15 สิงหาคม 2549 19:46 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
>เคยมั้ยที่จะมี! คุณเคยมีคนแบบนี้ไหม
>
>เคยมั้ยที่จะมี คุณเคยมีคนแบบนี้ที่ไม่ ใช่พ่อแม่พี่น้องหรือยัง?
>ตอบตัวเองให้ได้ว่าใคร
>
>เคยมั้ยที่จะมี...คนให้อภัยคุณทุกอย่าง
>เคยมั้ยที่จะมี...คนอยู่เคียงข้างคุณเวลาที่คุณเสียใจ
>เคยมั้ยที่จะมี...คนจดจำความเป็นคุณได้ทุกอย่าง
>เคยมั้ยที่จะมี...คนยอมเสียสิ่งที่รักเพื่อคุณ
>เคยมั้ยที่จะมี...คนเห็นคุณสำคัญกว่าเพื่อน
>เคยมั้ยที่จะมี...คนที่คุณอยู่ด้วยเฉย ๆ แล้วมีความสุข
>เคยมั้ยที่จะมี...คนที่มั่นใจในคำว่ารักของคุณ
>เคยมั้ยที่จะมี...ไม่อายเมื่อเดินข้างคุณ แม้คุณหน้าตาไม่ดีก็ตาม
>เคยมั้ยที่จะมี...คนที่ทนคุณได้ไม่ว่า คุณจะด่า จะว่า เค้ ายังไง
>
>เคยมั้ยที่จะมี...คนรับได้ในสิ่งที่คุณเป็นไม่ว่าจะมีคนมาว่าร้ายคุณยังไง
>เคยมั้ยที่จะมี...คนที่เห็นความผิดของคุณเป็นเรื่องน่ารัก
>เคยมั้ยที่จะมี...คนที่คุณอยากตื่นมาแล้วก็เจอกันตลอดเวลา
>เคยมั้ยที่จะมี...คนที่คุณคิดถึงเค้า แม้ว่าคุณไม่เหงาก็ตาม
>เคยมั้ยที่จะมี...คนที่คุณคิดถึงคนแรก เมื่อคุณทุกข์ใจ
>เคยมั้ยที่จะมี...คนที่คุณรู้ว่า เค้าช่วยให้คุณสบายใจได้
>เคยมั้ยที่จะมี...คนแคร์คุณมากมาย ไม่ว่าคุณจะทำร้ายเค้า ยังไง
>เคยมั้ยที่จะมี...คนที่รับรู้ตัวตนที่แท้จริงของคุณ
>เคยมั้ยที่จะมี...คนที่ยังรักคุณแม้คุณไม่เห็นความสำคัญของเค้าเลย
>
>ถ้าคุณเคยมีเค้าคนนี้อยู่จริง คุณควรถนอมเค้าไว้ให้ดี
>ถ้าคุณสูญเสียเค้าไปคุณเองที่จะเป็นคนเสียใจ
>
>ความหมายของหัวใจ เราอาจจะหาความหมายของทุกสิ่งมาตลอดชีวิต
>แล้ววันหนึ่งเราก็พบว่าเพียงแค่มีบางสิ่งชีวิตก็มีความหมายแล้ว
13 สิงหาคม 2549 21:23 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
เริ่มต้นด้วยสีแสงวันใหม่ เริ่มรวมสมัครพรรคพวก แม่บ้าน สาวสวย สาวโสด ชายโสด ชายงาม หัวหน้าชุมชน กลุ่มผู้นำสตรี ด้วยรถบัส 2 คัน ในเวลา6โมงเช้า ด้วยคนจำนวน 60 กว่าชีวิต มีเจ้าหน้าที่ สารธารณสุข ฝ่ายแผน นโยบาย นิติกร
รถเริ่มเคลื่อน อาการเมาไมค์ เริ่มกำเริบ โดยเริ่มจากตัวผู้เขียน เพราะได้รับมอบหมาย จากนาย ให้ทำหน้าที่แทน เพราะนายติดงาน ด้วยคำสั่งที่ว่า
ดูแลดีๆน่ะ อย่าให้ตกน้ำ ตกแพ เรารึ ร่ำร้อง เถียงในใจ ไม่ต้องกลัวค่ะ ที่ไปด้วยกัน พกห่วงยาง ประจำตัวกันเป็นแถว
