30 พฤษภาคม 2552 22:46 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ขออานิสงฆ์ บังเกิดแก่ผู้อ่าน และผู้ส่งต่อ
มาสร้างบุญบารมีกันเถอะ
1. นั่งสมาธิ อย่างน้อยวันละ 15 นาที ( หรือเดินจงกรมก็ได้)
อานิสงส์ --- เพื่อสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดขึ้นทั้งภพนี้และภพหน้า
เพื่อจิตใจที่สว่างผ่อนปรนจากกิเลส ปล่อยวางได้ง่าย
จิตจะรู้วิธีแก้ปัญหาชีวิตโดยอัตโนมัติ ชีวิตจะเจริญรุ่งเรือง
ไม่มีวันอับจน ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพกายและจิตแข็งแรง
เจ้ากรรมนายเวรและญาติมิตรที่ล่วงลับจะได้บุญกุศล
2. สวดมนต์ ด้วยพระคาถาต่างๆอย่างน้อยวันละครั้งก่อนนอน
อานิสงส์ --- เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ชีวิตหน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า
เงินทองไหล มาเทมา แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง
จิตจะเป็นสมาธิได้เร็ว แนะนำพระคาถาพาหุงมหากา , พระคาถาชินบัญชร ,
พระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก เป็นต้น เมื่อสวดเสร็จต้องแผ่เมตตาทุกครั้ง
3. ถวายยารักษาโรค ให้วัด , ออกเงินค่ารักษาให้พระตามโรงพยาบาลสงฆ์
อานิสงส์ --- ก่อให้เกิดสุขภาพร่มเย็นทั้งครอบครัว โรคที่ไม่หายจะทุเลา
สุขภาพกายจิตแข็งแรง อา ยุยืนทั้งภพนี้และภพหน้า
ถ้าป่วยก็จะไม่ขาดแคลนการรักษา
4. ทำบุญตักบาตร ทุกเช้า
อานิสงส์ --- ได้ช่วยเหลือศาสนาต่อไปทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ขาดแคลนอาหาร
ตายไปไม่หิวโหย อยู่ในภพที่ไม่ขาดแคลน ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์
5. ทำหนังสือหรือสื่อต่างๆ เกี่ยวกับธรรมะแจกฟรีแก่ผู้คนเป็นธรรมทาน
อานิสงส์ --- เพราะธรรมทานชนะการให้ทานทั้งปวง ผู้ให้ธรรมจึงสว่างไปด้วยลาถยศ
สรรเสริญ ปัญญา และบุญบารมีอย่างท่วมท้น เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้
ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่คาดฝัน
6. สร้างพระถวายวัด
อานิสงส์ --- ผ่อนปรนหนี้กรรมให้บางเบา ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง ครอบครัวเป็นสุข ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์
ของพุทธศาสนาตลอดไป
7. แบ่งเวลาชีวิตไปบวชชีพรามณ์ หรือบวชพระอย่างน้อย 9 วันขึ้นไป
อานิสงส์ --- ได้ตอบแทนคุณพ่อแม่อย่างเต็มที ่ ผ่อนปรนหนี้กรรมอุทิศผลบุญให้ญาติมิตร
และเจ้ากรรมนายเวร สร้างปัจจัยไปสู่นิพพานในภพต่อ ๆ ไป ได้เกิดมาอยู่ใน
ร่มโพธิ์ของพุทธศาสนา จิตเป็นกุศล
8. บริจาคเลือดหรือร่างกาย
อานิสงส์ --- ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพแข็งแรง ช่วยต่ออายุ ต่อไปจะม ีผู้คอยช่วยเหลือ
