6 เมษายน 2550 15:28 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
มนุษย์มีความเคลื่นไหวตลอดเวลา
แต่มีหลายคนเหมือนกัน ที่ไม่อยากขยับตัวไปไหน
กลัวความผิดหวัง ความผิดพลาด เหมือน เต่าที่หดหัวในกระดอง ด้วยเหตุผลคือ ไม่กล้า
มีหลายคน ไม่ยอมตัดสินใจ ในสิ่งที่ตัวเอง อยากทำสักที
เพราะไม่กล้าตัดสินใจ และกลัวการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับชีวิต
สำหรับฉัน เคยคิดว่า ชีวิตจะต้อง สวยงาม เพราะวางแผนไว้ตั้งแต่เด็ก ว่าจะเรียนอะไร ทำงานอะไร มีคุณพ่อคุณแม่ ปูทางทุกอย่างทุกเส้นทางจนฉันสูญเสีย คุณพ่อ ที่ผลักดัน ให้กำลังใจ ช่วยเหลือทุกอย่าง
ความกลัวจึงเริ่มคลืบคลานเข้าสู่หัวใจ
ความเปลี่ยนแปลงเริ่มเกิดขึ้นกับชีวิต
ความเปลี่ยนแปลงคือสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันรู้ ว่าเรากำลังเคลื่อนไหว
คนที่อยู่กับสิ่งเดิมๆนานๆมักรู้สึกเบื่อหน่าย ท้อแท้ สิ้นหวัง
หลายคนไม่พอใจกับงานที่ทำอยู่แต่ไม่กล้าเดินออกมาเพราะกลัวว่าจะเจอเรื่องที่แย่กว่านี้
ฉันเชื่อว่าสักวัน สวรรค์ต้องมีรางวัลสำหรับคนกล้า
และจะลงโทษคนออ่นแอที่ย่ำแย่อยู่กับที่
ท้อถอยและยอมแพ้อะไรง่ายๆ
คนเรามีชีวิตเดียวอย่าผูกมันกับความกลัว
ที่จะบั่นทอนชีวิตเรามาเรื่อยๆ
มีหลายคนบอกว่าคนมีความรัก มักจะมีความทุกข์ตามมาเสมอ
แต่ทุกคนยังร่ำร้องเรียกหา กล้าสัมผัสและเผชิญหน้ากับมัน
แล้วชีวิตคนเรา จะยอมหยุดนิ่งและท้อถอยง่ายหรือ
นานเท่าใดเท่าที่คุณคิดแต่ ไม่กล้าลงมือกระทำ
ความสำเร็จและความล้มเหลวคงไม่เกิดขึ้นในชีวิต
จงยอมรับและกล้าที่จะก้าวออกมา
เพื่อเรียนรู้มหาลัยแห่งชีวิต
26 มีนาคม 2550 20:14 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
เค้าว่ากันว่า......ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของคนเราคือ....