พอขึ้นรถแบ่งหน้าที่คนละคัน รถผู้เขียนเหรอ ขาดไม่ได้ เจ้าประทีป เพราะเงินอยู่กับเจ้าคนนี้ เดี๊ยวเราอด ตามด้วย อรรถพล นิติกร ฝ่ายกฎหมาย เพื่ออะไรไม่ชอบ มาพากล ส่งไปรับมือก่อน ตามประสาคนรอบคอบ มีสาวสวยเจ้าอ้อ อีกหนึ่งนาง สวย โสด สดสวย แต่นั่งเงียบ เพราะเหนื่อยกับงาน ที่เตรียมกันมาหลายวัน
ส่วนคันที่สอง มอบให้ หมอนา เจ้ารุ่ง สาวโอ๋ สวยอีกแระ โสดอีกด้วย แต่รวยไหมไป สอบถามกันเองค่ะ
เมื่อบอกรายละเอียด จุดพัก ที่ทานข้าว ทีนี้ หลับไม่ลง นักร้องในรถ ผู้เขียนเต็มคันรถ ร้องกันไม่หยุด ไม่หย่อน แถมมีแบบกดเพลง ให้เรากดกับเจ้าอรรถ แบบไม่ยั้ง กะจะร้อง ให้ถึงกาญจบุรี เลยน่ะนั้น เล่นกัน เต้นกัน อำกันในรถ สนุกสนาน จากที่ผู้เขียนจะหลับเลย ไม่มีใครหลับขืนหลับ ไมค์หาย ว่ากันไป แบบอบอุ่น เฮฮา
จุดแรก ไปดูงานที่อบต.ที่กาญจบุรี ไม่บอกชื่อค่ะ เดี๊ยวดังกว่าเรา เพราะมีคนเก่งเยอะจริงๆค่ะ ที่นี่ พูดกันเก่งจริงๆบรรยายฟังไป หัวเราะไป มีฝนตกประปราย เป็นระยะ ทานข้าวกันที่นี่
แล้วต่อด้วยไปดูปุ๋ย ชีวภาพ ที่ทำจากมูลวัว มูลหมู ปั้นเป็นลูกกลอน ถ้าไม่บอก คิดว่าเป็นยาลูกกลอน สมุนไพรแน่ๆ
ต่อด้วยสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราชพระนเรศวร มีเวลาเพียง นิดเดียว รีบๆถ่ายรูปๆๆเดิน กลัวไม่ทันลงแพ ดูพระอาทิตย์ตกดิน กินอาหาร ชมความงามตามฝั่งสองแม่น้ำ
แต่ ผู้เขียนเอง เข็ดอีกนาน ไม่ใช่ไม่สวยน่ะค่ะ สวยมาก แต่เวลาแพแล่นเราเมาแพ มีลูกน้อง มาเดินดูด้วยความเป็นห่วง พร้อมเสียงเยาะเย้ยเป็นระยะ...อิๆๆ...เค้าเมาเบียร์...เมาเหล้า...หัวหน้าเราเมาแพ แล้วอ๊วก..5555...
ยอมได้ไง...ฆ่าได้หยามไม่ได้...พยายาม ลุกหลายครั้ง อัดทั้งยาแก้เมา ควบพาราอีก2เม็ด...ไม่ไหวจริงต้องลงนอนนั่งไม่ได้เลย..หลับได้สีกงีบ
เปลี่ยนคนมาอีกแระ ด้วยวลีเดิมประโยคเดิม ตอกย้ำกันเหลือเกินลูกน้องสุดที่รัก กับ ลูกบ้านทั้งหลาย ลุกสิ เคยยอมแพ้ใครที่ไหนใครที่ไหน แพนอน พ่วงแพเธค ต้องลากสังขารไปดิ้นกับเค้า แล้วแอบมา อ๊วก เป็นระยะ...ห่างบ้างถี่บ้าง
หายทีไร ดีเจเปิดแผ่นดันแซวทุกที เฮ้อ...ต้องกลับ...ไปร่วมวงสังคนากันใหม่
เต้นไปปวดหัวหนักกับท่าเต้น หมอนาเหลือเกิน นึกในใจ วิญญาณ เด็กเข้าสิง เจ้านารึไงนี่ เดี๊ยวกระโดด เดี๊ยวกำมือ หมุนๆ เดี๊ยววิ่งรอบวง ตายๆๆ
อิฉัน ไปสเต็บไม่ถูกเลยไอ้นาเอ๋ย...แม่คุณแม่ทูลหัวยอมแพ้จ๊า....