ไม่ให้ตกทุกข์ได้ยาก เทพยดาปกปักรักษา ได้เกิดมามีร่างกายที่งดงามในภพหน้า
ส่วนภพนี้ก็จะมีราศีผุดผ่อง
9. ปล่อยปลา ที่ซื้อมาจากตลาดรวมทั้งปล่อยสัตว์ไถ่ชีวิตสัตว์ต่างๆ
อานิสงส์ --- ช่วยต่ออายุ ขจัดอุปสรรคในชีวิต ชดใช้หนี้กรรมให้เจ้ากรรมนายเวร
ที่เคยกินเข้าไป ให้ทำมาค้าขึ้น หน้าที่การงานคล่องตัวไม่ติดขัด
ชีวิตที่ผิดหวังจะค่อยๆฟื้นคืนสภาพที่สดใส เป็นอิสระ
10. ให้ทุนการศึกษา , บริจาคหนังสือหรือสื่อการเรียนต่างๆ , อาสาสอนหนังสือ
อานิสงส์ --- ทำให้มีสติปัญญาดี ในภพต่อ ๆ ไปจะฉลาดเฉลียวมีปัญญา
ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนอย่างรอบรู้ สติปัญญาสมบูรณ์พร้อม
11.. ให้เงินขอทาน , ให้เงินคนที่เดือดร้อน(ไม่ใช่การให้ยืม)
อานิสงส์ --- ทำให้เกิดลาภไม่ขาดสายทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ตกทุกข์ได้ยาก
เกิดมาชาติหน้าจะร่ำรวยและไม่มีหนี้สิน ความยากจนในชาตินี้จะทุเลาลง
จะได้เงินทองกลับมาอย่างไม่คาดฝัน
12.. รักษาศีล 5 หรือศีล 8
อานิสงส์ --- ไม่ต้องไปเกิดเป็นเปรตหรือสัตว์นรก ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐครบบริบูรณ์
ชีวิตเจริญรุ่งเรือง กรรมเวรจะไม่ถ่าโถม ภัยอันตรายไม่ย่ างกราย เทวดานางฟ้าปกปักรักษา
อานิสงส์ 10 ข้อของการไม่กินเนื้อสัตว์
1. เป็นที่รักของบรรดาเทพ พรหม ตลอดจนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
2. จิตอันเป็นมหาเมตตาย่อมบังเกิดขึ้น
3. สามารถตัดขาดความอาฆาต ดับอารมณ์เหี้ยมโหดเครียดแค้นในใจลงได้
4. ปราศจากโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบียนร่างกาย
5. มีอายุมั่นขวัญยืน
6.. ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากเทพทั้งปวง
7. ยามหลับนิมิตเห็นแต่สิ่งที่ด ีงามเป็นสิริมงคล
8. ย่อมระงับการจองเวร สลายความอาฆาตแค้นซึ่งกันและกัน
9. สามารถดำรงอยู่ในกระแสพระนิพ พาน ไม่พลัดหลงตกลงสู่อบายภูมิ
10. ทันทีที่ละสังขารจากโลกนี้ จิตจะมุ่งสู่สุคติภพ
อานิสงส์การจัดสร้างพระพุทธรูปหรือสิ่งพิมพ์อันเกี่ยวกับพระธรรมคำสอนเป็นกุศลดังนี้
1. อกุศลกรรมในอดีตชาติแต่ปางก่อน จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ
2. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง สรรพภยันตรายสลาย ปวงภัยไม่มีคนคิดร้ายไม่สำเร็จ
3. เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติแต่ปางก่อน เมื่อได้รับส่วนบุญไปแล้วก็จะเลิกจองเวรจองกรรม
4. เหล่ายักษ์ผีรากษส งูพิษเสือร้าย ไม่อาจเป็นภัยอยู่ในที่ใดก็แคล้วคลาดจากภัย
5. จิตใจสงบ ราศีผ่องใส สุขภาพแข็งแรง กิจการงานเป็นมงคล รุ่งเรืองก้าวหน้าผู้คนนับถือ
6. มั่นคงในคุณธรรม ความอุดมสมบูรณ์ปรากฏ ( เกินความคาดฝัน) ครอบครัวสุขสันต์ วาสนายั่งยืน
