ที่ตัวเรา เองว่า รู้จักเรียนรู้ที่จะต่อสู้กับชีวิต ทุกคน ย่อมมีจุดมุ่งหมาย มีความฝัน อยู่ที่ใครจะทำฝันให้เป็นจริงหรือว่า ทิ้งความฝัน ไว้ กลางทาง
22 กุมภาพันธ์ 2553 13:08 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
มาคิดดูให้ดี ชีวิตคนเรา มันสั้นนัก คนบางคน ทุ่มเทเวลาให้กับงานจนไม่ ยอมเหลียวหลัง มอง
บุคคลในส่วน ที่ตัวเองเคยรัก คนบางคนแสดงความเห็นแก่ตัว โดยยึดถือเรื่องของ ตัวเป็นใหญ่ คนบางคนรับผิดชอบงานที่ทำได้มากมาย แต่รับผิดชอบในเรื่องราวปัญหาที่ตัวเองก่อไม่ได้ ทำให้เกิดความกลัว และคิดเอาตัวรอด การคิดไปเอง ความขี้ระแวง บางครั้งก็ทำลาย และ ทำร้ายความรู้สึก ของคนอีกหลายคน และในอีกหลายคนมีงานรับผิดชอบมากมาย จนลืมรับผิดชอบตัวเอง ให้รางวัลชีวิตตัวเองหรือแม้แต่ครอบครัว อาจจะด้วยปัจจัยหลายอย่าง เช่นปฎิเสธใครไม่เป็นและมักจะหาเหตุผลมารองรับสิ่งนั้นเสมอ
มนุษย์ทุกคน มีเวลา24ชั่วโมง เท่ากันหมด ถ้าบริหารเวลาตัวเองไม่ได้คงถือว่าโง่เขลา และหาเรื่องเอาตัวรอด หรือหนีปัญหา ลองสำรวจตัวเองดูกันสักครั้ง
ว่าในส่วนที่คุณกระทำ ในส่วนที่คุณ รับผิดชอบ คุณแบ่งเวลา หรือคุณไม่มีเวลา หรือคุณทำตัวเอง ให้ยุ่งเพราะ ต้องการบอกว่า....ไม่มีเวลา....โดยการปัด ความรับผิดชอบ หนีปัญหากันแน่
ถ้าในสักวันคุณ ต้องสูญเสีย กับคำว่า ไม่มีเวลา และไม่เคยคิดจะถนอมสิ่งที่ตัวเองครอบครองไว้....คุณจะโทษว่า....เพราะไม่มีเวลาไม่สามารถ ทำอะไรได้มากมายกว่านี้ เพราะไม่เคยคิดจะทำ....ถึงวันนั้นเวลา หรือตัวคุณกันแน่....ที่ต้องรับผิดชอบ และยอมรับในส่วน ของคำที่ว่า......ไม่มีเวลาให้แก่กันจริงหรือ.......
