19 มีนาคม 2551 01:02 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
สามสี่ใสสุกและซุกซน
สี่สามสับสนบนลานบ้าน
สามสี่ส่องแสงต้องวันวาร
สี่สามสงสารชื่นบานมา
เจ็ดราวรุ้งสดฉายสู่ทรายเช้า
หนึ่ง หล่อหลอมแรงเร้าเราค้นหา
ลานทรายพรายสีชีวิตชีวา
เลือนใจเดียงสายิ่งพร่าพราย
ซับภาพผุดผ่องน้องและพี่
ทุกทีท่วง ณ. ที่มิหนีหาย
อึกทึก-รับรู้รักมิคลาย
แม้ชีพวายกลับแช่มช้อยทุกรอยคืน
ดื่มด่ำห้วงสุขนี้พี่กับน้อง
รุก-รับราวสอดคล้องมิคลายเคลื่อน
แม้วันเคลื่อนเดือนคล้อยตะวันเลือน
ดวงแดดเยือนเรือนร่มห่มพื้นทราย
ปิติในใจฉันพลันหลากล้น
ท่วมทับท้นมิเลือนรางจางห่างหาย
พี่กับน้องและสัตว์เลี้ยงเคียงคู่กาย
ผุดพร่างพรายที่ตาแก้มแต้มรอยยิ้ม
18 มีนาคม 2551 12:26 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
แสงดาวพราวระยิบลิบขอบฟ้า
สู่สายตาเวิ้งว้างบนทางฝัน
แม้หนทางยาวไกลไม่สำคัญ
สายสัมพันธ์กลมเกลียวเกี่ยวสองใจ
เธอกับฉันห่างกันข้ามขุนเขา
ความเป็นเรามิเหินห่างจางไปไหน
ผ่านลมฝนต้นหนาวไม้ผลัดใบ
อยู่ถิ่นแคว้นแดนใดใจผูกพันธ์
จากขุนเขาสู่ทะเลช่วยเห่กล่อม
ทรายโอบล้อมทอประกายเหมือนในฝัน
การรอคอยสู่จุดหมายใจตรงกัน
วันสำคัญเข้าสู่ประตูวิวาห์
สิบแปดปีการรอเพียงพอแล้ว
ระฆังแก้วก้องกังวานหวานทั่วหล้า
สู่อ้อมกอดจอมขวัญตามสัญญา
คืนนิทราราตรีนี้มีเพียงเรา
1 มีนาคม 2551 03:17 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
อยากจะเก็บเปลือกหอยมาเรียงร้อย
ฝากลมค่อยกระซิบแต่งแต้มฝัน
อยากตักน้ำทะเลใสใส่แจกัน
เก็บตะวันแต้มฝันบนผืนทราย
ให้เมฆหมอกสีขาวแทนผ้าห่ม
ให้สายลมแทนอ้อมกอดมิห่างหาย
ใช้ท้องฟ้าห่อห้อมล้อมแทนกาย
เปล่งประกายพราวแสงแห่งสายตา
แทนสองเราคือเงาสล้างกลางเวหาศน์
สายรักพาดผูกพันธ์สเน่ห์หา
คือเงารักล่วงผ่านกาลเวลา
ทุกทิวาสองกายหนึ่งหายใจ
เหมือนสองเราในเงารักประจักษ์แจ้ง
ทุกหนแห่งมิห่างร้างไปไหน
เหมือนดอกไม้รับตะวันเช่นฉันใด
ฉันมีเธอในเงาใจตลอดเวลา