17 ธันวาคม 2552 16:14 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
อยากจะเก็บคลื่นและลมมาให้
มอบอุ่นไอแสงแดดอ่อนผ่อนคลายหนาว
เก็บตะวันที่สาดส่องท้องฟ้าพราว
อยากเก็บดาวร้อยมาลัยส่งให้คุณ
หรือเป็นเมฆขาวให้คุณหนุนแทนตัก
โปรยดอกรักล้อมเรียงรายกลิ่นหอมกรุ่น
ส่งรอยยิ้มพร้อมอ้อมแขนโอบละมุ่น
ซบอกอุ่นนอนอิงแอบแนบนิทรา
พร้อมจะเป็นสายลมพัดพริ้วผ่าน
เป็นตัวแทนความอ่อนหวานสเน่หา
เป็นเดือนดทอประกายแสงสู่สายตา
เป็นจันทราส่องฉายใต้เงาจันทร์
ฉันจะเป็นตัวแทนแห่งความรัก
มาทายทักรักคุณในห้วงฝัน
เหมือนเถาวัลย์พันเกลียวความสัมพันธ์
เป็นตัวแทนความผูกพันธ์ทุกวันเวลา
7 ธันวาคม 2552 14:56 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ในวันที่เจิดจ้าฟ้าภาคเหนือ
หญิงสาวแห่งเลือดเนื้อบริสุทธิ์
ผลิบานท่ามกลางมวลมนุษย์
ขณะผึ้งรี่รุดเวี่ยผกา
บนวงหน้าวาดยิ้มชายผู้พ่อ
นัยน์ตาแม่น้ำตาคลอต่ออุตสาห์
เป็นประกายฉายฉานในดวงตา
มอบเส้นทางก้าวที่กล้าดรุณี
แหละเป็นวันที่ดอกเอื้องเหลืองบานเบ่ง
มวลผีเสื้อร้องเพลงรุ้งเปล่งสี
กับเงาแสงแห่งวันร่วมยินดี
มโหรีลำนำเพลงล้านนา
แต่ชีวิตเป็นบทตอนละครฉาก
วิบากกรรมจำพรากซ้ำซากค่า
มือไชชอนถือกุมอุ้มชะตา
เป็นซากปรักมายานิทราจม
ซบใบหน้าข่มใจกับใบหมอน
กำชับความทุกข์ร้อนผ่อนขื่นขม
หลังหน่วยร่างซาตานผลาญอารมณ์
ดาวในใจสลายล่มลงถมกอง
เป็นคำสาปบาปกรรมกับป์กัลป์ชาติ
ก็มิอาจเข้าใจนัยสนอง
สามสิบสามเจริญวัยใจหมายปอง
บนเส้นทางเรืองรองผุดผ่องพราว
ในคืนที่แจ่มจ้าเพ็ญมาฆะ
เธอก้มกราบไหว้พระด้วยบัวขาว
บทสวดมนต์ซึมแทรกแผลแตกร้าว
ภายใต้ดวงตาดาววับวาวดวง
เธอนั่งลงใกล้ลูบไล้ผม
ลูกที่หลับใต้ผ้าห่มชมและห่วง
พักผ่านห้วงขมขื่นมาชื่นทรวง
ปล่อยน้ำตาไหลร่วงถ่วงกายนอน
เพื่อว่ารุ่งเช้าฟ้าพราวแสง
ระเหยแห้งน้ำตาไหลบ่าหมอน
เป็นผลึกสีใสในตะกอน
เธอตั้งจิตขอพรก่อนอโหสิกรรม
เคี่ยว โคมคำ ได้บรรยายความรู้สึกในบทกวีนี้ไว้ว่า ความร่าเริงของวัยเด็ก คือปฐมชีวิตที่เบิกบานเคลื่อนไหวอยู่ในโลกสีขาว เมล็ดพันธุ์แห่งจินตนาการโปรยหว่านบนลานหฤหรรษ์ที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม ชีวิตเปลี่ยนผ่านสู่ดรุณวัยไปได้ไม่ไกลนัก วิบากกรรมชีวิตที่หมุนวนไม่รู้จบก็เดินทางเข้ามาทักทายเป็นระลอก ท่วงทำนองของอารมณ์ความรู้สึกมีทั้งอ่อนโยนและแข็งกร้าว ทำให้ชีวิตตกอยู่ในสงครามชะตากรรม ที่มีทั้งการต่อสู้และการให้อภัย ผลบวกของความสุขสงบจะมีมากหรือน้อย จึงขึ้นอยู่กับสังคมอ่อนแอและเข้มแข็ง ซึ่งเป็นคำบรรยายที่ตรงใจและให้ความรู้สึกเป็นยิ่งนัก
ขอบคุณปฐมบทแห่งการบรรยายในกวีทรรศน์ ของเคี่ยว โคมคำในหนังสือเนชั่นสุดสัปดาห์คะ
และที่ต้องขอบคุณกัลยาณมิตรอย่าง ต้นกล้า อันดามัน ที่ร่วมกันร้อยเรียงบทกวีชิ้นนี้ขึ้นมา มิตรภาพแห่งหญิงชายมิได้เสมอเหมือนว่าด้วยเรื่องรักใคร่ แต่มิตรภาพต้นกล้า อันดามัน และกระต่ายใต้เงาจันทร์เป็นเพื่อนร่วมสหายและรักบทกวีเหมือนกันและความรักใดในโลกหล้าหนึ่งในนั้นสิ่งที่โชคดีสำหรับชีวิตคือการมีเพื่อนแท้ จริงใจ ปราศจากสิ่งใดแอบแฝง ขอบคุณ มิตรภาพหลายปีที่รู้จักกัน
ขอบคุณ มิตรแท้ ที่ทำให้ตัวเองรู้สึกว่า สิ่งดีๆในสังคม ยังมีให้เราพบเจอ อย่างเช่น ต้นกล้า อันดามัน