19 มกราคม 2550 23:17 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
นับแต่วันขลาดครูอยู่ตรงหน้า
เธอผวากอดแม่แดดวงหวั่น
ร้องไห้จ้าน้ำตาพรูกลัวครูนั้น
ต้องปลอบขวัญเสียยกใหญ่ให้กล้ำกลืน
ครูค่อยดัดหัดให้เขียนวนเวียนอ่าน
จนชำนาญขีดเขียนเรียนคำหมื่น
ค่อยบวกลบคูณหารผ่านวันคืน
เปลี่นวันขื่นเป็นเบิกบานผ่านน้ำตา
ร้อยเรียวรวกแสนร้ายร่ายวับเขี้ยว
เต็มรอยเขียวช้ำช้ำซ้ำหนักหนา
ร้อยรอยเรียวเสียวแปลบก้นแสบชา
ข่มใจตีแต่น้ำตาครูบ่าใน
ตีเพราะรักจะให้เรียนจะให้รู้
จะให้อยู่เป็นคนดีศรีสมัย
รักในตนรักในคนรักกว้างไกล
รักจะให้รู้จะรับนับถือตน
ถ้าสิ่งใดที่ครูทำให้เคืองขัด
จนอึดอัดอกแน่นแค้นใจหม่น
แม้สี่เท้ายังรู้พลาด-ครูคือคน
ที่เผอเรอแต่จะหนใช่ตั้งใจ
ถึงเธอโกรธครู ครูไม่โกรธ
และยินดีขอโทษอย่างซื่อใส
โปรดรับรู้เธอคือลูกผูกจิตใจ
ถึงอย่างไรครูยังรักมิหักคลอน
และขอโทษอีกครั้งถ้ายังข้อง
มิอยากให้เธอหม่นหมองจิตจ้องหลอน
ก่อนจากไปให้เธองามสิ้นแง่งอน
กลัวใจเธอจะเร่าร้อนและทุกข์ทน
หนึ่งในใจครูคือเธอสุดที่รัก
ไปทอถักรุ้งหวังสว่างหน
ไปสานต่อความฝันแต่ละคน
ให้สำเร็จผลดั่งฝันทุกวันไป
ขอให้เธอโชคดีเถิดที่รัก
เจอครูแค่ทายทักด้วยคำใส
เพียงเท่านี้ แค่นี้ ครูดีใจ
มิต้องการสิ่งใดให้มากมาย
ขอให้เธอทำดีเถอะที่รัก
แม้เหนื่อยนักทดท้ออย่าขอพ่าย
ผลกรรมดีไม่ทิ้งเธอให้เดียวดาย
พลังใจอย่าขาดหายจากบึ้งใจ
18 มกราคม 2550 21:25 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ความเงียบไม่ช่วยแก้ปัญหา
ปริปากพูดออกมาบ้างก็ได้
กลัวพิกุลทองจะร่วงหรืออย่างไร
ถ้าอยากไปขอให้พูดออกมา
รอทนฟังมานานจนเต็มที่
ทำเป็นมากพิธีไม่เข้าท่า
อยากไปจนเนื้อเต้นแสร้งเย็นชา
สร้างภาพลักษณ์ตบตาว่าแสนดี
ไม่ต้องลงทุนขนาดนี้ก็ได้
ถึงเธอไปฉันลืมได้เรื่องแค่นี้
แค่อกหักฉันขอพักสักสามนาที
กินไอติมสตอเบอร์รี่เดี๊ยวดีเอง
อยากจะไปเชิญไปตามสบาย
เชิญไปโชว์ลวดลายเจ้าชู้ที่แสนเก่ง
ไม่ต้องทำมาดเงียบเพราะฉันไม่หวั่นเกรง
แค่ขอนั่งร้องเพลงดีใจเธอไกลลา
15 มกราคม 2550 15:44 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
เรายังคงรักกันบ้างรึเปล่า
ไม่รู้เรื่องระหว่างเรามันแค่ไหน
คนรู้จัก คนรัก เพื่อนรู้ใจ
สิ่งที่คุณทำไปคิดอะไรได้มากมาย
โปรดบอกกันสักคำให้รับรู้
ว่าในใจไม่มีฉันอยู่แล้วใช่ไหม
ถึงทำกับฉันไม่แคร์สายตาใคร
หมดความหมายสายใยในวันนี้
พยายามตัดใจไม่รู้สึก
แต่ปวดลึกเร้นร้าวไปทุกที่
บอกตัวเองทำไมไม่รักดี
เจ็บทุกทีพอนึกถึงเรื่องของเรา
ความรักคงจบลงที่ตรงนี้
พอกันทีกับความโง่เขลา
ไม่เหลือแม้คำพูดระหว่างเรา
เหลือเพียงความว่างเปล่า..และ..เงา..ของ..น้ำตา..
14 มกราคม 2550 19:43 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
หัวใจฉันเริ่มบางเบาเหมือนเงาหมอก
ริ้วระลอกล้อลมผสมผสาน
หวีดหวิวหวีดกรีดกรายดั่งสายธาร
ความหอมหวานเจือระยับวับวาวแวว
เสียงหัวใจเต้นพลิ้วถูกผิวเนื้อ
แก้มแดงเรื่อเอียงอายใจเต้นแผ่ว
ตกหลุมรักของใครเข้าให้แล้ว
คงไม่แคล้วหัวใจใครได้ครอง
มองอะไรสดใสไปทั้งหมด
โลกใสสดงามตาพาผุดผ่อง
ยินเสียงไก่-ไก่ขันเป็นทำนอง
ฟังเสียงนก-นกร้องก้องพงไพร
ยินเสียงลมที่ลอยล่องแผ่วกระซิบ
ดาวกระพริบส่องสกาวฟ้าพราวใส
หอบความชุ่มเอิบอาบซาบทรวงใน
รอบางใครมอบหัวใจมาใกล้กัน
8 มกราคม 2550 09:29 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
.
ที่ที่เธอเคยหนุนนอน
หมอนที่เธอเคยหนุน
อ้อมกอดของฉันที่เธอเคยว่าอบอุ่น
กลิ่นกายหอมกรุ่นเธอเคยบอกว่า....ชื่นใจ.....
มันผ่านไปแล้วเวลานั้น
นับวันเธอยิ่งเป็นคนใหม่
ทำกับฉันไม่แคร์สายตาใคร-ใคร
เธอคงสะใจที่เห็นฉัน....มีน้ำตา....
เพราะเธอลืมคำสัญญาสั้น-สั้นในวันเก่า
ลืมรักของสองเราไม่รู้ค่า
ฉันหดหู่-ท้อแท้เป็นผู้แพ้ตลอดมา
น้ำในตาไหลออกมาเปื้อนหัวใจ
ความหมองหม่นทุกข์ทนอยากให้...เธอรับรู้...
ว่าในใจเธอมีฉันอยู่....สักนิดไหม...
เพียงเศษเสี้ยวน้อยนิดของหัวใจ
คงไม่เหลือใช่ไหม....เวลานี้.....