น้องชายรูปหล่อเจ้าอรรถน่ะเหรอ กระโดดรอบวงเหมือนกัน อีกตัวเอ๊ย...อีกคนเจ้าประทีปกวนสะ..เพลงไว..เจ้าหนุ่มมา มาดนิ่มเต้นแบบ นิ่มเรื่อยๆๆ เอื่อยๆด้วยใบหน้าฉาบรอยยิ้ม กวนจริงน่ะค่ะ ขอบอก
เจ้ารุ่งน่ะเหรอ สเต็ปเท้าไฟ พอกับสาวโอ๋ เต้นท่าเต้นไม่มีใครยอมใคร ส่วนสาวอ้อ ตากล้อง กินอย่างเดียวไม่สนใจชาวบ้าน เสียงเพลง ไปกระพริบดนตรีเร้าใจ ทำอะไรชั้นไม่ได้ สมาธิหนักแน่นเหลือหลาย
ผู้เขียน เต้นบ้างหลบบ้างตามสังขาร เมาแพ จริง พอแพหยุดเหมือนขึ้นสวรรค์
ชาวบ้านเหรอไม่หยุด ไม่เลิก น่ารักทุกคน ออกลายกันเต็มที่
รุ่งเช้าอีกวัน ไปดูน้ำดื่ม เราเองก็ยังอาการตกค้าง เวียนหัว พอสายหน่อยไปวัดถ้ำเสือ ชอบมากค่ะ สวยงาม ได้ฟังหลวงพ่อท่านเล่าประวัดของวัด ร่มรื่น อยากจะอยู่ตรงนั้นๆนานๆ แต่ต้องทำเวลา ทานข้าวแล้วขึ้นรถกันไปต่อ
น้ำตกไทรย้อย ร่มรื่นสวยงาม แต่ไม่ได้เล่นเลย เพราะ มีเรื่องต้องทำ เหมือนความรับผิดชอบจน เราแทบไม่มีเวลา ดูแลใคร ยังนึกเสียใจ จนบัดนี้ ที่บางทีทำหน้าที่ไม่ดีพอ ถ้าย้อนเวลากลับได้ จะทำตามใจตัวเอง และทำให้ดีที่สุด
วันสุดท้าย แวะซื้อของฝากเจ้าตัวแสบ ทั้งหลาย ลากเราไปต่อราคา จนแม่ค้าไม่อยากมองหน้า ซื้อของฝาก คนทางบ้านกัน เลยฝากบอก ช่างรุ่งตรงนี้เลยน่ะ..
ก็แม่ค้าเค้าบอก ไม่ลอกไม่ดำ อิๆ...ก็มันลอกเลยต้องดำจิ...ว่ากันไม่ได้วุ๊ย..
