31 ตุลาคม 2551 11:14 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ในค่ำคืนที่เยียบเย็นทั่วผืนฟ้า
ดวงดาราทอแสงแต้มเพ็ญสรวง
เมฆบางเบาเคล้าคลอรอดาวดวง
น้ำค้างร่วงหล่นคว้างหว่างศิลา
เอื้อมมือหมายคว้าดาวมาสาวเก็บ
พอรู้ตัวแสนเจ็บใจเหน็บหนา
ห้วงภวังค์ยังล้ำเหลื่อมเอือมระอา
ต้องก้มหน้ามองดินแทบสิ้นใจ
ยิ่งดึกดึกอ้างว้างน้ำค้างโซม
กระพือโหมลมพาน้ำตาไหล
ดูหิ่งห้อยแสงเรื่อเจือแสงไฟ
หนาวหัวใจไร้จุดหมายในปลายทาง
ขออ้อมกอดแห่งน้ำค้างอหังการ์
มาล้างตาลืมความเศร้าก่อนรุ่งสาง
ความเหงาเศร้าสิ้นซานภาพางค์
ขอหนึ่งหยดน้ำค้างมาล้างใจ
12 ตุลาคม 2551 15:58 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ด้วยกำลังมุ่งมั่นร่วมฟันฝ่า
ด้วยศรัทธาน้อมนำทำหน้าที่
ด้วยอำนาจเงินตราบารมี
สุดท้ายที่ถกเถียงและเกี่ยงกัน
อิทธิพลเหนืออื่นใดใครกำหนด
หวังลาภยศหัวโขนโจนห้ำหั่น
ต่างซาดโคลนโยนเรื่องแค้นเคืองกัน
สารพันติดตามข่าวแสนเศร้าใจ
จะต้องเสียน้ำตาสักกี่หยด
จะรินรดเลือดสาดบาดรินไหล
ความบอบช้ำย้ำแยกแตกในไทย
เหมือนเปลวไฟเผาผลาญทั่วขวานทอง
เราคนไทยผืนดินเดียวมิใช่หรือ
โปรดยึดถือแนวทางเรื่องทั้งผอง
ใช้สติ คุณธรรม ตามครรลอง
อย่าให้ต้องเห็นคนไทยเข่นฆ่ากัน
เราคนไทยมีนิสัยรักสงบ
ขอจงพบทางแก้ไขด้วยใจมั่น
ลดทิฐิหาแนวทางเป็นกลางกัน
ขวานทองนั้นใช่ของใครคือไทยเรา