การตกหลุมรักใครสักคน
การได้จูบครั้งแรก
การได้หัวเราะจนท้องแข็ง
การได้นั่งอ่านจดหมายเก่าในวันว่าง
การได้ใช้เวลาว่างในที่ๆ แสนงดงาม
การได้ฟังเพลงที่ชอบทางวิทยุ
การได้นอนฟังเสียงฝนตก
เมื่อเวลาที่เราอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ แล้วเจอผ้าเช็ดตัวอุ่น
การสอบเสร็จ
การได้รับโทรศัพท์จากใครสักคนที่ไม่ได้พบเจอเขาบ่อยน ัก
การเจอเงินที่เราซ่อนไว้ตั้งนานมาแล้ว
การได้ยิ้มกับใครสักคน
การได้คุยโทรศัพท์ได้เป็นชั่วโมงกับคนรัก
การยิ้มโดยไม่ต้องมีเหตุผล
การถูกชมอย่างกะทันหัน
การตื่นขึ้นมาแล้วตระหนักได้ว่ามันน่าจะนอนต่อได้อีก ตั้งชั่วโมงแน่ะ
การได้ฟังเพลงที่ทำให้เรานึกถึงคนพิเศษของเรา
การได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม
การมีเพื่อนใหม่
การรู้สึกเหมือนผีเสื้อบินว่อนอยู่ในท้องคุณเวลาคุณเ จอหน้าเค้าคนนั้น
การผ่านช่วงเวลานึงไปได้พร้อมกับเพื่อนที่ดีที่สุดขอ งคุณ
การได้เห็นคนที่คุณชอบมีความสุข
การได้ใส่เสื้อของคนที่เราชอบทั้งๆ ที่กลิ่นหอมของเค้ายังกรุ่นอยู่
การได้เจอเพื่อนเก่าอีกครั้งแล้วรู้สึกเหมือนไม่มีอะ ไรเปลี่ยนไปเลย
การได้มองท้องฟ้ายามโพล้เพล้
การได้ยินใครสักคนบอกรักคุณ
17 มีนาคม 2550 18:02 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
คงไม่ผิดกระมัง ที่มีหลายคน สะดุดกับรอยยิ้ม ของผู้หญิง ซึ่งน่าจะเป็นสเน่ห์ที่ผู้หญิง มักมีอยู่ในตัวเองทุกคน แล้วแต่ว่า รอยยิ้มนั้น จะเป็นลักษณะไหน มาดูกันสิว่า ความหมาย ภายใต้รอยยิ้ม ในแต่ละแบบ จะเป็นอย่างไรกันบ้าง
ยิ้มที่มุมปาก คงจะแสดงให้เห็นว่า คุณเป็นคนเก็บ อารมณ์ แปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ฉลาดมีไหวพริบดีทีเดียว นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการเป็นนักจิตวิทยา ที่ชอบพูดจาให้คนคิด คล้อยตามได้ อย่างดี
ยิ้มเม้มปาก จะไม่เห็นฟันของผู้ยิ้ม มีเพียงรูปปากที่แย้มออก เท่านั้น
แสดงให้เห็นว่า คุณ เป็นคน ที่มีโลกส่วนตัวมากๆ รักความสงบ ชอบอยู่คนเดียว มีความเป็นตัวของตัวเองสูง รักสันโดษ ชอบใช้ชีวิต ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ
ยิ้มเยือกเย็น แสดงว่า คุณ เป็นคนที่ มีบุคลิก น่าเชื่อถือ มีความประนีประนอมสูง ขยันอดทน รักการต่อสู้ ขี้เหงา เข้าใจธรรมชาติ ชอบให้อภัยคน หากมีความรัก จะขี้หึงสุดๆ เรียกว่าไม่ต้องขยับไปไหน กันเลยล่ะ
ยิ้ม
กว้างเปิดเผย แบบที่มองเห็นฟันของคนยิ้มได้ชัดเจน แสดงว่า คุณเป็นคนกระตือรือร้นอยู่เสมอ ทั้ง ยังเป็นคนที่ชอบแสดงออกเอามากๆเข้ากับคน