ดูสะพานข้ามแม่น้ำแคว สวยค่ะ มีโทรศัพย์มาหาเราเป็นระยะ รับไปยิ้มไป ชาวบ้านบ้านแซว..แหมๆ..ทีคนที่มาบริการพาไปดูงาน ไม่มองเลยน่ะ โทรศัพย์มายิ้มเชียว...น่าสงสัยเนาะ....ก็ขอให้สงสัยกันต่อไป..ว่าแอบมีหนุ่มหล่อ มาจากไหนที่โทรหา แก้ข่าวค่ะ เรื่องงานทั้งน๊านนนนนนนนน
จบด้วยดูงานปลูกผักปลอดสารพิษ ได้ความรู้กันคู่ความเข้าใจมีประโยชน์มากมาย ต้องขอขอบคุณ คุณจิโรจน์ ที่มาอำนวยความสะดวกตลอดที่ไปกาญจบุรี 3วัน2คืน ผู้เขียน อาจใช้คำพูด ที่บางครั้งรุนแรง หรือไม่สมควรบ้าง แต่ด้วย นิสัยที่ตรงไปตรงมา ต้องขออภัยค่ะ ไม่มีอะไรติดค้างในใจตามประสาคนทำงาน หวังว่าท่านคงเข้าใจเพราะบางอย่างถ้าไม่อธิบายจะไม่เข้าใจตรงกัน
ขอบคุณคนกาญจบุรี ที่ไปที่ไหนต้อนรับ พูดจายิ้มแย้มทักทายช่วยเหลือกันด้วยมิตรไมตรีที่ดีน่ารักทุกท่าน
ขากลับแวะไปเรื่อยๆ ขึ้นรถเมื่อไร รถเรา ร้องเพลงแรก ขึ้นรถทีไร ร้องเพลงนี้ทุกทีอยู่ เพลงนี้ทุกครั้ง เออหนอช่างไม่คิดเลยว่า สะเทือนใจใครบ้าง ไม่มีใครยอมใครมือถือไมค์ ไฟส่องหน้าตลอด ลงหยุดร้อง ขึ้นรถเป็นร้อง ย่ำค่ำรถเปิดไฟกระพริบ มีเธคในรถอีกแน๊ะ...เอากันเค้าไป..เราหลบเป็นเรียก..คนขับๆเลยทาง เพราะเสียงเพลง เพราะหรือทนฟัง ไม่ได้ ไม่อาจรู้ได้
ถึงที่สำนักงาน เกือบสองทุ่ม มีงาน รอแจกถุงมือไข้หวัดนกระบาด..7..โมงเช้า เริ่มนัดเวลา มาทำงานสายกันแล้วสิ ก็เหนื่อยน่ะค่ะ ขอความเเห็นใจกันบ้าง มีแต่ อรรถพลคนเดียวที่เขียนไปลา เพราะต้องไปกรุงเทพ รับเนติบัญทิต
สุดท้าย สาวฝากมา สาวอ้อ สาวโอ๋ บอกหัวใจยังว่าง นักเขียนผู้ใด มีไหมที่หัวใจว่าง แซวน้องกันไป ขอการันตีค่ะ ว่าน้องน่ารักจริงๆเพราะนอนห้องเดียวกันมาแล้ว เห็นมุมสวยทุกซอกทุกมุม ส่วนหนุ่มคนไหนหล่อ ขอบอกว่า ...หล่อแบบ ไม่ได้ตั้งใจทุกคน น่ะค่ะที่ทำงานน่ะ ส่วนหมอนาจ๋า..ทวงรออ่าน...อ่านเลยน่ะ เจ้าตัวดี...จบเพียงแค่นี้กันก่อนค่ะ..บายบาย
11 สิงหาคม 2549 21:43 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
1.good night คนดี ขอให้นอนหลับฝันดี คืนนี้จะไปเข้าฝัน
>>2.พี่ไปส่งมั้ย น้องต้องเดินอีกไกลนะ กว่าจะพ้นใจพี่
>>3.เรื่องเนี้ยะ เริ่มต้นด้วยร้าย แต่ลงท้ายด้วยรักนะจ๊ะ
>>4.ไข่พะโล้หนะ สีดำ แต่คนทำอะ หัวใจสีชมพู
>>5.ติดกาแฟ เลิกได้ ติดบุหรี่ เลิกได้ แต่ติดใจเธอ เลิกไม่ได้จริงๆ
>>6.มีใจแค่1ดวง ครึ่งแรกบอกว่า คิดถึง อีกครึ่งหนึ่ง บอกว่า รัก
>>7.ที่หายหน้าไป ไม่ใช่ไม่รัก แต่หมอให้พัก ลดน้ำตาล ในหัวใจจ๊ะ