7. คำกล่าวเป็นสัจจ์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพยินดี มิตรสหายปรีดา หนี้สินจะหมดไป
8. คนโง่สิ้นเขลา คนเจ็บหายได้ คนป่วยหายดี ความทุกข์หายเข็ญ สตรีจะได้เกิดเป็นชายเพื่อบวช
9. พ้นจากมวลอกุศล เกิดใหม่บุญเกื้อหนุน มีปัญญาล้ำเลิศ บุญกุศลเรืองรอง
10. สิ่งที่สร้า งจะบังเกิดเป็นกุศลจิตแก่ทุกคนที่ได้พบเห็นเป็นเนื้อนาบุญอย่างเอนกทุกชาติ
ของผู้สร้างที่เกิดจะได้ฟังธรรมจากพระอริยเจ้าปัญญาในธรรมแก่กล้าสามารถได้อภิญญาหก สำเร็จโพธิญาณ
อานิสงส์การบวชพระบวชชีพรามณ์ ( บวชชั่วคราวเพื่อสร้างบุญ , อุทิศให้พ่อแม่เจ้ากรรมนายเวร)
1. หน้าที่การงานจะเจริญรุ่งเรือง ได้ลาภ ยศ สรรเสริญตามปรารถนา
2. เจ้ากรรมนายเวรจะอโหสิกรรม หนี้กรรมในอดีตจะคลี่คลาย
3.. สุขภาพแข็งแรง สติปัญญาแจ่มใส ปัญหาชีวิตคลี่คลาย
4.. เป็นปัจจัยสู่พระนิพพานในภพต่อๆไป
5. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง โพยภัยอันตรายผ่อนหนักเป็นเบา
6. จิตใจสงบ ปล่อยวางได้ง่าย มองเห็นสัจธรรมแห่งชีวิต
7. เป ็นที่รักที่เมตตามหานิยมของมวลมนุษย์มวลสัตว์และเหล่าเทวดา
8. ทำมาค้าขึ้น ไม่อับจน การเงินไม่ขาดสายไม่ขาดมือ
9. โรคภัยของตนเอง ของพ่อแม่ และของคนใกล้ชิดจะเบาบางและรักษาหาย
10. ตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ได้เต็มที่สำหรับผู้ที่บวชไม่ได้เพราะติดภาระกิจต่างๆ
ก็สามารถได้รับอานิสงส์เหล่านี้ได้ด้วยการสร้างคนให้ได้บวชสนับสนุนส่งเสริมอาสาการให้คนได้บวช
ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงตัวอย่างบุญที่ยกขึ้นมา เพื่อแสดงให้เห็นถึงอานิสงส์ที่ท่านพึงจะได้รับ จงเร่งทำบุญเสียแต่วันนี้ เพราะเมื่อท่านล่วงลับ ท่านไม่สามารถสร้างบุญได้อีกจนกว่าจะได้เกิด หากท่านไม่มีบุญมาหนุนนำแรงกรรมอาจดึงให้ท่านไปสู่ภพเดรัจฉาน ภพเปรต ภพสัตว์นรกที่ไม่อาจสร้างบุญสร้างกุศลได้ ต่อให้ญาติโยมทำบุญอุทิศให้ก็อาจไม่ได้รับบุญ ดังนั้นท่านจงพึ่งตนเองด้วยการสร้างสมบุญบารมีซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ท่านจะนำติดตัวไปได้ทุกภพทุกชาติเสียแต่วันนี้ด้วยเทอญ
*** ส่งต่อก็ได้บุญ การให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง *
29 พฤษภาคม 2552 12:41 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
เ ลื อก ข อง ใส่ บา ต รต า มวัน เกิด วันอาทิตย์
อาหารคาว : ประเภทไข่ ไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ลูกเขย ต้ม แกงกะทิ
อาหารหวาน : ไข่หวาน มะพร้าวอ่อน มะพร้าวแก้ว ขนมใส่กะทิ น้ำกระเจี๊ยบ น้ำมะพร้าว น้ำขิง เงาะ
ของถวายพระ! : หลอดไฟ ไฟฉาย เทียน ธูป อุปกรณ์แสงสว่าง แว่นตา หมากพลู
