26 มกราคม 2554 15:24 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ในละอองฝนหนาวที่โปรยปราย
บอกผ่านสายลมเดียวดายว่าคิดถึง
แม้ท้องฟ้าเวิ้งว้างยังคะนึง
อยากบอกว่ามีเธอคนหนึ่งในดวงใจ
ในสายลมเหน็บหนาวที่คราวนี้
อยากรู้ว่าคนดีอยู่ที่ไหน
จะร้อนเจ็บเหน็บหนาวเพียงเท่าใด
โปรดรู้ไว้ว่าหัวใจเราใกล้กัน
อ้อมกอดฟ้ากี่ความฝันกี่วันที่
ทุกนาทีมีเธออยู่คู่ใจฉัน
แม้ดาวเดือนเลือนลับกับแสงจันทร์
แม้ตะวันแปรผันจากรอยทราย
ด้วยหัวใจที่โหยหาจนล้าแรง
ด้วยความหวังริบหรี่แสงแทบจางหาย
ด้วยความอ้างว้างกลางน้ำค้างที่เดียวดาย
ยังรออยู่รู้บ้างไหม...โปรดคืนหัวใจมาใกล้กัน....
18 มกราคม 2554 21:29 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ก้มหน้าทำงานนั่งเงียบเชียบ
ในห้องหับราบเรียบคนเดินผ่าน
ใช้น้ำหมึกต่างเหงื่อเพื่อเขียนงาน
เพื่อสร้างจิตนาการความฝันอันเสรี
อยากมอบไฟฝันปันความสุข
เพื่อปลอบปลุกมอบให้ไปทุกที่
ต่อเติมความฝันวันที่มี
ถ้อยวาทีสำทับโปรดรับรู้
หนึ่งในบทชีวิตที่ขีดเขียน
ยังวนเวียนฉากชีวิตที่เป็นอยู่
ใช้บทกลอนระบายบอกไหลพร่างพรู
บอกให้รู้แลกเหงื่อเนื้อชิ้นงาน
แต่บทงานเป็นก้อนกลมถมขยะ
แค่เศษกระดาษหมดสิ้นค่าคนมองผ่าน
ไฟความฝันเริ่มมอดดับเป็นตำนาน
คงถึงกาลอวสานผ่านร่วงโรย
แต่เพราะใจรักงานในการเขียน
จึงพากเพียรแม้อดยากจนหิวโหย
หลายบทความฟันฝ่าน้ำตาโปรย
เป็นคราบโรยซ้ำซากฉากน้ำตา
9 มกราคม 2554 23:39 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ฝากรอยยิ้มอิงแอบอกไออุ่น
ผ่านบทกลอนหวานละมุ่นกรุ่นความหวาน
ฝากดวงดาวเรียงร้อยเป็นตำนาน
มาขับขานข้ามม่านหมอกฝากบอกไป
เป็นบทเพลงบทหนึ่งซึ่งวันนี้
สังคีตสีแว่วเสียงสำเนียงใส
หอมอบอุ่นกลิ่นกรุ่นละมุนละไม
ดวงดอกไม้แย้มยิ้มริมลำธาร
ผ่านบทกวีร้อยกรองทำนองเสนาะ
หลั่งรินเซาะสู่หัวใจไหววาบหวาน
ผ่านตัวโน๊ตผิวแผ่วแว่วกังวาน
ประจักษ์ขานผ่านดวงจันทร์พันดวงดาว
ถ้าเหนื่อยนักพักลง...ที่ตรงนี้....
ผ่านเรื่องราวมากมีที่เหน็บหนาว
มอบบทเพลงรักษาใจในครั้งคราว
ใต้แสงนวลกระพริบพราวใต้เงาจันทร์
ผ่านความหวังจิตนาการของความสุข
มาปลอบปลุกหัวใจในความฝัน
หวังตราตรึงครั้งหนึ่งเคยจำนรรจ์
บทเพลงหนึ่ง...เพลงนั้น...ในวันนี้