>>8.ฉันเกิดมา อาภัพ ต้องอยู่แบบ หลบๆซ่อนๆ ก็ซ่อนใน หัวใจเธองัย
>>9.หัวใจไม่ว่าง เหมือนเดิม เพราะมีเธอ มาเพิ่มเติม ในใจ
>>10.อยากรู้มั้ย ฉันรักใคร ส่องกระจกสิ จะได้คำตอบ
>>11.ยังตัดสินใจไม่ได้ใช่ไหม เอางี้โยนหัวก้อยกัน ถ้าออกหัว
>เธอมาเป็นแฟนฉัน ถ้าออกก้อย ฉัน จะยอมเป็นแฟนเธอ
>>12.อยากจะเขียนคำว่ารักตัวเท่าบ้าน คงต้องหากระดานแผ่นใหญ่ๆ
>>อันสมุดเล่มนี้มันเล็กไป คงต้องเอาหัวใจมาเขียนแทน
>>13.ไม่ได้คิดถึงเธอทุกนาที
แต่คิดถึงเธอตลอดที่มีลมหายใจ
>>14.ถ้าพรุ่งนี้ผมตายไปก็คงไม่แปลก เพราะชีวิตผมที่เกิดมา
>>มีหน้าที่เพียงแค่มาพบคุณในวันนี้เท่านั้นเอง
>>15.ผมมันคนใจแคบ ในนั้นเลยมีที่ว่างพอสำหรับคุณเพียงคนเดียว
>>16.เป็นการยากที่จะเข้าใจในคำว่ารัก แต่ยากยิ่งนักหากจะรักอย่างเข้าใจ
>>17.ผมมันเป็นคนไม่มีหัวใจ ก็เพราะหัวใจของผมนั้นดันไปอยู่ที่คุณ
>>18.ความรักของเราเหมือนเส้นขนาน แม้จะไม่มีวันมาบรรจบกัน
>แต่ก็จะเคียงคู่กันตลอดไป
>>19.ถึงผมจะเป็นคนหลายใจ แต่ในทุก ๆ หัวใจก็มีแต่เธอ
>>20.โทรศัพท์มือถือยิ่งโทรยิ่งกินเงิน แต่โทรหาคุณยิ่งโทรยิ่งกินใจ
>>21.ผมขอถามทางคุณหน่อยได้ไหมครับ? ทางไปหัวใจคุณ
>>22.ช่วยกดลิฟท์ให้หน่อยครับ? ผมจะไปชั้น..รักเธอ
>>23.คุณได้ยินเสียงอะไรมั๊ยครับ....เสียงหัวใจผมมันบอกว่ารักเธอ
>>24.เอ่อ..ไม่ทราบว่าเราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนรึป่าวครับ
อ๋อ
>คงจะเป็นในฝันของผม
>>25.ทำไมวันนี้ท้องฟ้าไม่สวยเหมือนทุกวัน คงเป็นเพราะคุณสินะ
>>26.ผมชักอึกอัดแล้วสิ ก็คุณเล่นเข้ามาเบียดอยู่ในใจผมตลอดเวลาเลย
>>27.เดินดีๆนะครับ...ระวังจะสะดุดรักผม 28.ตั้งแต่ผมได้รู้จักกับคุณ
>>ทำให้ผมได้เจออะไรบางอย่าง เจอละไม ใจละเมอ
>>29.เผอิญผมมันพวกคนใจแคบหนะครับ
>>ในนั้นเลยมีที่ว่างให้คุณได้เพียงคนเดียว
>>30.ความรักของผมกับคุณเหมือนเส้นขนาน แม้มันอาจจะไม่มีวันมาบรรจบกัน
>แต่มันจะเคียงคู่กันตลอดไป
>>31.ถึงผมจะเป็นคนหลายใจ แต่ในทุกๆหัวใจก็มีแต่คุณ
>>32.ผมทำให้คุณได้ทุกอย่าง ยกเว้นแค่เหาะขึ้นไปบนฟ้า กับการไม่รักคุณ
>>33.ผมมันเป็นคนไม่มีหัวใจ... เพราะผมเอาให้คุณไปแล้ว
>>ตั้งแต่วันที่เราพบกัน 34.เมื่อคืนที่บ้านไฟดับ แต่ผมไม่ต้องใช้ไฟฉาย
>>หรือเทียนเลยครับ
>โลกของผมก็สว่างไสวไปหมดแล้ว
>>35.ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของผม....
คุณไปอยู่ไหนมาครับ?