ได้ง่าย ชอบช่วยเหลือคนรอบข้าง ใจกว้างมองโลกในแง่ดี ที่สำคัญเป็นคนรัก สวยรักงาม เอามากๆทีเดียว
ยิ้มตาหยี แสดงให้เห็นว่าคุณ เป็นคนมองโลกในแง่ดีมาก มีอารมณ์ขัน
ทำให้คนรอบข้าง ยิ้มแย้มเสมอ รักการเรียนรู้ เป็นชีวิตจิตใจ จริงใจกับทุกคน จริงใจกับทุกคน มองโลกในแง่ดี ชอบจริจาค ให้กับคนจนคนยาก
เสียสละ รักความยุติธรรม
ยิ้มยั่วยวน แสดงว่าคุณชอบเป็นคนเพ้อฝัน กับเรื่องสวยๆงามๆมากกว่าสนใจความจริงของชีวิต มักจะมี ความสามารถสูง ในเรื่องเกี่ยวกับ ความสวยงาม และ ศิลปะ แต่เป็นคนที่ขี้เหงาเอา เรื่องอยู่เหมือนกัน
ไม่ว่าจะยิ้ม แบบไหน ขอให้ออกมาจากหัวใจ แววตาที่เป็นประกาย คิดว่าคงจะเป็นรอยยิ้ม ที่น่าประทับใจ ไม่น้อย
วันนี้คุณยิ้มรึยังค่ะ
15 มีนาคม 2550 12:33 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
มีสักกี่ครั้ง ที่คุณรู้สึกหวั่นไหว กับตัวหนังสือ หน้าจอสี่เหลี่ยม ที่ใครบางคนส่งมา โต้ตอบกันกลับไป ไม่เคยได้ยินเสียง ไม่เคยเห็นหน้า แต่กลับทำให้หัวใจ ของคุณ หล่นหายได้
เคยอ่าน หนังสือที่คุณ อรชณก เขียนเรื่อง เมื่อมีรัก ในโลกออนไลน์ ทำให้คิดได้ว่า มนุษย์ คงไม่มีความพอดี บางที รู้สึก ขาด หรือ รู้สึกเกิน จึงเรียกร้องและร่ำหา ความรักกันมากมาย หรือว่า ความรัก เริ่มขาดแคลนในหัวใจของทุกคน
หรือเพราะ ไม่เคยพอใจในสิ่งที่ตัวเอง ได้รับเต็มที่ จึงพยายามที่จะได้ให้มากขึ้น พยายามมากขึ้น ที่จะได้ตามรูปแบบที่ปรารถนา
โลกไฟเบอร์ คงเหมือนมนต์วิเศษ ที่สามารถ ดึงดูดผู้คนในเรื่องความรักได้มากมายตามใจนึก ตามจินตนาการ เพราะไม่เห็นหน้า ไม่ได้ยินเสียง เราสามารถ วาดฝัน ไปตามที่ใจต้องการได้ เหมือนติดบ่วง กลลวงกับดักของภาษา เพราะไม่มีอากัปกริยา ประกอบที่สมบูรณ์ คนที่รับสาร จึงเตลิดไปไกล และตีความหมาย เกินความเป็นจริง
อาจจะเป็นได้ หรือมีเพียงส่วนน้อยนิด ที่จะพบรักแท้ ในโลกอินเตอร์เน็ต
บางทีอาจพบช่องทาง พบรักแท้ได้ ซึ่งอาจจะสมหวัง หรือผิดหวัง กับสิ่งที่เราวาดฝันไว้ เราต้องยอมรับเงื่อนไข ได้ทุกอย่าง และต้องออกมาคบกันในโลก ของความเป็นจริง
ถ้าเปรียบรักในโลกไฟเบอร์ คงทำให้หลายคน หัวเราะได้ ยิ้มได้ ฝันหวานได้ หรือแม้แต่ ร้องไห้ แบบแทบ เป็น แบบตายได้
ถ้ารู้สึกสับสน และอ่อนไหว กับตัวอักษรที่ออนไลน์ อยากให้คุณอยู่ในโลกของความจริง การงาน หน้าที่ ความรับผิดชอบ หรือคุณเสาะแสวงหาความสุขเรียบง่ายโดยใช้ธรรมชาติ หรือไม่ก็หาหนังสือดีๆๆ อ่านสักเล่ม คิดว่า ชีวิตนี้น่าจะปลอดภัยมากกว่า ขอฝากข้อคิดไว่ว่า ถึงอย่างไร คุณหนีไม่พ้นโลกแห่งความเป็นจริงไปได้ โลกออนไลน์สร้างภาพฉาบฉวย สร้างสีสัน สร้างจินตนาการแต่คุณ ต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมไม่หลงกลกับตัวอักษรที่มีคนขุดดักเอาไว้