ไหว้พระ : ปางถวายเนตร ( พระประจำวันเกิด) กำลังวันเท่ากับ 6 (สวดแบบย่อ อะ วิช สุ นุส สา นุต ติ)
ทำทาน : เติมน้ำมันตะเกียงตามวัด คนตาบอด โรงพยาบาลโรคตา มูลนิธิคนตาบอด โรงพยาบาลโรคหัวใจ มูลนิธิโรคหัวใจ
พฤติกรรม : ออกรับแสงอาทิตย์อ่อนๆ ช่วงเช้าหรือเย็นๆ เพื่อให้เกิดพลัง อย่าใจร้อน เลิกทิฐิ ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น
วันจันทร์
อาหารคาว : ประเภทสัตว์ปีก สัตว์น้ำ เช่นไก่ผัดขิง ไก่ย่าง ไก่ทอด ปูผัดผงกะหรี่ ปูนึ่ง ข้าวมันไก่ ข้าวผัดปู เต้าหูทอด แกงจืดเต้าหู้ แกงเผ็ดเป็ดย่าง ปลาสลิดทอด
อาหารหวาน : น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง น้ำอ้อย โดนัท นมสด นมกล่อง เผือก มันลางสาด ขนมเปี๊ยะ
ของถวายพระ : แก้วน้ำ แจกัน ของโปร่งๆ ใสๆ
ไหว้พระ : ปางห้ามญาติ ( พระประจำวันเกิด) กำลังวัน เท่ากับ 15 ( สวดแบบย่อ อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา)
ทำทาน : มูลนิธิช่วยเหลือสตรี
พฤติกรรม : ทำจิตใจให้สดชื่น แจ่มใส อยู่เสมอ อย่าวิตกกังวลเกินเหตุ ให้ความช่วยเหลือสตรีเช่นลุก ให้สตรีนั่งบนรถเมล์บริหารกล้ามเนื้อหน้าอกให้แข็งแรง
วันอังคาร
อาหารคาว : อาหารประเภทเส้น ขนมจีน วุ้นเส้น บะหมี่ ก๋วยเตี๋ยว เนื้อวัว ปลาช่อนตากแห้งทอด
อาหารหวาน : ฝอยทอง สลิ่ม ลอดช่อง ทุเรียน ระกำ ขนุน น้ำสไปร์ท น้ำอัดลม
ของถวายพระ : เหล็ก เครื่องมือประเภทเหล็ก กรรไกร แปรงสีฟัน ยาสีฟัน พัดลม กรรไกรตัดเล็บ
ไหว้พระ : ปางไสยาสน์ (พระนอน) มีกำลังเท่ากับ 8 (สวดแบบย่อ ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง)
ทำทาน : คนพิการทางปาก ปากแหว่ง ผู้ป่วยโรคลมชัก
พฤติกรรม : ทำตัวให้กระฉับกระเฉง ตื่นตัว ขยันให้มากขึ้น ลดอารมณ์ร้อน การชิงดีชิงเด่น
วันพุธ (กลางวัน)
อาหารคาว : เน้นสีเขียว-หมู แกงเขียวหวานหมู หมูปิ้ง หมูทอด ผัดพริกหมู คะน้าน้ำมันหอย
อาหารหวาน : ขนมเปียกปูนเขียว น้ำฝรั่ง ชมพู่เขียว องุ่นเขียว มะม่วงเขียวเสวยฝรั่ง ชามะนาว
ของถวายพระ : สมุด กระดาษ ปากกา ดินสอ อุปกรณ์การเรียนการศึกษา
ไหว้พระ : ปางอุ้มบาตร (พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 17 ( สวดแบบย่อ ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท )
ทำทาน : คนพิการทางหู โรงพยาบาลโรคสมอง โรงเรียนสอนคนหูหนวก
พฤติกรรม : อ่านหนังสือธรรมะ ร้องเพลง ฝึกสร้างความมั่นใจให้ตนเอง
วันพุธ (กลางคืน)
อาหารคาว : ของหมักดอง ผักกาดดองผัดไข่ อาหารกระป๋อง แกงใบยอ หมูยอ แหนม ไข่เยี่ยวม้า ห่อหมก
อาหารหวาน : ข้าวหมาก ขนมเปียกปูนดำ เฉาก๊วย ข้าวเหนียวดำ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผลไม้หัวโตๆ ทุเรียน
ของถวายพระ : พัดลม เทปธรรมะ ยาแก้โรคลม ยาหอม