>>36.ผมยอมอายุสั้นลงไป 1 ปี... แลกกับการคุยกับคุณ 1 นาที
>>37.ผมไม่หวังอะไร ขอแค่ได้เห็นหน้าคุณ ถึงต้องอายุสั้น
>>ตายไปต่อหน้าคุณ ผมก็ยอม
>>38.รู้ตัวไหม ว่าคุณคือผู้หญิงคนแรก ที่เห็นแล้วผมนึกอยากปลูกต้นรัก
>>39.คุณทำให้ขาผมแพลง เพราะตกหลุมรักคุณไม่เป็นท่า
>>40.ไม่สบายไป x-ray หัวใจมา หมอบอกว่าข้างในหัวใจมีแต่เธอ
>>41.ร้อนจัง อาบน้ำ ก็ยังไม่หาย นอนไม่หลับกระสับกระส่าย
>>ก็ยังไม่หายคิดถึงเธอ 42.โทษครับ กี่โมงแล้วครับ วันเวลาของผม
>>มันหยุดไปหมดเมื่อพบคุณ
>>43.ถ้าคิดถึงคุณ..แล้วต้องเสียตังค์ครั้งละบาท
>ผมคงหมดเนื้อหมดตัวภายในวันเดียว
>>44.คุณท่าทางจะมีโชคนะ ผมเป็นหมอดู ดูดวงจากเบอร์โทรศัพท์
>บอกเบอร์มาสิครับ ผมจะทายให้
>>45.ผมคงต้องไปรับลอตเตอรี่มาขายซะแล้ว
>>เพราะความรักของคุณมันทำให้ผมตาบอด 46.ถ้าเธอเป็นโคลน
>>ฉันจะยอมเป็นควาย
จะได้จมปลักรักเธอตลอดไป
>>47.เวลาเห็นหน้าคุณทีไร ผมมักจะเป็นโรคชักทุกทีเลยอะ...ชักใจอ่อน
>... สุดท้าย อ่านกันจบก้อต้องเล่นมุกนี้เลย
>"น้ำเน่า" .. ถึงน้ำจะเน่า .. ก้อยังเห็นเงาจันทร์ นะคร้าบบบบบ
>
~ นอกจากรักเธอแล้ว ฉันก็ไม่เก่งอะไรอีกเลย
~ โชคดีนะที่กระจกพูดไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเธอต้องมีปมด้อยแน่ๆ
~ ดวงดาวยังค้างฟ้าเหมือนเธอที่ยังค้างอยู่บนคาน อิอิ
~ เรียนไม่เก่ง หน้าตาไม่ดี คนมาจีบไม่มี หาแฟนไม่ได้ ก็แกนั่นแหละ
~ อ่านทำไม ...ไม่รักแล้ว อ่านทำไม อีโธ่ ไม่แน่จริงนี่หว่า
~ รักมากรู้ไหม รักใครคนนึง รักคนที่ซึ่งมองยังไง ก็ไม่ใช่เธอ
~ ตกใจมั้ย ถ้าบอกรัก ไม่รู้เผลอตอนไหน แต่รักหมดใจ ขออภัยส่งผิด
~ รักแรกคือเราสอง รักสำรองเจอน้ำกรด รักทรยศต้อง1.38
~ anacondaรัด twisterพัดแตกสลาย men in black ยิงตาย ไม่วายรักเธอ
~ ส่งรักไปกับตุ๊กๆ ส่งความสุขไปกับ บขส. ตัวฉันไป ปอ.พ. รถติดรอนิดนะ
~ โทรศัพท์มือถือยิ่งโทรยิ่งกินเงิน แต่โทรหาคุณยิ่งโทรยิ่งกินใจ
~ เดี๋ยวผมกลับมานะครับ จะไปซื้อตะกร้า เอามาเก็บหัวใจไว้ให้คุณ
~ คุณรู้ไหมผมก็เป็นคนนะ ... คนที่รักเธอ
~ มีใจแค่ 1 ดวง ครึ่งแรกบอกว่าคิดถึง อีกครึ่งนึงบอกว่ารักเธอ
~ ที่หายหน้าไปไม่ใช่ไม่รัก แต่หมอให้พัก ลดน้ำตาลในหัวใจจ้ะ
~ ฉันเกิดมาอาภัพ ต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนๆ ก็ซ่อนในหัวใจเธอไง