28 กุมภาพันธ์ 2550 23:05 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
เสียงงฝนตกค่อยๆ เบาบางลางเลือนไปทีละน้อย ในยามค่ำคืน พร้อมเสียงฟ้าร้อง ที่เงียบหาย ฉันนอนสะดุ้ง ตื่น ด้วยความความกลัว เหงื่อผุดพรายล้อมรอบใบหน้า ผมปลิวปลัดคลอเคลียสองข้างแก้ม ค่อยๆๆเอื้อมมือปลัดผมออก ออกจากพวงแก้มทั้งสอง ที่ชุ่มด้วยเหงื่อ ทั้งที่ร่างกายหนาวเย็นจับใจ
กระชับไหล่ไล่ความเหน็บหนาว ใส่เสื้อคลุม มายืนที่ริมหน้าต่างที่เป็นกระจก
ใช้นิ้วมือ ค่อยๆลูบไล้ ฝ้าละออง ที่จับตัวบนกระจก เห็นเงาตัวเองในนั้น
มองออกไปนอกหน้าต่างเปิดกระจก รับลมเย็นหลังจากสายฝนเงียบหาย
ลมยังคงพัดพา ลูบไล้อย่างอ่อนโยน ตามเนื้อตัว แต่บางครั้งลมก็กรรโชกรุนแรงเหมือนโกรธขึ้งใครมา คงเหมือนผู้คน ที่บางคนไม่มีบ้านอยู่คงซัดเซพเนจร เหมือนกับลม หรือบางคน มีบ้านอยู่แต่ไม่ได้กลับบ้าน
หรือต่างคน ต่างเหตุผลกันไป
เหมือนฉันในเวลานี้ รู้สึกอ้างว้าง หวาดกลัว กลับความทรงจำและความฝันที่เลวร้าย ที่ห่างหายไปจากใจได้สักที
จะมีสักกี่คืน ที่ฉันไม่ต้องนอนสะดุ้งตื่น ขึ้นกลางดึก ที่มีแต่ความมืดมิด
คิดถึงพ่อจับใจ ถ้าพ่ออยู่ พ่อลูบผม เล่านิทาน ทุกครั้ง
ยืนหลับตา ยิ้มละไมในใบหน้า เหมือนได้ยิน เสียง พ่อเล่านิทานอยู่ข้างหนู
กระต่ายน้อยฟังนิทานน่ะลูก
เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการเปิดบริการหมอดูสายด่วน ทางโทรศัพท์ เจ้ากบหนุ่มสนใจอยากมาใช้บริการมาก เมื่อองค์การโทรศัพท์ เปิดเครือข่ายมายัง คฤหาสถ์ เจ้ากบหนุ่ม คำทำนายก็เริ่มขึ้น
กบ...ผมอยากทราบเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นในเร็วๆๆนี้น่ะครับ...
หมอดู...ได้สิ...แม่หมอพยากรณ์จะเริ่มคำคำนายน่ะบัดนี้
หลังจากตรวจดู เวลาตกฟาก ของเจ้ากบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หมอดู...เจ้ากบหนุ่มเอ๋ย...เจ้าจะได้พบกับหญิงสาวผู้หนึ่ง
กบ...แล้วยังไงฮะ...เจ้ากบหน้าแดงด้วยความตื่นเต้น
หมอดู...หญิงสาวผู้นี้จะกำหัวใจ ของเจ้า เธอจะเปลี่ยนชะตาชีวิตของเจ้า ทันที ที่พบกัน เจ้าจะตกเป็นของเธอ
กบตื่นเต้นมาก...แล้วเมื่อไรฮ่ะ...
อีกนานไหมกว่าผมจะเจอเธอ ที่ไหน งานปาร์ตี้เหรอครับ
หมอดูยิ้ม อีกไม่นาน เจ้าจะเจอคนที่เจ้าอยากเจอ ในห้องวิชาชีวะ ไง
บรื๋อ......อ......อ.....อ...........อ.......
ฉันแอบยิ้ม เมื่อนึกถึง นิทานของพ่อ ทุกเรื่อง จะมีใคร แทนที่พ่อได้ ในความอบอุ่น ที่เคยได้รับจาก พ่อ
บอกฉันที ฉันจะซื้อหา ยาชื่อ ความอบอุ่น ได้ ที่ไหน