ไหว้พระ : ปางป่าเลไลย์ ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 12 (สวดแบบย่อ คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ )
ทำทาน : มูลนิธิหรือหน่วยงานที่เกี่ยวกับยาเสพติด
พฤติกรรม : เลิกบุหรี่ เลิกดื่มหรือลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เลิกการพนัน เลิกทำตัวเหลวไหล เลิกเที่ยวกลางคืน เลิกยาเสพติดทุกชนิด
วันพฤหัสบดี
อาหารคาว : ประเภทเถา แกงเลียง บวบผัดไข่ น้ำเต้า
อาหารหวาน : แตงโม แตงไทย น้ำสมุนไพร ส้ม สาลี่ น้ำมะตูม น้ำว่านหางจระเข้
ของถวายพระ : สบง จีวร หนังสือธรรมะ ตู้ยา โต๊ะหมู่บูชา
ไหว้พระ : ปางสมาธิ ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 19 ( สวดแบบย่อ ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ)
ทำทาน : โรงพยาบาลสงฆ์ บริจาคข้าวสาร เสื้อผ้า ผ้าห่มกันหนาว
พฤติกรรม : นั่งสมาธิ สวดมนต์ ถือศีล! 5 อย่าซื่อจนเกินไป
วันศุกร์
อาหารคาว : ประเภทของหอม หวาน ข้าวหอมมะลิ ผักกาดหอม ไข่เจียวหอมใหญ่ ยำหัวหอม
อาหารหวาน : ขนมหวาน หอมทุกชนิด น้ำเก๊กฮวย ผลไม้ที่มีกลิ่นหอม กล้วยหอม เค้ก
ของถวายพระ : นาฬิกา โต๊ะรับแขก ดอกไม้สวยหอม ระฆัง ย่าม
ไหว้พระ : ปางรำพึง ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 21 ( สวดแบบย่อ วา โธ โน อะ มะ มะ วา)
ทำทาน : เด็กด้อยโอกาส ให้เงิน ให้เสื้อผ้า อาหารที่หอมหวานชวนกิน เช่น ไอศกรีม
พฤติกรรม : ทำตัวให้สดชื่นแจ่มใส บำรุง ดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่ตลอด จัดสิ่งแวดล้อมให้น่าอยู่ สวยงาม เลิกการฟุ่มเฟือย
วันเสาร์
อาหารคาว : ประเภทของขม ของดำมะระยัดไส้ สะเดาน้ำปลาหวาน น้ำพริกปลาทู มะเขือยาว
อาหารหวาน : ลูกตาลเชื่อม กาแฟ โอเลี้ยง
ของถวายพระ : ร่มสีดำ กระเบื้องมุงหลังคา ไม้กวาด สร้างห้องน้ำถวายวัด
ไหว้พระ : ปางนาคปรก ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 10 ( สวดแบบย่อ โส มา ณะ กะ ระ ถา โธ)
ทำทาน : โรงพยาบาลโรคจิต โรงพยาบาลโรคประสาท
พฤติกรรม : กวาดลานวัด ล้างห้องน้ำวัด ไม่เครียด มองโลกในแง่ดี ขยะในบ้านยกทิ้งทุกวัน อย่าหมักหมม
14 พฤษภาคม 2552 16:50 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ซากเศษของหัวใจ
ฉันค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมาทีละนิด แสงออ่นๆค่อยผ่านม่านตาทีละนิดอย่างเลือนราง แล้วค่อยแจ่มชัดขึ้นทีละน้อย
หลับตานอนนิ่งกลับเตียงที่มีสายอะไรต่อมิอะไรระโยงรยางค์เกะเกะทั่วตัวเต็มไปหมด ...ใช่ฉันยังไม่ตาย....ฉันรอดมือมัจจุราชมาได้อย่างหวุดหวิดอีกครั้งหนึ่ง
ค่อยๆพยุงร่างกายและทอดเข็มที่เสียบสายน้ำเกลืออก เดินตรงไปที่หน้าต่าง เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น พร้อมมีเสียงที่แฝงความห่วงใยดังขึ้น