~ หัวใจไม่ว่างเหมือนเดิม เพราะมีเธอมาเพิ่มเติมในใจ
~ อยากรู้ไหม ฉันรักใคร ส่องกระจกสิจะได้คำตอบ
~ ฉันเป็นคนมารยาทดี เลยmsgมาขออนุญาตรักเธอ
~ ทหารรบเพื่อชาติ ปราชญ์เรียนเพื่อรู้ ฉันทำเพื่อเธอ ไม่รู้ทำไม
~ ไม่ใกล้ไฟ รู้ได้ไงไฟอุ่น ไม่รักคุณ รู้ได้ไงว่ามีคุณแล้วอุ่นใจ
~ การได้พบคุณทำให้ผมกลัวตกนรก เพราะคุณทำให้ผมรู้ว่าสวรรค์มีจริง
~ รู้มั้ยที่ผ่านมาเราไม่เคยเห็นเธอในสายตา เพราะเธออยู่ในหัวใลยอ่ะ
~ รู้ป่ะเธอเป็นคนโลภมาก - ตรงไหนเนี่ย - ก็เธอเอาหัวใจเราไป4ห้องเลยนี่
~ เธอหนาวป่าว - หนาวสิ เธอไม่หนาวเหรอ - ไม่อ่ะ แค่มาใกล้เธอเราก็อุ่นใจ
~ รู้มะ...ทำไมกาแฟถึงขม...มันรอความรักเราสองคนมาเติมความหวานให้ไง
~ หน้าคุณเปลี่ยนไปเรื่อยๆเหรอไง...ทำไมมองยังไงก็ไม่เบื่อ
~ ยกเท้าขึ้นหน่อย เธอเหยียบของๆเราอ่ะ ... เหยียบหัวใจเรา
~ ยืมไฟฉายหน่อยจิ จะเอาไปส่องหน้า เราจะได้ไม่หน้ามืดหลงรักเธอมากกว่านี้
4 สิงหาคม 2549 23:03 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ท้องฟ้าในยามนี้สดใส แวววาว ถึงแม้จะเป็นยามราตรีแห่งค่ำคืน แต่มิอาจบดบังประกายแสงแห่งสายตา ขอเพียงเรายังดำรงอยู่ได้ ในตัวตนที่เป็นเรา ถ้าสิ่งใดที่เราคิดว่า ไม่มีค่า ควรน่าจะจำอีกต่อไป เราจะสร้างภูมิคุ้มกัน ให้ตัวเอง ไม่มีประโยชน์และไร้ประโยชน์ ที่จะนึกถึงคนที่ไม่เห็นค่า
สุดท้ายเราต้องยืนหยัดในโลกเพียงลำพัง พลังกายและความแข็มแข็งเท่านั้นที่จะช่วยเรา รู้สึกโล่ง ที่ปลดปล่อยมันได้ อย่าไปทนทุกข์กับสิ่งที่อีกคน ไม่รับรู้มันน่าทุเรศตัวเองสิ้นดี
จงอยู่ได้ด้วยตัวเอง ต่อไปนี้ ความสุขเป็นสิ่งที่เราสร้างเอง อย่าจดจำกับสิ่งไร้ค่าไม่น่าจดจำ ถือว่าฝันร้าย รักตัวเองและรักที่คนเค้ารักเราด้วยความบริสุทธ์ใจไม่หวังอะไรแอบแฝง มีความสุขกับชีวิตเสียทีต่อแต่นี้ไป
28 กรกฎาคม 2549 21:52 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
อากาศบางวันร้อนอบอ้าว บางวันฝนตก สายลมพัดเอื่อยๆ ณ.สนามบินผู้โดยสารขาออก ภายในประเทศ บรรยากาศ สับสน ทุกครั้งที่ฉันเห็นชีวิตฉันเริ่มผูกพันธ์กับสนามบินดอนเมืองเมื่อไรไม่รู้ได้เพียงแต่ว่าเราสองคนรู้จักกันที่สนามบิน จึงทำให้ฉันเห็นสนามบินจะรู้สึกเจ็บปวดกับบางเรื่องราว รู้สึกคิดถึงและเจ็บร้าวในการจากไปของใครบางคน