15 กุมภาพันธ์ 2553 02:04 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ในช่วงวาเลนไทน์ที่ควบคู่ตรงกับวันตรุษจีน ตัวเองได้ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้เจ้า
ไปทำบุญถวายสังฆทาน และผัดหมี่สัวหม้อใหญ่ไปให้พระอาจารย์ฉันท์และให้สอนอยู่ที่สำนักงานทานกันเพื่อความเป็นสิมงคล
พอมีเวลาเหลือ กระประดิษฐ์ดอกไม้ ทำรูปหัวใจ ทำกระถางดอกไม้ประดิษฐ์ตกแต่งเพาะต้นไม้ต้นเล็กๆด้วยความสุขเพาะใส่ความรักลงไปในของทุกสิ่งที่ทำด้วยมือ ขายต้นไม้ทุกต้นด้วยราคา ต้นละสิบบาท
เขียนป้ายว่าขายความรักสิบบาททุกต้น ผู้คนผ่านไปผ่านมายิ้มและมาทักทายกันเป็นระยะ บางคนต่อสองต้นสิบห้าบาท บอกว่า ต่อความรักได้ไหม
ลูกค้าหลายคนเป็นเด็กๆประถมน่ารักน่าชังมาอุดหนุนแวะเวียนมาคุย ก็แจกขนม แจกผลไม้ ชวนกินข้าวที่บ้านด้วยกันอย่างมีความสุข
เด็กๆในจำนวนนั้นบางคน เป็นลูกคนถีบสามล้อ บางคนเป็นลูกนายพัน บางคนเป็นลูกกรรมกร ดีใจที่ได้สอนเด็กหลายรูปแบบ
เด็กผู้หญิงที่เป็นลูกนายพัน ซื้อแล้วซื้ออีก จนตัวเอง ถามเหตุผล เค้าบอกมาว่า พ่อแม่ไม่มีเวลาให้ แม่สังสรรค์เล่นไพ เข้าร้านเสริมสวย พ่อไม่เคยอยู่บ้าน ให้เงินอย่างน้อยวันละสองร้อยบาท วันนี้ให้ห้าร้อยบาท แม่บอกว่าจะไปไหนก็ไป เค้าซื้อของทุกสิ่งที่เราประดิษฐ์ขาย แต่ก็เลือกที่จะขายของที่ราคาหลักร้อยจะไม่ขายให้ ใหซื้อราคามากสุดไม่เกินยี่สิบห้าบาท แล้วให้ซื้อไม่เกินห้าสิบบาท บอกกลับไปว่า เงินที่เหลือ จากซื้อของต้องให้พ่อแม่ก่อนนะคะลูก แล้วบอกว่า หนูรัก พ่อกับแม่ หนูเอาเงินนี้ ซื้อเวลา ซื้อความรักของพ่อกับแม่ให้หนูบ้างได้ไหม
เด็กๆมีหลายประเภท บางคน ก็น้อยใจตัวเองที่เกิดมาจน บอกไปว่าต้องขอบคุณความจนที่ให้เรารู้ค่าการใช้ชีวิต
เด็กระดับมหาลัยที่ชอบคุญด้วยเป็นประจำ บางคนบอกว่า อายที่มี พ่อแม่เป็นชาวนา เลยไม่ให้มาหาที่หอพัก เพราะอาย กลัวเพื่อนล้อ
ก็ต้องบอกเหตุผลว่า ถ้าไม่มีชาวนาเราก็ไม่มีข้าวกิน ชาวนาน่ะมีค่ามีความสำคัญสำคัญที่สุดลูกต้องภาคภูมิใจมากกกว่าใคร
ความรัก ความสุข จริงๆแล้ว ซื้อขายกันไม่ได้คะ แต่อยู่ที่ตัวเรา มีความรักในตัวตนทุกคน มองความรักอย่างอ่อนโยนและมีคุณค่าแล้วเราจะรู้คุณค่า
ในคำว่า.....รัก....
7 กุมภาพันธ์ 2553 15:50 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ขณะนี้คนไทยกำลังเครียดทั้งเรื่องการเมืองและเศรษฐกิจ จึงขอนำภาพซึ้งมาก มาให้ชมกัน หวังว่าคงไม่ว่ากันนะ คะ ใครมีภาพซึ้งมากกว่าก็นำมาลงแลกเปลี่ยนกันได้คะะเพราะว่าแค่ดูก็รู้ว่า...ซึ้งจริงๆ..
ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมซึ้ง
ภาพนี้ ดูที่ไรซึ้งมาก
1 กุมภาพันธ์ 2553 14:51 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
เสียงโทรศัพย์มือถือ ดังเป็นระยะ จากนักศึกษาที่เปลี่ยนกันไป เดี๊ยวชาย เดี๊ยวหญิงโทรมา...อาจารย์...เมื่อไรจะเขียนสักที รอดูรูปและงานอยู่น่ะ
อาจารย์..ออกจากที่กบดานในถ้ำ รึยัง,,,,แถมเจ้าพวกนี้คิดว่าเราเป็นมนุษย์ถ้ำกระมัง
ต่าย....รออ่านอยู่น่ะที่คือนักศึกษาที่เป็นเพื่อน
เออ...ทวงกันเข้าไป เขียนก็เขียน
เริ่มจากต้นทางรถออกจากวัดพระแก้วเชียงราย ในรถเลยจัดกิจกรรมห่อของขวัญไปให้นักศึกษาเล่นเกมส์
เริ่มกมส์แรกค่ะ....เปลี่ยนจากสุภาษิต จากคำว่าน้ำเป็นกระเทย
ทั้งรถ เงียบกริบ เอาไงหล่ะทีนี้เรา
ยกตัวอย่างให้ฟังค่ะ เช่น น้ำขึ้นให้รีบตัก
เปลี่ยนเป็นกระเทยขึ้นให้รีบตัก
หรือว่า น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย
เปลี่ยนเป็นกระเทยร้อนปลาเป็น กระเทยเห็นปลาตาย
ทีนี้ได้ผล หน้าเริ่มนิ่ว คิ้วเริ่มขมวดทั้งรถ สะใจกระต่ายจริงอบยิ้มขำๆๆให้ตัวเองเล็กน้อย
ก็ตอบกันมากันไปของรางวัลก็ให้มาเลือกเอาเองจะได้ไม่โทษเราว่าได้ไม่ดี เลือกเองนี่นา ....ว่าแล้วแอบชมตัวเอง,,,ทำไมเราฉลาดอย่างนี้)
ร้องเพลงกันไปตลอดทาง เพลงจบเอาหล่ะ...อาจารย์ต่ายขึ้นเพลง แหม..ทั้งทริปจากเชียงรายถึงพะเยา เหมาให้เราคนเดียว
มิเป็นไร...ขอมาจาดปาย.....
ถึงที่หมายปลายทางส่งก็ส่งก็ส่งกีฬาแต่ละประเภท
ประเภทแรก เบตอง กรรมการท่านว่า เชิญทุกท่านหาอุปกรณ์เอาเอง สนามเลือกตามสบาย กรรมการเป็นกันเอง เพราะผมก็จะแข่งครับ
เจอกับเชียงใหม่ แพ้ไปตามระเบียบแต่ได้มิตรไมตรีกลับมาคุ้มค่ากว่าเยอะ
มจร.ห้องเรียนวัดพระแก้วเชียงรายเข้ารอบอะไร เชียงใหม่ยกขบวนกองเชียร์ไปเชียร์เชียงรายชิดขอบสนามทุกประเภท
แลกเสื้อกันไปมาระหว่างเชียงใหม่และเชียงราย
กองเชียร์เชียงรายสุดยอด ขอบอก
มีเอ็มพีสามประจำคณะ ขึ้นเพลงไหนร้องได้หมด เต้นตลอดงานร้องตลอดงาน
แต่ที่ประทับใจคือ นักศึกษาร่วมแรงร่วมใจกันอย่างดีทั้งปีหนึ่งปีสอง
แอบมองแอบเก็บภาพกระต่ายมีความสุขจังเลย
ฝากความคิดถึงส่งไปให้ทุกคนนะคะที่ไปด้วยกัน
ว่า...ความคิดถึงกำลังเดินทาง,,,..
อาจารย์กระต่ายมาทำงานพิจิตร คิดถึงเชียงรายจะแย่อยู่แล้ว
ที่สำคัญ...ห่วงต้นไม้ในห้องสมุด...
พูดถึงเชียงรายคนๆที่พิจิตรแซว ,,,เชียงรายดี เชียงรายสุดยอด
เออ...ก็จะบอกว่า..อยู่มาหลายที่แต่ชอบเชียงรายมากๆเป็นชีวิตจิตใจอยากจะเกิดเป็นคนเชียงรายจริงๆๆ...น่ะไม่ได้โม้.....