เป็นไงบ้าง...เงียบหายไปเลยน่ะแก....ฉันไม่เข้าใจแกจริงๆทำไมไม่รู้จากโต้ตอบ รู้จักโกรธ รู้จักแค้นมั่งว่ะ เป็นฉันไม่ได้ จะยิงทิ้งมันซะเลย โดนเค้าโกงระรานไม่หยุด แกจะทนไปถึงไหน ทั้งๆที่อะไรมันผ่านไปตั้งนานแล้ว แกทำไมรู้จักตอบโต้ ฉันหล่ะ โมโหแทนแกจริงๆ
โกรธแล้วทุกข์ไหม ฉันตอบไป คนบางคนเปลี่ยนไม่ได้ ฉันทำไมต้องไปทุกข์เพราะสิ่งนั้นอีก ในเมื่อเราอยู่กับสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
ที่ไม่สบายเกี่ยวกับสุขภาพตัวเองไม่เกี่ยวกับใคร
คนบางคนไม่มีค่าให้แม้แต่คิดถึงด้วยซ้ำ
การที่เราหมดความสนใจใครคนหนึ่ง ก็ต่อเมื่อเราได้เห็นความเป็นที่สุดของเขา ทันทีที่เราพบข้อบกพร่องและความเห็นแก่ตัวที่ร้ายกาจของเขา เราจะหมดความศรัทธาและหมดความสนใจในเรื่องราวของเขาจะจบลงเพียงแค่นั้น
ฉัน มันนางมาร ไม่เหมือนแก... แกเหลืออะไรตอนนี้ ชื่อเสียง หน้าที่การงาน ทรัพย์สมบัติ ฉันไม่ได้ตอกย้ำ แต่ฉันสงสารแก และแค้นแทนมาก ฉันรู้ แกน่ะรักศักดิ์ศรีมากกว่าสิ่งอื่นใด พอแกสร้างใหม่ มันก็ตามมาทำลาย แกจะต้องเริ่มต้นใหม่อีกกี่ครั้ง พูดแล้วโมโห
เสียงปลายสายกระแทกกระทั้นตอบกลับมา
แกก็คิดอย่างนี้สิ... ความล้มเหลวทุกครั้ง..มันเป็นบทเรียนที่ปลอมแปลงมา ซึ่งเราไม่อาจเรียนรู้ได้โดยวิธีอื่นเราเรียกสิ่งที่ล้มเหลวนั้นเป็นความพ่ายแพ้ชั่วคราว
โอ๊ย...คุยกับแกแล้วไม่ได้ดั่งใจเลย....เป็นฉัน ฉันต้องเอาคืนแน่ อย่างน้อย ด่า มันบ้างก็ยังดีไม่งั้นฉันอกแตกตาย
จ๊ะ....ถ้าแกแค้น หรืออยากจะด่า จะสบประมาทใครบางคนออกมา ขอให้แกเขียนมันลงบนพื้นทรายที่ขอบน้ำ
เฮ้อออ....สาธู....หายไวน่ะแก จะได้ไปขึ้นดอยดูหนุ่มดอยกัน รักษาสุขภาพน่ะ แค่นี้ก่อนน่ะ ...รักน่ะ...
จ๊ะ เช่นกัน
ฉันวางโทรศัพท์ลง และอมยิ้มเมื่อนึกถึงหน้าเพื่อนคนนี้
หัวใจคนเรา สำคัญ ความคิด ยิ่งสำคัญและหน้ากลัวอยู่ที่วิธีคิด การให้อภัยเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าเราลงมือทำ แรกๆอาจจะฝืนสักนิด แต่เราจะทำได้เองในที่สุด
วิบากกรรมเป็นสิ่งที่มนุษย์เราทุกคนคงมี อยู่ที่ใจ ว่าเราที่ต่อกรรม หรือตัดกรรมเท่านั้น
ถ้าเราอยู่ในสังคมที่วุ่นวาย และอยู่กับคนที่ร้อนรน โมโห หงุดหงิดง่าย เราควรควบคุมความคิดและจิตเรา อย่าไปฟุ้งตาม
เรื่องที่ว่ายากแสนยากทั้งหลายถ้าเราลงมือกระทำไปแล้ว เราจะพบความสุข คิดบวก คิดง่ายถ้าหัวใจคุณเปิดที่จะคิดมัน
แต่สิ่งสำคัญคุณต้องทำได้ด้วยค่ะ
14 พฤษภาคม 2552 12:26 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
เรื่อง โทรศัพท์
จีบกันใหม่ๆ.....โทรหากันทุกวัน...โทรแล้วตัด...ตัดแล้วโทรต่อ.....
พอนานไป..โทรหากันทุกวัน...คุยกันไม่ได้ 5นาที
สุดท้าย ว่างนักรึ โทรมาทำฟะ ไม่มีธุระอย่าโทรมา
จีบกันใหม่ๆ.....