ฉันทำงานต่างจังหวัดเขาทำงานกรุงเทพฯ ด้วยวัยที่ห่างกัน เขาเป็นนักธุรกิจ โอกาสที่เราจะเจอกันน้อยมาก แต่ระยะทางไม่กี่ร้อยกิโลเมตรไม่สามารถกั้นความรักเราได้เลย กลับคิดถึงและรักกันมากขึ้นทุกครั้ง
สถานที่ที่เราพบกันครั้งแรกก็คือสนามบินและทุกครั้งที่พบกันที่สนามบินจะเห็นรอยยิ้มปนขำเอ็นดูจากเขาเสมอ แม้ว่าด้วยงานเราจะเจอกันช่วงที่ฉันว่างจากการประชุมมีเวลาแค่ชั่วโมงสองชั่วโมง เขาเจียดเวลาให้ฉันเสมอ ไม่มารับก็คอยมาส่ง เป็นอย่างนี้ตลอดเวลา บอกรักฉันทุกวัน โทรศัพท์คุยทุกวัน
เขาทำได้ดีเสมอต้นเสมอปลาย จนฉันใจอ่อน จากที่เคยเล่นตัว เป็นตัวของตัวเองสูง หยิ่ง ฉันกลับบอกรักเขาทุกวันทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยสนใจความรู้สึกเขา
เขาคงงงและอมยิ้มทุกครั้งที่ฉันบอกรัก
กรุงเทพฯ ไม่เคยอยู่ในสมองฉันที่คิดอยากอยู่ ฉันเกลียดความวุ่นวาย และรักในงานที่ทำ เขาก็เช่นกัน คนเรารักกันนานๆย่อมวางแผนที่จะแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกัน ความรักย่อมมีปัญหาถกเถียงกันบ้าง เขามักเรียกฉัน เด็กบ้านนอก ด้วยคำพูดที่เอ็นดู แต่จะต่อท้ายด้วยคำว่า ที่รักเสมอ ด้วยความที่เรารักงานและไม่ยอมทิ้งความฝันของกันและกัน จึงมีใยบางๆมากั้นความรักทุกครั้ง
ความรู้รักเราสองคนไม่พอรึไงน่ะ จึงไม่เคยมีใครยอมใครในเรื่องนี้ การที่คนสองคนอยากใช้ชีวิตร่วมกันเป็นสิ่งดี แต่ถ้าต้องให้ทิ้งความฝันไปอยู่ในสถานที่ไม่ชอบ ฉันไม่ทำ เขาเคยบอกว่า คุณมีผม จะกลัวอะไร ความรักที่ผมมีให้ไม่เพียงพอกระนั้นเหรอ
งานของเราเริ่มเยอะขึ้นเวลาเจอกันก็น้อยลงแต่เค้ายังโทรคุยทุกวัน วันพิเศษเขายังคงส่งของมาให้ฉันเสมอต้นเสมอปลายเสมอ เขาต้องการสร้างครอบครัว
แต่ฉันยังไม่พร้อม ฉันไม่เคยคิดว่า เราจะต้องจากกันทั้งที่รักกัน การพลัดพราก การสูญเสีย ช่างโหดร้าย ความรักมีมากแค่ไหนแต่ไม่สามารถเรียกอะไรกลับคืนมาได้
คงจะเหลือเพียงลมหายใจของฉันคนเดียวที่ต้องประคับประคองต่อไปทั้งที่รู้สึกเจ็บปวดทรมาน ภายในใจฉัน ไม่เคยที่จะหยุดคิดถึงเขาแม้สักเสี้ยววินาที
เขายังอยู่กับฉันเสมอ ฉันรับรู้และสัมผัสมันได้ และทุกครั้งที่ฉันอยู่สนามบิน
มองไปที่เก้าอี้ที่จัดไว้สำหรับผู้โดยสารที่มานั่งรอ ฉันมักเเห็นภาพเงาและรอยยิ้มของเขาทุกครั้ง ที่ที่เราสองคนพบกันฉันคิดเสมอ เราสองคนห่างกันแค่....ลมหายใจเดียว....