สวัสดีค่ะ สวัสดีครับ จ๊ะๆจ๊าๆ อดกิน อดนอนเพียงเพื่อได้คุยกัน
พอนานไป เดี๊ยวน่ะเดี๊ยว ค่อยโทรมาใหม่แล้วกัน
สุดท้าย โทรเท่าไรก็โทรไม่ติด เพราะปิดเครื่อง เพราะคลื่นไม่ดี เพราะมีหลายเบอร์แต่ไม่บอกกัน
จีบกันใหม่ๆ....เดี๊ยวค่าโทรศัพท์จะจ่ายให้...
พอนานไป...ไปจ่ายค่าโทรศัพท์ให้หน่อยน่ะ
สุดท้าย.... โทรศัพยท์จะโดนตัดแล้วทำไมไม่ไปจ่ายให้ด้วยเฮงซวยจริงๆ
จีบกันใหม่ๆ....มือถืดเปิด24ชั่วโมง
พอนาน....ไปปิดนอนเข้านอน
สุดท้ายปิดตอนไหนก็ปิด
เรื่องการนอน
จีบกันใหม่ๆ...นอนละเมอถึงเธอทุกวัน
พอนานไป...นอนละเมอเปลี่ยนชื่อเธอทุกวัน
สุดท้าย...นอนละเมอกลับบ้านไม่ถูกสักวัน
คุณเป็นแบบไหน หรือว่า อยากได้ยินเสียงของใครทุกวัน ขอเพียงได้ยินก็มีความสุข
หรือบอกตัวเองว่า ทำไมรู้สึกโหยหา ไม่รู้เบื่อ ฟังเสียงเจื้อยแจ้ว เพลิดเพลิน
หลับสบาย
ในทางตรงข้าม หรือคุณ ยังไม่มีใคร หรือคุณ ยังไม่เจอคนที่ใช่ คุณเพียงเหงา ดีกว่าไม่มีใครคุยด้วย
มีคนเคยกล่าวว่า ความรู้สึกส่งผ่านกันได้ ขอเพียงหัวใจของใครสองคนตรงกัน
ในความรู้สึกนั้น เหมือนมีอ้อมกอดแห่งรัก อ้อมกอดความอบอุ่น
เพียงแต่ใครจะรู้สึกได้ ถ่ายทอดอารมณ์ซึมซึบความอ่อนหวานได้ถึงเพียงใดเท่านั้น
เรื่องของหัวใจ กลไกลต้องเดินตามแรงขับเคลื่อน ถ้าคุณพร้อมเปิดใจ
เรื่องดีๆทั้งหลาย ทำให้เปลี่ยนแปลง
สุดท้าย ขอให้คู่รัก เพื่อนสนิท คนรู้ใจ รักษามิตรภาพและสายใยตราบนานเท่านา
2 เมษายน 2552 13:32 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
จากการที่ต้องติดตามคู่ชีวิต ขึ้นเหนือล่องใต้ จากใต้ไปเหนือ เพราะภาระหน้าที่ การงาน ที่ท่านต้องไปสอนตามวิทยาลัยสงฆ์ และสอนคนธรรมดาในวันเสาร์ อาทิตย์ ทำให้เรียนรู้อะไรมากมาย
โดยเฉพาะที่เชียงราย สัมผัสและติดตามไปหลายจังหวัด แต่ไม่มีที่ไหนที่บุคคลจิตใจดี มีเมตตาเท่าที่จังหวัดเชียงราย
ปฎิบัติธรรม การนั่งสมาธิ เป็นสิ่งที่ดีและเห็นผลมาก ทำให้ชีวิตที่เจอเรื่องที่เลวร้าย กลับ เจอแต่คนดีๆ เรื่องดีๆความสุขหาได้ง่ายจากใจนิดเดียว เมื่อก่อนฉันไม่เคยเชื่อเรื่องราวเหล่านี้ คิดว่าชีวิตคนต้องลิขิตเอง คนที่ล้มเหลวและหมดที่พึ่งเท่านั้นที่หันไปพึ่งธรรมมะ
ดร.ฤทธิชัย คู่ชีวิตไม่เคยบังคับ ให้ฉันนั่งสวดมนตร์ไหว้พระทุกเช้าอย่างที่ท่านทำเป็นประจำทุกวัน ท่านก็ทำเช่นนั้นของท่านทุกวัน มีเวลาท่านจะนั่งสมาธิ ท่านให้ฉันเรียนรู้และยอมรับด้วยตัวเองจวบจนหนึ่งปี ฉันละอายใจจึงยอมสวดมนตร์ไหว้พระตามท่าน ทำให้ฉันหลุดพ้น ความคิดตัวเองที่มองและเข้าใจเพียงด้านเดียว มองและยอมรับความเป็นไปทีละนิด ฉันติดตามท่านใช้ชีวิตเรียบง่าย ยอมตามท่าน ปฎิบัติธรรมด้วยความเต็มใจ และ และสอนการนั่งสมาธิ บรรยายหลักธรรมง่ายๆให้เด็กนักเรียนตามเวลาและโอกาสอำนวย ถ้ามีเวลามากพอเราสองคนจะนั่งรถขึ้นดอยไปสอนหนังสือ ให้เด็กบนดอย โดยไม่คิดค่าตอบแทนใดๆ แววตาที่สดใสใต้เสื้อผ้าที่มอมแมม เวลาที่เห็นฉัน ทุกครั้งที่ขึ้นไป จะวิ่งลงมาสวมกอดกระโดด โลดเต้นด้วยความยินดี เป็นความอิมเอมที่บรรยายไม่ถูก การให้ข้อคิดกับนักศึกษาที่โทรมาปรึกษา หรือ พูดคุยยามพวกเขามีปัญหา
ไม่เคยได้ยินท่านว่าใคร หรือโกรธใคร เคยถาม ท่านได้แต่ตอบว่า พูดกันไปพูดกันมา มีประโยชน์อะไร ถ้าเรื่องไม่ดีเท่ากับเราต่อกรรม
พ่อคิดว่าตัวเองมีค่ากว่าคนเหล่านั้นใครทำ เดี๋ยวก็ได้รับกรรมนั้นเอง ฉันเคยโมโห เพราะคิดว่า เป็นคนดีกับถูกคนใส่ร้ายดูถูกมันคนละเรื่องกันเราต้องต่อสู้ไม่งั้นเขาจะว่า เราโง่
แต่ก็ต้องแปลกใจที่มีคนมากมายออกมาปกป้องท่าน และช่วยเหลือโดยที่ทานไม่เคยร้องขอ
การอยู่กับคนจิตใจดีถือว่าเป็นบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่สำหรับฉัน เศรษฐกิจพอเพียง การใช้ ชีวิตอย่างพอเพียงและพอใจแค่ที่เรามีและที่เราเป็นมีความสุขยิ่งนัก ดีใจที่เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทย
ฉันใช้เวลาว่างในช่วงแต่ละวัน ช่วยกันทำต้นไม้และประดิษฐ์ของขาย ไม่สนใจว่าขายได้ไหม ได้กำไรเท่าไร ฉันขาย เพียงต้นละสิบบาท เพราะคิดว่ามาขายความสุข ให้คนซื้อมีความสุขกับต้นไม้และสิ่งประดิษฐ์ขึ้นมา มองดูคนเดินไปเดินมา ที่ถนนคนเดินเชียงรายและพูดคุยกับลูกค้าที่เป็นนักศึกษาส่วนมากแวะเวียนมาดูและถ่ายรูป ไม่พ้นแม้แต่ฝรั่งยังถ่ายรูปร้านของฉันไปหลายคน
แค่นี้ก็มีความสุขแล้วที่เห็นคนมองร้านฉันและแวะมามองแล้วมองอีก บอกว่า จัด ร้านน่ารัก ไม่ซื้อไม่เป็นไรแต่ฉันก็ขายได้ตั้งพันกว่าบาท
แต่ความตั้งใจคือ ขายได้ไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร แต่ฉันมีความสุขมากกับสิ่งที่ฉันช่วยกันทำออกมา ฉันบอกกับดร.ฤทธิชัยแล้วว่า
เราไปขายความสุขกันน่ะพ่อ
ความสุขหาได้ง่ายถ้าเราไม่ไปทำให้ใครเดือดร้อน และทำในสิ่งที่เป็นไปได้ ความสุขอยู่แค่ปลายจมูกเท่านั้นเพียงหายใจออกมาก็เจอแล้ว